
พระวจนะทรงปรากฏเป็นมนุษย์
พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย ผู้ซึ่งได้ทรงปรากฏเพื่อทรงพระราชกิจของพระองค์ ทรงแสดงความจริงทั้งมวลที่ชำระมวลมนุษย์ให้บริสุทธิ์และช่วยมวลมนุษย์ให้รอด และความจริงทั้งปวงนั้นถูกรวมอยู่ใน พระวจนะทรงปรากฏเป็นมนุษย์ นี่เป็นการทำให้สิ่งที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ได้ลุล่วงไป ความว่า “ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า” (ยอห์น 1:1) สำหรับ พระวจนะทรงปรากฏเป็นมนุษย์ แล้วนั้น นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การสร้างโลกที่พระเจ้าได้ทรงปราศรัยกับมวลมนุษย์ทั้งปวง พระดำรัสเหล่านี้ก่อร่างขึ้นเป็นข้อมูลอักษรแรกที่พระเจ้าทรงปราศรัยท่ามกลางมวลมนุษย์ ซึ่งพระองค์ทรงเปิดโปงผู้คน ทรงนำพวกเขา พิพากษาพวกเขา และตรัสอย่างเปิดใจกับพวกเขาอยู่ในนั้น และดังนั้น พระดำรัสเหล่านี้ยังเป็นพระดำรัสแรกที่พระเจ้าทรงยอมให้ผู้คนรู้จักย่างพระบาทของพระองค์ แห่งหนที่พระองค์ทรงอิงพระวรกาย พระอุปนิสัยของพระเจ้า สิ่งที่พระเจ้าทรงมีและทรงเป็น ความคิดของพระเจ้า และความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อมวลมนุษย์อยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน สามารถกล่าวได้ว่า เหล่านี้คือพระดำรัสแรกที่พระเจ้าได้ตรัสต่อมวลมนุษย์จากสวรรค์ชั้นที่สามนับตั้งแต่การทรงสร้าง และเป็นครั้งแรกที่พระเจ้าได้ทรงใช้พระอัตลักษณ์ประจำพระองค์เพื่อทรงปรากฏและทรงแสดงพระสุรเสียงจากพระทัยของพระองค์ต่อมวลมนุษย์ท่ามกลางพระวจนะทั้งหลาย
-
ภาคที่หนึ่ง: ถ้อยดำรัสของพระคริสต์ในปฐมกาล
—พระวจนะของพระวิญญาณบริสุทธิ์ถึงคริสตจักรทั้งหลาย (11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ถึง 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1991)10บทที่ 10
11บทที่ 11
12บทที่ 12
13บทที่ 13
14บทที่ 14
15บทที่ 15
16บทที่ 16
17บทที่ 17
18บทที่ 18
19บทที่ 19
20บทที่ 20
21บทที่ 21
22บทที่ 22
23บทที่ 23
24บทที่ 24
25บทที่ 25
26บทที่ 26
27บทที่ 27
28บทที่ 28
29บทที่ 29
30บทที่ 30
31บทที่ 31
32บทที่ 32
33บทที่ 33
34บทที่ 34
35บทที่ 35
36บทที่ 36
37บทที่ 37
38บทที่ 38
39บทที่ 39
40บทที่ 40
41บทที่ 41
42บทที่ 42
43บทที่ 43
44บทที่ 44
45บทที่ 45
46บทที่ 46
47บทที่ 47
48บทที่ 48
49บทที่ 49
50บทที่ 50
51บทที่ 51
52บทที่ 52
53บทที่ 53
54บทที่ 54
55บทที่ 55
56บทที่ 56
57บทที่ 57
58บทที่ 58
59บทที่ 59
60บทที่ 60
61บทที่ 61
62บทที่ 62
63บทที่ 63
64บทที่ 64
65บทที่ 65
66บทที่ 66
67บทที่ 67
68บทที่ 68
69บทที่ 69
70บทที่ 70
71บทที่ 71
72บทที่ 72
73บทที่ 73
74บทที่ 74
75บทที่ 75
76บทที่ 76
77บทที่ 77
78บทที่ 78
79บทที่ 79
80บทที่ 80
81บทที่ 81
82บทที่ 82
83บทที่ 83
84บทที่ 84
85บทที่ 85
86บทที่ 86
87บทที่ 87
88บทที่ 88
89บทที่ 89
90บทที่ 90
91บทที่ 91
92บทที่ 92
93บทที่ 93
94บทที่ 94
95บทที่ 95
96บทที่ 96
97บทที่ 97
98บทที่ 98
99บทที่ 99
100บทที่ 100
101บทที่ 101
102บทที่ 102
103บทที่ 103
104บทที่ 104
105บทที่ 105
106บทที่ 106
107บทที่ 107
108บทที่ 108
109บทที่ 109
110บทที่ 110
111บทที่ 111
112บทที่ 112
113บทที่ 113
114บทที่ 114
115บทที่ 115
116บทที่ 116
117บทที่ 117
118บทที่ 118
119บทที่ 119
120บทที่ 120
-
ภาคที่สอง: พระวจนะของพระเจ้าถึงทั้งจักรวาล
(20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 ถึง 1 มิถุนายน ค.ศ. 1992)10บทที่ 10
12บทที่ 11
13บทที่ 12
14บทที่ 13
15บทที่ 14
16บทที่ 15
17บทที่ 16
18บทที่ 17
19บทที่ 18
20บทที่ 19
21บทที่ 20
22บทที่ 21
23บทที่ 22
24บทที่ 23
25บทที่ 24
26บทที่ 25
27ชนชาติทั้งหลายเอ๋ย จงชื่นบานเถิด!
28บทที่ 26
29บทที่ 27
30บทที่ 28
31บทที่ 29
32บทที่ 30
33บทที่ 31
34บทที่ 32
35บทที่ 33
36บทที่ 34
37บทที่ 35
38บทที่ 36
39บทที่ 37
40บทที่ 38
41บทที่ 39
42บทที่ 40
43บทที่ 41
44บทที่ 42
45บทที่ 43
46บทที่ 44
47บทที่ 45
48บทที่ 46
49บทที่ 47
-
การตีความความล้ำลึกต่างๆ แห่งพระวจนะของพระเจ้าถึงทั้งจักรวาล
(การตีความของบางบท) -
ภาคที่สาม: พระวจนะของพระคริสต์ในขณะที่พระองค์ทรงดำเนินไปในคริสตจักรต่างๆ
(มิถุนายน ค.ศ. 1992 ถึง สิงหาคม ค.ศ. 2014) -
พระวจนะของพระคริสต์ในขณะที่พระองค์ทรงดำเนินไปในคริสตจักรต่างๆ 1
(มิถุนายน ค.ศ. 1992 ถึง ตุลาคม ค.ศ. 1992)9ผู้เชื่อควรที่จะยึดถือทัศนคติแบบใด
10ว่าด้วยขั้นตอนทั้งหลายในพระราชกิจของพระเจ้า
11มนุษย์ที่เสื่อมทรามไม่สามารถเป็นตัวแทนพระเจ้าได้
12การปรนนิบัติทางศาสนาต้องได้รับการชำระล้าง
13ด้วยความเชื่อในพระเจ้าของเจ้า เจ้าควรเชื่อฟังพระเจ้า
14การสถาปนาสัมพันธภาพปกติกับพระเจ้าคือสิ่งสำคัญยิ่ง
15ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณปกตินำทางผู้คนไปบนร่องครรลองที่ถูกต้อง
16พระสัญญาต่อบรรดาผู้ซึ่งได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม
19วิธีรับใช้โดยกลมเกลียวไปกับน้ำพระทัยพระเจ้า
21เกี่ยวกับชีวิตฝ่ายวิญญาณที่ปกติ
22การสนทนาเรื่องชีวิตในคริสตจักรและชีวิตจริง
23ต่อทุกคนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขา
24เกี่ยวกับการใช้มนุษย์ของพระเจ้า
25ทันทีที่เจ้าเข้าใจความจริง เจ้าควรนำมันไปสู่การปฏิบัติ
26ผู้ที่บรรลุความรอดคือผู้ที่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามความจริง
27ผู้เลี้ยงที่เหมาะสมควรเตรียมตัวให้พร้อมสรรพด้วยสิ่งใดบ้าง
31สัมพันธภาพของเจ้ากับพระเจ้าเป็นอย่างไร?
32จงมุ่งเน้นกับความเป็นจริงให้มากขึ้น
33การรักษาพระบัญญัติและการปฏิบัติความจริง
34เจ้าควรรู้ว่า พระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริงทรงเป็นพระเจ้าพระองค์เอง
35เฉพาะการนำความเป็นจริงมาปฏิบัติเท่านั้นที่เป็นการครองความเป็นจริง
36การรู้จักพระราชกิจของพระเจ้าในวันนี้
37พระราชกิจของพระเจ้าเรียบง่ายดังที่มนุษย์จินตนาการหรือ?
38เจ้าควรมีชีวิตเพื่อความจริงเพราะเจ้าเชื่อในพระเจ้า
39เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดดังกังวาน—การเผยพระวจนะว่าข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักรจะเผยแผ่ไปทั่วทั้งจักรวาล
40ความแตกต่างในแก่นแท้ระหว่างพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์กับประชากรซึ่งพระเจ้าทรงใช้งาน
41จงหนีให้พ้นจากอิทธิพลแห่งความมืด แล้วพระเจ้าจะทรงรับเจ้าไว้
42ในความเชื่อ คนเราต้องมุ่งความสนใจไปที่ความเป็นจริง—การมีส่วนในพิธีกรรมทางศาสนาหาใช่ความเชื่อไม่
43เฉพาะบรรดาผู้ที่รู้จักพระราชกิจของพระเจ้าวันนี้เท่านั้น ที่อาจรับใช้พระเจ้าได้
44รักอันจริงแท้สำหรับพระเจ้าเกิดขึ้นได้เอง
46รู้จักพระราชกิจใหม่ล่าสุดของพระเจ้าและติดตามรอยพระบาทของพระองค์
47ผู้คนที่ได้เปลี่ยนแปลงอุปนิสัยแล้วคือบรรดาผู้ที่ได้เข้าสู่ความเป็นจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้าแล้ว
48เรื่องการสงบจิตใจของเจ้าเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า
49จงใส่ใจต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าเพื่อบรรลุถึงความเพียบพร้อม
50พระเจ้าทรงทำให้บรรดาผู้ซึ่งเป็นที่สมดังพระทัยของพระองค์มีความเพียบพร้อม
51เหล่าผู้เชื่อฟังพระเจ้าด้วยใจจริงย่อมได้รับการรับไว้โดยพระเจ้าอย่างแน่นอน
52ยุคแห่งราชอาณาจักรคือยุคพระวจนะ
53ทุกสิ่งสัมฤทธิ์ได้ด้วยพระวจนะของพระเจ้า
54ผู้ที่รักพระเจ้าอย่างแท้จริงคือบรรดาผู้ที่สามารถนบนอบโดยสมบูรณ์ต่อการทรงภาคชีวิตจริงของพระองค์
55บรรดาผู้ที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมต้องก้าวผ่านกระบวนการถลุง
56เจ้าสามารถรู้จักความดีงามของพระเจ้าได้โดยการรับประสบการณ์กับการทดสอบอันแสนเจ็บปวดเท่านั้น
57การรักพระเจ้าเท่านั้นคือการเชื่อในพระเจ้าอย่างแท้จริง
58บทสนทนารวบรัดเกี่ยวกับ “อาณาจักรพันปีได้มาถึงแล้ว”
59มีเพียงผู้ที่รู้จักพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถเป็นคำพยานต่อพระเจ้า
60เปโตรได้มารู้จักพระเยซูได้อย่างไร
61มนุษย์สามารถมีความรักแท้จริงได้ โดยการได้รับประสบการณ์กับกระบวนการถลุงเท่านั้น
62บรรดาผู้ที่รักพระเจ้าจะดำเนินชีวิตภายในความสว่างแห่งพระองค์ตลอดกาล
63เฉพาะบรรดาผู้มุ่งเน้นการฝึกฝนปฏิบัติเท่านั้นที่สามารถได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมได้
64พระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์และงานของซาตาน
65คำเตือนสำหรับบรรดาผู้ที่ไม่ปฏิบัติความจริง
66เจ้าควรคงไว้ซึ่งการอุทิศตนของเจ้าต่อพระเจ้า
67เจ้าคือใครบางคนที่ได้กลับมีชีวิตขึ้นอีกหรือไม่?
-
พระวจนะของพระคริสต์ในขณะที่พระองค์ทรงดำเนินไปในคริสตจักรต่างๆ 2
(พฤศจิกายน ค.ศ. 1992 ถึง มิถุนายน ค.ศ. 1993)11นิมิตแห่งพระราชกิจของพระเจ้า (1)
12นิมิตแห่งพระราชกิจของพระเจ้า (2)
13นิมิตแห่งพระราชกิจของพระเจ้า (3)
20ความล้ำลึกแห่งการทรงจุติเป็นมนุษย์ (1)
21ความล้ำลึกแห่งการทรงจุติเป็นมนุษย์ (2)
22ความล้ำลึกแห่งการทรงจุติเป็นมนุษย์ (3)
23ความล้ำลึกแห่งการทรงจุติเป็นมนุษย์ (4)
24การจุติเป็นมนุษย์สองครั้งทำให้นัยสำคัญของการจุติเป็นมนุษย์สมบูรณ์
25ตรีเอกานุภาพมีอยู่จริงหรือไม่?
29ความจริงภายในเกี่ยวกับพระราชกิจแห่งการพิชิตชัย (1)
30เหตุใดเจ้าจึงไม่เต็มใจที่จะเป็นตัวประกอบเสริมความเด่น?
31ผลจากขั้นตอนที่สองของพระราชกิจแห่งการพิชิตชัยสัมฤทธิ์ผลได้อย่างไร
32ความจริงภายในเกี่ยวกับพระราชกิจแห่งการพิชิตชัย (2)
33ความจริงภายในเกี่ยวกับพระราชกิจแห่งการพิชิตชัย (3)
34ความจริงภายในเกี่ยวกับพระราชกิจแห่งการพิชิตชัย (4)
38จงรับใช้เหมือนที่คนอิสราเอลทำ
39การยกระดับขีดความสามารถเป็นไปเพื่อการรับความรอดของพระเจ้าไว้
40นัยสำคัญของการช่วยพงศ์พันธุ์ของโมอับให้รอด
41ประสบการณ์ของเปโตร: ความรู้ของเขาเกี่ยวกับการตีสอนและการพิพากษา
-
พระวจนะของพระคริสต์ในขณะที่พระองค์ทรงดำเนินไปในคริสตจักรต่างๆ 3
(กรกฎาคม ค.ศ. 1993 ถึง มีนาคม ค.ศ. 1994)1เจ้าควรจะเข้าร่วมภารกิจในอนาคตของเจ้าอย่างไร
2จุดประสงค์ของการบริหารจัดการมวลมนุษย์
4อัตลักษณ์ประจำตัวของมนุษย์และคุณค่าของเขา: แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านั้นเป็นเช่นไร?
5พวกที่ไม่เรียนรู้และยังคงไม่รู้เท่าทัน: พวกเขาไม่ใช่สัตว์เดียรัจฉานหรอกหรือ?
6ประชากรที่ได้รับเลือกในจีนไม่สามารถเป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ใดในอิสราเอล
7พวกเจ้ามีความเข้าใจในพระพรอย่างไร?
8อะไรคือความเข้าใจของเจ้าเกี่ยวกับพระเจ้า?
9การเป็นมนุษย์ที่แท้จริงหมายถึงอะไร
10เจ้ารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับความเชื่อ?
11เมื่อใบไม้ที่ร่วงหล่นกลับคืนสู่รากของพวกมัน เจ้าจะเสียใจกับความชั่วทั้งหมดที่เจ้าได้ทำลงไป
12ไม่มีใครที่มีเนื้อหนังสามารถหลีกหนีวันแห่งพระพิโรธได้
13พระผู้ช่วยให้รอดได้เสด็จกลับมาบน “เมฆขาว” แล้ว
14งานแห่งการเผยแผ่ข่าวประเสริฐคืองานแห่งการช่วยมนุษย์ให้รอดด้วยเช่นกัน
15พวกเจ้าทั้งหมดมีบุคลิกลักษณะต่ำช้าเหลือเกิน!
17เรื่องจริงเบื้องหลังพระราชกิจยุคแห่งการไถ่
18พระวจนะสำหรับผู้เยาว์และผู้สูงวัย
19เจ้าควรรู้ว่าองค์รวมแห่งมนุษยชาติได้พัฒนามาจนถึงปัจจุบันอย่างไร
20ว่าด้วยเรื่องชื่อและอัตลักษณ์
21ผู้ที่ได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมแล้วเท่านั้นสามารถใช้ชีวิตที่มีความหมายได้
22เจ้าควรละวางพระพรเกี่ยวกับสถานะลงและทำความเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าในการนำพาความรอดมาสู่มนุษย์
23มนุษย์ผู้ที่ได้จำกัดเขตพระเจ้าไว้ในมโนคติที่หลงผิดของเขาสามารถได้รับวิวรณ์ของพระเจ้าได้อย่างไร?
24บรรดาผู้ที่รู้จักพระเจ้าและพระราชกิจของพระองค์เท่านั้นที่สามารถทำให้พระเจ้าทรงพึงพอพระทัยได้
25ความแตกต่างระหว่างพันธกิจของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์และหน้าที่ของมนุษย์
26พระเจ้าทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสรรพสิ่งทรงสร้างทั้งปวง
27เจ้ามีจุดยืนว่าด้วยจดหมาย 13 ฉบับอย่างไร?
28ความสำเร็จหรือความล้มเหลวขึ้นอยู่กับเส้นทางที่มนุษย์เดิน
29พระราชกิจของพระเจ้าและงานของมนุษย์
30การรู้จักพระราชกิจของพระเจ้าทั้งสามช่วงระยะคือเส้นทางสู่การรู้จักพระเจ้า
31มวลมนุษย์ที่เสื่อมทรามจำเป็นต้องมีความรอดจากพระเจ้าซึ่งจุติมาเป็นมนุษย์มากกว่า
32แก่นสารของเนื้อหนังที่พระเจ้าทรงประทับ
33พระราชกิจของพระเจ้าและการปฏิบัติของมนุษย์
34เนื้อแท้ของพระคริสต์คือการเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระบิดาแห่งสวรรค์
35การฟื้นคืนชีวิตที่ปกติของมนุษย์และการนำมนุษย์ไปสู่บั้นปลายอันน่าอัศจรรย์
-
พระวจนะของพระคริสต์ในขณะที่พระองค์ทรงดำเนินไปในคริสตจักรต่างๆ 4
(ค.ศ. 1994 ถึง ค.ศ. 1997, ค.ศ. 2003 ถึง ค.ศ. 2005)1ในเวลาที่เจ้าได้เห็นกายจิตวิญญาณของพระเยซู พระเจ้าจะได้ทรงสร้างสวรรค์และแผ่นดินโลกขึ้นใหม่แล้ว
2พวกที่เข้ากันไม่ได้กับพระคริสต์คือปรปักษ์ของพระเจ้าอย่างแน่นอน
3ผู้ที่ถูกเรียกมีมากมาย แต่ผู้ที่ถูกเลือกมีเพียงนิดเดียว
4เจ้าควรแสวงหาหนทางแห่งการเข้ากันได้กับพระคริสต์
5เจ้าเป็นผู้เชื่อในพระเจ้าที่แท้จริงหรือไม่
6พระคริสต์ทรงพระราชกิจแห่งการพิพากษาด้วยความจริง
7เจ้ารู้หรือไม่ว่า พระเจ้าได้ทรงกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ท่ามกลางมวลมนุษย์?
8พระคริสต์แห่งยุคสุดท้ายเท่านั้นที่ทรงสามารถประทานหนทางแห่งชีวิตนิรันดร์แก่มนุษย์ได้
9ตระเตรียมความประพฤติที่ดีงามให้พอเพียงสำหรับบั้นปลายของเจ้า
13การล่วงละเมิดจะนำทางมนุษย์ไปสู่นรก
14การเข้าใจพระอุปนิสัยของพระเจ้ามีความสำคัญมาก
15วิธีรู้จักพระเจ้าบนแผ่นดินโลก
16ปัญหาที่ร้ายแรงมาก: การทรยศ (1)
17ปัญหาที่ร้ายแรงมาก: การทรยศ (2)
18ประกาศกฤษฎีกาบริหารสิบประการซึ่งประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรรในยุคแห่งราชอาณาจักรต้องเชื่อฟัง
19พวกเจ้าควรจะพิจารณาความประพฤติทั้งหลายของเจ้า
20พระเจ้าทรงเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตมนุษย์
21การทอดถอนพระทัยขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์
22การทรงปรากฏของพระเจ้าได้นำมาซึ่งยุคใหม่
23พระเจ้าทรงเป็นประธานเหนือชะตากรรมของมวลมนุษย์ทั้งปวง
24มนุษย์สามารถได้รับการช่วยให้รอดท่ามกลางการบริหารจัดการของพระเจ้าเท่านั้น
-
พระวจนะของพระคริสต์ในขณะที่พระองค์ทรงดำเนินไปในคริสตจักรต่างๆ (ส่วนต่อเนื่อง)
(17 ตุลาคม ค.ศ. 2013 ถึง 18 สิงหาคม ค.ศ. 2014)1การรู้จักพระเจ้าคือเส้นทางสู่การยำเกรงพระเจ้าและการหลบเลี่ยงความชั่ว
2วิธีรู้จักพระอุปนิสัยของพระเจ้าและผลลัพธ์ที่พระราชกิจของพระองค์จะสัมฤทธิ์
3พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 1
4พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 2
5พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 3
6พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 1
7พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 2
8พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 3
9พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 4
10พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 5
11พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 6
12พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 7
13พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 8
ภาคผนวก: มองดูการทรงปรากฏของพระเจ้าในการพิพากษาและการตีสอนของพระองค์