บทที่ 82

เมื่อได้ยินวจนะของเรา ทุกคนต่างหวาดกลัว แต่ละคนเต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นใจ  พวกเจ้ากลัวสิ่งใด?  เราไม่ได้จะสังหารพวกเจ้าสักหน่อย!  เป็นเพราะพวกเจ้ามีความสำนึกผิด สิ่งที่พวกเจ้าทำลับหลังเรานั้นเหลาะแหละไม่จริงจังและไร้คุณค่าเหลือเกิน  การนี้ทำให้เราเกลียดชังเจ้ามากจนเราปรารถนาอย่างแรงกล้าว่าเราน่าจะโยนทุกคนที่เราไม่ได้เลือกสรรและลิขิตไว้ล่วงหน้าลงสู่บาดาลลึก ให้ถูกทุบทำลายไม่เป็นชิ้นดี  อย่างไรก็ตาม เรามีแผนการของเรา เรามีเป้าหมายของเรา  เราจะไว้ชีวิตที่ต่ำต้อยของเจ้าเอาไว้ก่อนในเวลานี้ และละเว้นไม่ไล่เจ้าออกไปจนถึงเวลาที่เจ้ารับใช้เราเสร็จสิ้น  เราไม่ต้องการเห็นสิ่งสร้างเยี่ยงนี้ พวกเขาทำให้นามของเราเสื่อมเสีย!  เจ้ารู้การนี้หรือไม่?  เจ้าเข้าใจหรือไม่?  พวกวายร้ายที่ไร้ค่า!  จงจำใส่สมองของพวกเจ้าไว้!  เมื่อเจ้าถูกใช้ เรานั่นเองคือผู้ทำเช่นนั้น และเมื่อเจ้าไม่ได้ถูกใช้ นี่ก็เป็นเพราะเราเช่นกัน  ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเราจัดวางเรียบเรียง และในมือของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างทำตัวดีและมีระเบียบ  ผู้ใดก็ตามที่กล้าขยับผิดที่ผิดทางจะถูกมือของเราบดขยี้ในทันที  เรากล่าวบ่อยครั้งว่า “ถูกบดขยี้” เจ้าคิดจริงหรือว่าเราทำเช่นนั้นด้วยมือของเราเอง?  เราไม่จำเป็นต้องทำดังนั้นเลย!  การกระทำของเราไม่เขลาเหมือนที่มนุษย์จินตนาการ  เมื่อกล่าวว่าทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดและสำเร็จลุล่วงโดยวจนะของเรา นั่นหมายความว่าอย่างไร?  ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จลุล่วงโดยที่เราไม่ต้องขยับนิ้วของเราเลยด้วยซ้ำ  เจ้าเข้าใจความหมายที่แท้จริงแห่งวจนะของเราหรือไม่?

เราจะไม่มีวันนำความรอดมาสู่ผู้ที่ทำงานปรนนิบัติเพื่อเรา พวกเขาไม่มีส่วนในราชอาณาจักรของเรา  นี่เป็นเพราะผู้คนเหล่านี้เอาแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องภายนอกเท่านั้น แทนที่จะทำตามเจตจำนงของเรา  แม้ว่าเรากำลังใช้พวกเขาอยู่ในเวลานี้ แต่ในความเป็นจริงพวกเขาคือผู้คนที่เราเกลียดชังที่สุด ผู้คนที่เรารังเกียจที่สุด  ในวันนี้เรารักทุกคนที่สามารถทำตามเจตจำนงของเรา ผู้ใดก็ตามที่สามารถคำนึงถึงภาระของเรา และผู้ใดก็ตามที่สามารถมอบทั้งหมดที่พวกเขามีเพื่อเราด้วยหัวใจที่แท้จริงและด้วยความจริงใจ  เราจะให้ความรู้แจ้งแก่พวกเขาอยู่เสมอ และจะไม่ปล่อยให้พวกเขาจากเราไป  เรากล่าวอยู่บ่อยครั้งว่า “บรรดาผู้ที่สละเพื่อเราอย่างจริงใจ เราจะอวยพรเจ้าอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน”  คำว่า “อวยพร” อ้างอิงถึงสิ่งใด?  เจ้ารู้หรือไม่?  ในบริบทแห่งพระราชกิจปัจจุบันของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คำนี้อ้างอิงถึงภาระที่เรามอบให้เจ้า  สำหรับทุกคนที่สามารถแบกรับภาระให้คริสตจักรได้และทุกคนที่มอบตัวพวกเขาเองให้แก่เราอย่างจริงใจ ทั้งภาระของพวกเขาและความจริงจังตั้งใจของพวกเขาคือพรที่มาจากเรา  นอกจากนี้วิวรณ์ที่เราเผยแก่พวกเขาก็เป็นพรประการหนึ่งจากเราด้วย  นี่เป็นเพราะพวกที่ไม่มีภาระในปัจจุบันไม่ได้ถูกเราเลือกสรรและลิขิตไว้ล่วงหน้า คำสาปแช่งของเราจึงบังเกิดแก่พวกเขา  กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ บรรดาผู้ที่เราเลือกสรรและลิขิตไว้ล่วงหน้าย่อมมีส่วนในแง่มุมที่เป็นบวกของสิ่งที่เราได้กล่าวไป ส่วนพวกที่เราไม่ได้เลือกสรรและลิขิตไว้ล่วงหน้าย่อมสามารถมีส่วนแต่เพียงในแง่มุมที่เป็นลบแห่งถ้อยคำของเราเท่านั้น  ยิ่งวจนะของเราถูกกล่าวไปมากเท่าใด ความหมายของมันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเท่านั้น ยิ่งเรากล่าววจนะมากเท่าใด วจนะก็ยิ่งชัดแจ้งขึ้นเท่านั้น  พวกที่คดโกงและหลอกลวง และพวกที่เราไม่ได้ลิขิตไว้ล่วงหน้า ทุกคนถูกเราสาปแช่งไว้ก่อนการสร้างโลกแล้ว  เหตุใดจึงกล่าวกันว่า ปี เดือน วัน และแม้กระทั่งชั่วโมง นาที และวินาทีแห่งการเกิดของพวกเจ้าล้วนแต่ถูกเราวางแผนไว้อย่างเหมาะสม?  เราลิขิตล่วงหน้ามานานแล้วว่าผู้ใดจะได้รับสถานะเป็นบุตรหัวปี  พวกเขาอยู่ในสายตาของเรา เราถือว่าพวกเขาล้ำค่ามานานแล้ว และพวกเขามีพื้นที่ในหัวใจของเรามานานแล้ว  วจนะทุกคำที่เรากล่าวมีน้ำหนักและสื่อถึงแนวคิดทั้งหลายของเรา  มนุษย์คือสิ่งใด?  นอกจากผู้คนไม่กี่คนที่เรารักและมีสถานะบุตรหัวปีแล้ว มีใครคำนึงถึงเจตนารมณ์ของเราบ้าง?  บุตรของเรามีค่าอันใดหรือ?  ประชากรของเรามีค่าอันใดหรือ?  ในอดีต คำว่า “บุตรของเรา” คือชื่อเรียกบุตรหัวปีของเรา แต่พวกบุตรของเราและประชากรของเราที่ไม่รู้จักละอายกลับคิดว่าเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติของพวกเขา  จงอย่าเล่นบทบาทบุตรหัวปีของเราอย่างไร้ยางอาย  เจ้าสมควรแก่ตำแหน่งนี้หรือ?  ในวันนี้ผู้ที่จะได้รับการยืนยันความถูกต้องมีแต่บรรดาผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญต่อหน้าเราเท่านั้น ผู้คนเหล่านี้ได้รับสถานะบุตรหัวปี  พวกเขามีส่วนในบัลลังก์ของเรา มงกุฎของเรา สง่าราศีของเรา และราชอาณาจักรของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเราจัดการเตรียมการไว้อย่างพิถีพิถัน  บรรดาผู้ที่ได้รับสถานะบุตรหัวปีในวันนี้ต่างก็ก้าวผ่านความเจ็บปวด การข่มเหง และความทุกข์ยากอันใหญ่หลวง รวมไปถึงสิ่งที่พวกเขาผ่านประสบการณ์ในครอบครัวของพวกเขาตั้งแต่เกิด ความสำเร็จส่วนบุคคลที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้ งาน และชีวิตคู่ของพวกเขาเอง  บุตรหัวปีเหล่านี้ไม่ได้ดำรงสถานะนี้โดยไม่มีสิ่งที่ต้องแลก ตรงกันข้าม พวกเขาก้าวผ่านแง่มุมทั้งหมดของชีวิตแล้ว กล่าวคือ ทั้งที่ดีและไม่ดี ทั้งมีขึ้นและมีลง  พวกที่เมื่อก่อนนี้ผู้คนในโลกเคยนับหน้าถือตาว่าสูงส่ง และพวกที่ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายอยู่ที่บ้าน ย่อมไม่มีส่วนในบรรดาบุตรหัวปี  พวกเขาไม่สมควรได้เป็นบุตรหัวปี พวกเขานำความเสื่อมเสียมาสู่นามของเรา และเราไม่ต้องการพวกเขาอย่างแน่นอนที่สุด  บุตรของเราและประชากรของเราที่เราได้เลือกสรรล้วนมีชื่อเสียงอันดีในโลกอีกด้วย แต่พวกเขายังห่างไกลจากบุตรหัวปีของเรามากนัก  ปัจจุบันเรากำลังใช้ผู้คนบางคน แต่หลายคนในหมู่พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นประชากรของเราด้วยซ้ำ  พวกเขาเป็นเพียงเป้าหมายแห่งความพินาศชั่วนิรันดร์ พวกเขาถูกใช้ให้มอบการปรนนิบัติแก่เราอยู่ระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายให้เป็นการใช้ประโยชน์ในระยะยาว  เราตัดสินใจแล้วจากส่วนลึกในหัวใจของเราว่าจะใช้ผู้ใดในระยะยาว  นั่นก็คือ บรรดาผู้ที่เราให้อยู่ในตำแหน่งสำคัญๆ คือผู้คนที่เรารัก และเราก็เริ่มใช้พวกเขามานานแล้ว  กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หน้าที่ของพวกเขาถูกกำหนดไว้แล้ว  ส่วนผู้คนที่เรารังเกียจ พวกเขาถูกใช้เพียงชั่วคราวในช่วงระยะปัจจุบัน  เมื่อคนต่างชาติมา นั่นคือเวลาที่บรรดาบุตรหัวปีจะถูกเผยแก่พวกเจ้าอย่างชัดเจน

บัดนี้เราพึงประสงค์ให้พวกเจ้าเติบโตโดยเร็วและคำนึงถึงภาระของเรา  ภาระนี้ไม่ใหญ่หลวงเกินไป และเราจะให้พวกเจ้าทำแต่สิ่งที่อยู่ในความสามารถของพวกเจ้าเท่านั้น  เรารู้จักวุฒิภาวะของพวกเจ้า เรารู้ว่าหน้าที่ใดที่พวกเจ้าสามารถทำได้  เรารู้ทั้งหมดนี้ และเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้ เราเพียงปรารถนาให้พวกเจ้าซึ่งเป็นบุตรของเรา เต็มใจที่จะปฏิเสธตนเองและสามารถรักสิ่งที่เรารัก เกลียดสิ่งที่เราเกลียด ทำสิ่งที่เราทำ และพูดสิ่งที่เราพูดได้อย่างแท้จริง  จงอย่าถูกพื้นที่ ภูมิศาสตร์ กาลเวลา หรือบุคคลอื่นใดตีกรอบเอาไว้  เราปรารถนาให้วิญญาณของพวกเจ้าเป็นอิสระในทุกหนแห่ง และให้พวกเจ้าแต่ละคนสามารถยืนอยู่ในตำแหน่งบุตรหัวปีของเรา  ผู้ใดมอบการดำรงอยู่ทั้งหมดทั้งมวลของพวกเขาให้แก่เราในวันนี้?  ผู้ใดสละเพื่อเราอย่างจงรักภักดี?  ผู้ใดตื่นอยู่ทั้งวันทั้งคืนเพื่อเรา?  ผู้ใดดูแลกิจธุระทั้งหลายในบ้านของเราให้แก่เรา?  ผู้ใดบรรเทาภาระบนบ่าของเราเพื่อเรา?  พวกเขาไม่ใช่บุตรของเราหรอกหรือ?  ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำก็เพื่อทำให้บุตรของเรามีความเพียบพร้อมและเป็นการปรนนิบัติบุตรของเรา  เจ้าเข้าใจหรือไม่?  ทั้งหมดก็เพื่อบุตรหัวปีของเรา และเราไม่ทำผิดพลาด  จงอย่าเชื่อผิดๆ ว่าเราตัดสินผู้คนผิด และจงอย่าคิดว่าเราดูแคลนเจ้า  จงอย่าคิดเอาเองว่าเราไม่ใช้คนที่มีความสามารถพิเศษและเก่งกาจให้เป็นประโยชน์ หรือว่าเราทำพลาดที่ไม่ได้ลิขิตเจ้าไว้ล่วงหน้า  ไม่ใช่เช่นนั้นเลย แต่เป็นเพราะเจ้าไม่สมควรได้รับมัน!  เจ้ารู้การนั้นหรือไม่?  บัดนี้เราจะยืนยันบางสิ่งแก่พวกเจ้า กล่าวคือ ผู้ใดก็ตามที่กระตุ้นให้เราโมโหอยู่เป็นนิจและมักจะเป็นเป้าให้เราวิพากษ์วิจารณ์หรือตัดแต่ง ย่อมเป็นเป้าหมายแห่งความเกลียดชังของเราเป็นแน่  ผู้คนเยี่ยงนี้ย่อมจะตายอย่างแน่นอน—การนี้มิอาจเปลี่ยนแปลงได้  เรากล่าวไปแล้วว่าเราจะไม่ตัดแต่งบุตรหัวปีของเราอีกต่อไป เพราะผู้คนเหล่านี้ได้ก้าวผ่านการทดสอบที่รุนแรงของเราและได้รับการรับรองจากเราเรียบร้อยแล้ว  ผู้ใดก็ตามที่เรามองดูด้วยสีหน้าบึ้งตึงย่อมตกอยู่ในอันตราย  เจ้าไม่กลัวหรือ?  หลายคนจะตายทันทีที่วจนะของเราออกจากปากของเรา  อย่างไรก็ตาม บางคนจะยังคงดำรงเนื้อหนังของพวกเขา เพียงแต่ว่าวิญญาณของพวกเขานั้นตายสิ้น  เครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดของพวกเขาก็คือพวกเขาไม่มีพระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์และไม่ยอมจำนนต่อข้อห้ามใดๆ  (พวกเขาถูกซาตานทำให้เสื่อมทรามไปแล้วอย่างลึกล้ำ)  เมื่อใดก็ตามที่เนื้อหนังของพวกเขาจบสิ้น นั่นย่อมเกิดขึ้นหลังจากที่เราวางแผนอย่างเหมาะสมและในเวลาที่เราระบุไว้  ความตายทางวิญญาณของพวกเขาไม่สามารถทำงานปรนนิบัติที่ยิ่งใหญ่ให้เราได้ เราจะใช้เนื้อหนังของพวกเขามาแสดงให้เห็นถึงความน่าอัศจรรย์แห่งกิจการของเรา  จากการนี้ ผู้คนจะเชื่อมั่น พวกเขาจะสรรเสริญอย่างไม่สิ้นสุด และจะไม่มีผู้ใดที่ไม่ยำเกรงและครั่นคร้ามต่อเรา  เราไม่ดูเบารายละเอียดอันใด ทั้งหมดต้องมีชีวิตหรือตายเพื่อเรา และไม่มีผู้ใดที่สามารถผละจากไปได้จนกว่าพวกเขาจะทำการปรนนิบัติเพื่อเราไปแล้ว  แม้แต่ซาตานก็ไม่สามารถถอยกลับเข้าสู่บาดาลลึกได้จนกว่ามันจะทำการปรนนิบัติเพื่อเราไปแล้ว  ทุกย่างก้าวของเราหนักแน่นและมั่นคง และอยู่บนผืนปฐพีที่เป็นปึกแผ่น ไม่มีย่างก้าวใดของเราที่ไม่สัมพันธ์กับชีวิตจริง—ไม่มีแม้แต่น้อย

ผู้ใดจะกล้าเปรียบกับเรา?  ผู้ใดจะกล้าต่อต้านเรา?  เราจะบดขยี้เจ้าในทันที!  เราจะไม่ทิ้งร่องรอยไว้ และเนื้อหนังของเจ้าจะถูกลบล้างไปสิ้น การนี้จริงอย่างแน่นอนที่สุด  เมื่อเรากล่าวสิ่งเหล่านี้ เราลงมือทำตามนี้ทันที และจะไม่มีการถอย  โลกแหลกสลายลงทุกวี่วัน และวันแล้ววันเล่ามวลมนุษย์กำลังพินาศ  ในแต่ละวันที่ผ่านไป ราชอาณาจักรของเรากำลังเป็นรูปเป็นร่างและบรรดาบุตรหัวปีของเรากำลังเติบโต  นับวันความเดือดดาลของเรายิ่งเพิ่มพูน การตีสอนของเรายิ่งรุนแรงขึ้น และวจนะของเรายิ่งเกรี้ยวกราด  พวกเจ้ายังคงเฝ้าคอยให้เรากล่าวแก่พวกเจ้าอย่างอ่อนโยนขึ้น และให้กระแสเสียงของเราแจ่มใสขึ้น แต่จงคิดเสียใหม่!  กระแสเสียงของเราขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังจัดการผู้คนแบบใด  กับบรรดาผู้ที่เรารัก กระแสเสียงของเราย่อมอ่อนโยนและปลอบประโลมเสมอ แต่กับพวกเจ้า เราได้แต่แสดงความเกรี้ยวกราดและการพิพากษาเท่านั้น นอกจากนั้นเรายังเพิ่มการตีสอนและความเดือดดาลลงไป  สถานการณ์ในทุกประเทศทั่วโลกกำลังตึงเครียดขึ้นทุกที แหลกสลายและตกอยู่ในความอลหม่านทุกวี่วันโดยไม่มีผู้ใดตระหนักรู้  ผู้นำของแต่ละประเทศต่างก็พากันหวังว่าจะได้อำนาจมาในท้ายที่สุด  พวกเขาหาได้ฉุกคิดอย่างแท้จริงไม่ว่าการตีสอนของเรามาถึงตัวพวกเขาแล้ว  พวกเขาพยายามแย่งชิงพลังอำนาจของเรา—แต่อำนาจของพวกเขาเป็นแต่เพียงความฝันเฟื่องเท่านั้น!  แม้แต่ผู้นำของสหประชาชาติยังต้องวิงวอนขอให้เรายกโทษ  การกระทำอันชั่วของเขานั้นมีมากมาย  บัดนี้ถึงเวลาของการตีสอนแล้ว และเราจะไม่ปล่อยเขาไปโดยง่าย  พวกที่อยู่ในอำนาจต้องปลดมงกุฎของตนออก มีเพียงเราเท่านั้นที่สมควรจะปกครองสรรพสิ่ง  ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา—ทุกสิ่ง รวมแม้กระทั่งคนต่างชาติหยิบมือหนึ่งด้วย  เราจะบดขยี้ทุกคนที่พินิจพิเคราะห์เราทันที เพราะงานของเรามาไกลขนาดนี้แล้ว  ทุกวันมีวิวรณ์ใหม่ ทุกวันมีความสว่างใหม่  ทั้งหมดกำลังครบบริบูรณ์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ  วันสุดท้ายของซาตานกำลังใกล้เข้ามาทุกทีและเป็นที่ประจักษ์ชัดมากขึ้น

ก่อนหน้า: บทที่ 81

ถัดไป: บทที่ 83

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 6) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 7) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 8) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 9) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger