บทที่ 72
หากเจ้าค้นพบข้อบกพร่องหรือความอ่อนแอในตัวเจ้า เจ้าต้องพึ่งพาเราโดยทันทีเพื่อปลดปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระจากมัน จงอย่าชักช้า มิฉะนั้น พระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะอยู่ไกลจากเจ้าเกินไป และเจ้าจะตามหลังอยู่ไกลมาก งานที่เราได้ไว้วางใจมอบหมายให้เจ้าทำสามารถสำเร็จลุล่วงได้โดยการเข้ามาใกล้ การอธิษฐาน และการมีสามัคคีธรรมเป็นนิจศีลในการสถิตของเรา หากเจ้าไม่ทำสิ่งเหล่านี้ เช่นนั้นแล้วก็จะไม่มีผลใดถูกสัมฤทธิ์ และทั้งหมดก็จะถูกทำไปโดยไร้ประโยชน์ งานของเราในวันนี้ไม่เหมือนกับในอดีต ขอบข่ายของชีวิตในผู้คนที่เรารักแตกต่างอย่างมากจากสิ่งที่มันเคยเป็นก่อนหน้า พวกเขาทั้งหมดมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับวจนะของเรา ตลอดจนความรู้ความเข้าใจเชิงลึกที่หลักแหลมในวจนะเหล่านั้น นี่เป็นแง่มุมที่เด่นชัดที่สุด ซึ่งสามารถอย่างที่สุดที่จะสะท้อนความอัศจรรย์ของงานของเรา ความเร็วของงานของเราได้เร่งรัดขึ้นมาแล้ว และงานนี้แตกต่างจากอดีตอย่างแน่นอน มันเป็นเรื่องลำบากยากเย็นที่ผู้คนจะจินตนาการ และยิ่งไปกว่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหยั่งลึก ไม่มีสิ่งใดเป็นความลึกลับสำหรับพวกเจ้าอีกต่อไป แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ทั้งหมดกลับได้ถูกทำให้เป็นที่รู้จักและสำแดงชัดแจ้ง มันโปร่งใส มันถูกปลดปล่อย และที่มากกว่านั้น มันเป็นการให้เปล่าอย่างสมบูรณ์ บรรดาผู้ที่เรารักจะไม่ถูกจำกัดโดยบุคคล เหตุการณ์ หรือสิ่งใด อีกทั้งไม่ถูกจำกัดโดยพื้นที่หรือสภาพภูมิศาสตร์ใดอย่างแน่นอน พวกเขาจะอยู่เหนือล้ำการควบคุมที่ถูกบังคับใช้โดยทุกสภาพแวดล้อมและออกมาจากเนื้อหนัง นี่คือการสำเร็จบริบูรณ์ของงานอันยิ่งใหญ่ของเรา จะไม่มีสิ่งใดให้ทำในภายหลังอีกต่อไป มันจะเสร็จสิ้นอย่างครบบริบูรณ์
การสำเร็จบริบูรณ์ของงานอันยิ่งใหญ่ถูกเอ่ยถึงในการอ้างอิงถึงบุตรหัวปีทั้งหมดและผู้คนทั้งหมดที่เรารัก หลังจากนี้ เจ้าจะไม่ถูกควบคุมโดยบุคคล เหตุการณ์ หรือสิ่งใด เจ้าจะเดินทางไปทั่วนานาชนชาติของจักรวาล เดินทางข้ามทั้งระบบจักรวาล และทิ้งรอยเท้าของพวกเจ้าไว้ทุกหนแห่ง จงอย่าพิจารณาว่านี่เป็นการหลุดออกนอกทางไปไกล มันเป็นบางสิ่งที่จะเป็นจริงในไม่ช้านี้ ต่อหน้าต่อตาของเจ้าโดยตรง สิ่งที่เราทำจะได้รับการไว้วางใจมอบหมายให้พวกเจ้าทำ และสถานที่ที่เราก้าวย่างจะมีรอยเท้าของพวกเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือความหมายที่แท้จริงของการที่พวกเรา—พวกเจ้ากับเรา—ครองราชย์ในฐานะกษัตริย์ร่วมกัน เจ้าได้ไตร่ตรองแล้วหรือไม่ว่าเป็นเพราะเหตุใดที่วิวรณ์ที่เรามอบให้ยิ่งชัดเจนขึ้นตลอด และเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ถูกซ่อนเร้นแม้แต่น้อย? เหตุใดเราจึงได้เป็นพยานสูงสุดและได้เล่าข้อล้ำลึกเหล่านี้ทั้งหมดและวจนะเหล่านี้ทั้งหมดให้พวกเจ้าฟัง? เหตุผลก็ไม่ใช่สิ่งใดนอกเหนือจากงานที่กล่าวไว้ข้างต้น อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของงานของพวกเจ้าในปัจจุบันช้าเกินไป พวกเจ้าไม่สามารถตามการก้าวไปข้างหน้าของเราได้ทัน พวกเจ้าไม่สามารถร่วมมือกับเราได้ดีนัก และสำหรับตอนนี้ พวกเจ้ายังคงไม่สามารถสัมฤทธิ์เจตจำนงของเรา เราต้องฝึกฝนพวกเจ้าอย่างเข้มข้นมากขึ้นและเร่งความเร็วของการที่เราทำให้พวกเจ้าครบบริบูรณ์ เพื่อให้พวกเจ้าสามารถนำความพึงพอใจมาสู่หัวใจของเราโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ในปัจจุบัน สิ่งที่เด่นชัดที่สุดคือกลุ่มบุตรหัวปีได้ก่อร่างขึ้นอย่างครบบริบูรณ์แล้ว ทั้งหมดได้รับการเห็นชอบจากเรา และถึงกับได้รับการลิขิตล่วงหน้าและเลือกสรรโดยเราตั้งแต่การทรงสร้างพิภพ แต่ละคนได้รับการส่งเสริมด้วยมือของเราเอง ไม่มีที่ว่างสำหรับการพิจารณาของมนุษย์แต่อย่างใดในการนี้ มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเจ้า จงอย่าภูมิใจ ทั้งหมดคือความใจดีมีเมตตาและความสงสารของเรา จากมุมมองของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างได้สำเร็จลุล่วงแล้ว มันเป็นเพียงแค่ว่าดวงตาของพวกเจ้าพร่ามัวเกินไป และแม้แต่ตอนนี้ พวกเจ้าก็ยังไม่สามารถได้รับภาพที่ชัดเจนของความอัศจรรย์แห่งกิจการของเรา ไม่มีพวกเจ้าคนใดที่ครองความเข้าใจที่ชัดเจนหรือที่แท้จริงอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับฤทธานุภาพไม่สิ้นสุดของเรา ปัญญาของเรา ทุกการกระทำของเรา หรือทุกวจนะและทุกกิจการของเรา ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงพูดอย่างชัดเจน สำหรับบรรดาบุตรของเรา ที่รักของเรา เราเต็มใจจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทำงานตรากตรำ และสละตัวเราเอง เจ้ารู้จักเราโดยผ่านทางวจนะของเราหรือไม่? เจ้าจำเป็นต้องให้เราเปล่งวจนะเหล่านั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไหม? จงอย่าเกเรอีกต่อไป จงแสดงให้เห็นการคำนึงถึงหัวใจของเรา! บัดนี้ที่ข้อล้ำลึกอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ถูกบอกกับพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้ายังมีสิ่งใดจะพูดหรือไม่? เจ้ายังมีเรื่องร้องทุกข์ใดๆ อีกไหม? หากเจ้าไม่จ่ายตามราคาและทำงานหนัก เช่นนั้นแล้วเจ้าจะควรค่ากับความพยายามอย่างอุตสาหะทั้งหมดที่เราได้ทำลงไปได้หรือ?
ทุกวันนี้ผู้คนไม่สามารถควบคุมตัวพวกเขาเองได้ ความรักที่มีต่อเราไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในพวกที่เราไม่โปรดปรานแม้ว่าพวกเขาจะต้องการมันก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่เราได้ลิขิตไว้ล่วงหน้าและได้เลือกสรรแล้วจะไม่สามารถหนีพ้นได้ แม้ว่าพวกเขาอาจต้องการหนีพ้น ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะไปที่ใด พวกเขาก็ไม่สามารถเลี่ยงหนีมือของเราได้ เช่นนั้นคือบารมีของเรา และที่มากกว่านั้น การพิพากษาของเรา ผู้คนทั้งหมดต้องไปทำกิจธุระของพวกเขาโดยสอดคล้องกับแผนการของเราและเจตจำนงของเรา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกลับมาที่มือของเราและอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขาโดยสิ้นเชิง ทุกสิ่งทุกอย่างถูกควบคุมและจัดการเตรียมการโดยเรา หากผู้คนมีส่วนร่วมบ้างเล็กน้อยแล้วไซร้ เราก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไปโดยง่าย เริ่มจากวันนี้ เราจะปล่อยให้ผู้คนทั้งหมดเริ่มรู้จักเรา—พระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว ผู้ได้ทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้ได้ทรงมาท่ามกลางพวกมนุษย์และได้ทรงถูกพวกเขาปฏิเสธและใส่ร้ายป้ายสี และผู้ทรงควบคุมและทรงจัดการเตรียมการทุกสิ่งทุกอย่างให้ครบถ้วนบริบูรณ์ กษัตริย์ผู้ทรงกำกับดูแลราชอาณาจักร พระเจ้าพระองค์เองผู้ทรงบริหารจัดการระบบจักรวาลทั้งหลาย และยิ่งไปกว่านั้น พระเจ้าผู้ทรงควบคุมชีวิตและความตายของพวกมนุษย์ และผู้ทรงถือกุญแจแห่งแดนคนตาย เราจะปล่อยให้พวกมนุษย์ทั้งหมด (ผู้ใหญ่และเด็ก ไม่ว่าพวกเขาจะมีวิญญาณหรือไม่ และไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนโง่หรือมีความพิการหรือไม่ ฯลฯ) รู้จักเรา เราจะไม่ให้ผู้ใดมีข้ออ้างไปจากกิจนี้ มันเป็นงานที่หนักหน่วงที่สุด เป็นกิจที่เราได้ตระเตรียมอย่างดีและเป็นกิจที่กำลังถูกดำเนินการให้เสร็จสิ้น โดยเริ่มตั้งแต่บัดนี้เลย สิ่งที่เราพูดจะต้องทำ จงเปิดดวงตาฝ่ายวิญญาณของเจ้าให้กว้าง จงทิ้งมโนคติที่หลงผิดเฉพาะตัวของเจ้าไปเสีย และจงระลึกรู้ว่าเราเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวผู้ทรงบริหารจักรวาล! เราไม่ถูกซ่อนเร้นจากผู้ใด และเราดำเนินประกาศกฤษฎีกาบริหารของเราจนเสร็จสิ้นกับทุกคน
จงวางสรรพสิ่งของเจ้าเองทั้งหมดเอาไว้ก่อน สรรพสิ่งที่เจ้าได้รับจากเราไม่ได้มีคุณค่ายิ่งกว่า และมีนัยสำคัญมากกว่ายิ่งนักหรอกหรือ? ไม่มีความแตกต่างอย่างมโหฬารระหว่างพวกมันกับขยะนั่นของเจ้าหรือ? จงรีบโยนทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีประโยชน์ทิ้งไป! กำลังมีการตัดสินใจอยู่ในขณะนี้ว่าเจ้าจะได้รับพระพรหรือพบกับโชคร้าย นี่เป็นชั่วขณะที่สำคัญยิ่งยวด มันเป็นแม้แต่ชั่วขณะที่วิกฤตที่สุด เจ้าสามารถมองเห็นการนี้ได้อย่างแท้จริงหรือไม่?