บทที่ 73

วจนะของเราลุล่วงทันทีที่เราได้พูดมันออกมา วจนะไม่เคยเปลี่ยนแปลง และถูกต้องอย่างสัมบูรณ์  จงจำการนี้ไว้!  เจ้าต้องพิจารณาวจนะแต่ละคำและทุกวลีที่ออกจากปากของเราอย่างพิถีพิถัน  จงรอบคอบระมัดระวังมากขึ้น หาไม่แล้วเจ้าย่อมทนทุกข์กับการสูญเสียและได้รับเพียงการพิพากษาของเรา ความโกรธเคืองของเรา และการเผาผลาญจากเราเท่านั้น  บัดนี้งานของเรากำลังเคลื่อนไปตามทางในอัตราที่เร็วมาก แต่ไม่ใช่ไร้รายละเอียด งานของเราประณีตอย่างละเอียดอ่อนถึงขนาดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าในทางปฏิบัติ และไม่สามารถคว้าจับด้วยมือของมนุษย์  มันละเอียดถี่ถ้วนเป็นพิเศษ  เราไม่เคยเปล่งถ้อยคำที่เลื่อนลอย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากล่าวนั้นจริงแท้  เจ้าควรเชื่อว่าทุกวจนะของเรานั้นแท้จริงและถูกต้องแม่นยำ  จงอย่าประมาท นี่เป็นชั่วขณะที่สำคัญยิ่ง!  การที่เจ้าจะได้มาซึ่งพรทั้งหลายหรือโชคร้ายนั้นจะตัดสินในชั่วขณะนี้นี่เอง และความแตกต่างก็เหมือนกับความแตกต่างระหว่างฟ้าสวรรค์กับแผ่นดินโลก  การที่เจ้าจะไปสวรรค์หรือแดนคนตายย่อมอยู่ในการควบคุมของเราอย่างเบ็ดเสร็จ  พวกที่จะไปยังแดนคนตายกำลังเข้าร่วมในการต่อสู้ดิ้นรนครั้งสุดท้ายที่กำลังจะสิ้นสุดของพวกเขา ขณะที่บรรดาผู้ที่จะไปสวรรค์ก็ง่วนอยู่กับเสี้ยวสุดท้ายแห่งการทนทุกข์และการสละเพื่อเราเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขา  ในอนาคตทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำจะเกี่ยวข้องกับความชื่นชมยินดีและการสรรเสริญ โดยปราศจากสิ่งสัพเพเหระทั้งปวงที่ทำให้ผู้คนยุ่งยากลำบาก (การสมรส การงาน ความมั่งมีที่สร้างความกังวลใจ สถานภาพ และอื่นๆ)  อย่างไรก็ตาม สำหรับพวกที่จะไปยังแดนคนตายนั้น ความทุกข์ของพวกเขาจะเป็นนิรันดร์ (การนี้อ้างอิงถึงวิญญาณ ดวงจิต และร่างกายของพวกเขา) พวกเขาจะไม่มีวันหลีกหนีจากมือแห่งการลงโทษของเรา  สองด้านนี้ไม่อาจเข้ากันได้เหมือนไฟกับน้ำ  พวกเขาไม่ปะปนกันเลย กล่าวคือพวกที่ทนทุกข์กับโชคร้ายจะทนทุกข์กับโชคร้ายต่อไป ขณะที่บรรดาผู้ที่ได้รับพรจะพบกับความชื่นชมยินดีจนเปรมหัวใจของพวกเขา

เหตุการณ์และสิ่งต่างๆ ทั้งปวงถูกควบคุมโดยเรา ไม่พักต้องพูดถึงว่า ยิ่งกว่านั้นขึ้นไปอีก พวกเจ้า—บุตรทั้งหลายของเรา ผู้เป็นที่รักของเรา—เป็นของเรา  เจ้าคือการตกผลึกแห่งแผนการบริหารจัดการหกพันปีของเรา เจ้าคือสมบัติของเรา  บรรดาผู้ที่เรารักทั้งปวงล้วนเป็นที่ยินดีแก่สายตาของเรา เพราะพวกเขาสำแดงเรา พวกที่เราเกลียดชังทั้งปวงนั้น เราดูหมิ่นโดยไม่แม้แต่จะมองไปที่พวกเขา เพราะพวกเขาคือพงศ์พันธุ์ของซาตานและเป็นของซาตาน  ในวันนี้ ผู้คนทั้งปวงควรตรวจดูตัวพวกเขาเอง กล่าวคือ หากเจตนาของเจ้าเที่ยงตรง และเจ้ารักเราอย่างแท้จริง เช่นนั้นแล้วเจ้าก็จะเป็นผู้ที่เรารักอย่างแน่นอน  เจ้าต้องรักเราอย่างแท้จริง และไม่หลอกลวงเรา!  เราคือพระเจ้าผู้ตรวจดูหัวใจส่วนลึกสุดของผู้คน!  หากเจตนาของเจ้านั้นผิด และเจ้าเย็นชาและไม่รักภักดีต่อเรา เช่นนั้นแล้วเจ้าย่อมถูกเราเกลียดเป็นแน่ เราทั้งไม่ได้เลือกสรรเจ้าและไม่ได้ลิขิตเจ้าไว้ล่วงหน้า  จงเอาแต่รอคอยต่อไปจนถึงเวลาที่เจ้าไปนรก!  ผู้คนอื่นๆ อาจไม่สามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ แต่เฉพาะเจ้ากับเรา พระเจ้าผู้มองลึกเข้าไปในหัวใจของผู้คนเท่านั้นที่รู้เรื่องเหล่านี้  เรื่องทั้งหมดจะได้รับการเผย ณ เวลาหนึ่ง  บรรดาผู้ที่จริงใจไม่จำเป็นต้องกระวนกระวาย และพวกที่ไม่จริงใจก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกลัว  ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเตรียมการอันชาญฉลาดของเรา

กิจที่กำลังทำอยู่นี้เร่งด่วนและยากลำบาก และพึงต้องให้พวกเจ้าสละเพื่อเราเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อทำงานชิ้นสุดท้ายนี้ให้เสร็จสมบูรณ์  โดยแท้จริงแล้วข้อพึงประสงค์ของเราไม่ได้ต้องใช้ความพยายามมากมาย กล่าวคือ เราเพียงต้องการให้พวกเจ้าสามารถร่วมมือกับเราเป็นอย่างดี สามารถทำให้เราพึงพอใจในทุกสิ่งทุกอย่าง และสามารถติดตามการนำที่เราให้แก่เจ้าจากภายในได้  จงอย่ามืดบอด จงมีเป้าหมาย และจงพยายามค้นหาเจตนาของเราจากแง่มุมทั้งหมดและในทุกสิ่งทุกอย่าง  นี่เป็นเพราะเราไม่ใช่พระเจ้าผู้ซ่อนเร้นสำหรับพวกเจ้าอีกต่อไป และพวกเจ้าต้องชัดเจนให้มากเกี่ยวกับการนี้เพื่อที่จะเข้าใจเจตนาของเรา  ในช่วงเวลาที่สั้นมาก พวกเจ้าจะไม่เพียงพบกับคนต่างชาติที่แสวงหาหนทางที่จริงแท้เท่านั้น แต่ที่ยิ่งสำคัญกว่านั้นคือ พวกเจ้าต้องมีความสามารถที่จะเลี้ยงดูพวกเขา  นั่นเป็นเจตนาเร่งด่วนของเรา ซึ่งจะทำไม่ได้หากพวกเจ้าไม่สามารถมองเห็นการนี้  อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าต้องเชื่อในฤทธานุภาพอันไม่มีที่สิ้นสุดของเรา  ตราบเท่าที่ผู้คนยังเที่ยงตรง เราจะฝึกฝนพวกเขาให้เป็นทหารที่ดีอย่างแน่นอน  ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกเราจัดการเตรียมการไว้อย่างเหมาะสมแล้ว  พวกเจ้าต้องทะเยอทะยานที่จะทนทุกข์เพื่อเรา  นี่คือชั่วขณะที่เป็นกุญแจสำคัญ  จงอย่าพลาดมันไป!  เราจะไม่จมอยู่กับสิ่งทั้งหลายที่พวกเจ้าได้ทำในอดีต  เจ้าต้องอธิษฐานและวิงวอนเบื้องหน้าเราบ่อยๆ เราจะมอบพระคุณที่เพียงพอให้แก่เจ้าเพื่อความชื่นชมยินดีและการนำไปใช้ของเจ้า  พระคุณกับพรทั้งหลายไม่ใช่สิ่งเดียวกัน  สิ่งที่พวกเจ้ากำลังชื่นชมบัดเดี๋ยวนี้คือพระคุณของเรา และในสายตาของเรา นั่นไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง ส่วนพรทั้งหลายคือสิ่งที่พวกเจ้าจะชื่นชมอย่างเหลือคณานับในอนาคต  พรเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นกับผู้คน และเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้  นี่คือเหตุผลที่เรากล่าวว่าพวกเจ้านั้นได้รับพร และพรเหล่านี้ก็ยังไม่ได้ถูกมนุษย์ชื่นชมนับตั้งแต่การทรงสร้างเป็นต้นมา

เราได้เผยทั้งหมดทั้งปวงของเราแก่พวกเจ้าไปแล้ว  เราเพียงหวังว่าพวกเจ้าจะสามารถคำนึงถึงหัวใจของเรา อุทิศความคิดของพวกเจ้าให้แก่เราในทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเจ้าทำ และคำนึงถึงเราในทุกแง่มุม และสิ่งที่เรามองเห็นอยู่เสมอก็คือใบหน้าที่ยิ้มแย้มของพวกเจ้า  นับแต่บัดนี้ไป บรรดาผู้ที่ได้รับสถานภาพของบุตรหัวปีคือผู้ที่จะครองราชย์เป็นกษัตริย์เคียงข้างเรา  พวกเขาจะไม่ถูกพี่น้องชายคนใดรังแก และจะไม่ถูกเราสั่งสอนหรือตัดแต่ง เพราะนี่เป็นหลักการที่เราใช้กระทำการ กล่าวคือ บรรดาผู้ที่อยู่ในกลุ่มของบุตรหัวปีย่อมเป็นผู้คนที่ถูกผู้อื่นดูถูกและรังแกมาตลอด และเป็นผู้ที่ทนทุกข์กับความผันแปรทั้งปวงของชีวิต  (พวกเขาถูกเราตัดแต่งและทำให้สยบยอมล่วงหน้าแล้ว และได้ถูกทำให้ครบบริบูรณ์ล่วงหน้าแล้ว)  ผู้คนเหล่านี้ได้ชื่นชมพรทั้งหลายที่สมควรเป็นของพวกเขาล่วงหน้าแล้วกับเรา  เรานั้นชอบธรรมและไม่เคยลำเอียงกับผู้ใด

ก่อนหน้า: บทที่ 72

ถัดไป: บทที่ 74

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 6) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 7) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 8) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 9) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger