เส้นทาง… (3)

ในชีวิตของเรา เรายินดีเสมอที่ได้มอบความคิดจิตใจและร่างกายของเราแด่พระเจ้าทั้งหมดทั้งสิ้น  เมื่อถึงตอนนั้นเท่านั้น มโนธรรมของเราจึงจะปราศจากการตำหนิติเตียนและมีสันติสุขอยู่บ้าง  บรรดาผู้ที่ไล่ตามเสาะหาชีวิตต้องมอบทั้งหัวใจของพวกเขาแด่พระเจ้าก่อน นี่คือเงื่อนไขเบื้องต้นอย่างหนึ่ง  เราอยากให้พี่น้องชายหญิงของเราอธิษฐานต่อพระเจ้าร่วมกับเราว่า “โอ้พระเจ้า!  ขอให้พระวิญญาณของพระองค์ที่สถิตในสวรรค์ประทานพระคุณแก่ผู้คนที่อยู่บนแผ่นดินโลก เพื่อที่หัวใจของเราจะได้หันกลับไปหาพระองค์อย่างเต็มเปี่ยม เพื่อที่จิตวิญญาณของเราจะได้รับการขับเคลื่อนโดยพระองค์ เพื่อที่เราจะได้มองเห็นความดีงามของพระองค์ในหัวใจของเราและในจิตวิญญาณของเรา และเพื่อที่คนเหล่านั้นบนแผ่นดินโลกจะได้รับพระพรที่จะได้มองเห็นความงามของพระองค์  ข้าแต่พระเจ้า!  ขอให้พระวิญญาณของพระองค์ทรงขับเคลื่อนจิตวิญญาณของพวกเราอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่ความรักของพวกเราจะได้เป็นนิรันดร์กาลและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้!”  ในบรรดาพวกเราทั้งหมด พระเจ้าทรงทดสอบหัวใจของพวกเราก่อน—และทันทีที่พวกเราได้เทหัวใจของพวกเราให้แก่พระองค์แล้ว พระองค์ก็จะทรงขับเคลื่อนจิตวิญญาณของพวกเรา  มีเพียงในจิตวิญญาณของพวกเราเท่านั้นที่เราสามารถมองเห็นความดีงาม มไหศวรรย์ และความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้  นี่คือเส้นทางของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในพวกมนุษย์  เจ้ามีชีวิตแบบนี้หรือไม่?  เจ้าเคยได้รับประสบการณ์กับชีวิตแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือไม่?  จิตวิญญาณของเจ้าเคยได้รับการขับเคลื่อนโดยพระเจ้าหรือไม่?  เจ้าเคยมองเห็นวิธีที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงพระราชกิจในผู้คนหรือไม่?  เจ้าได้มอบหัวใจทั้งหมดของเจ้าแด่พระเจ้าหรือไม่?  เมื่อเจ้าได้มอบหัวใจทั้งหมดของเจ้าแด่พระเจ้าแล้ว เจ้าก็จะสามารถได้รับประสบการณ์กับชีวิตแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้โดยตรง และพระราชกิจของพระองค์จะทรงสำแดงแก่เจ้าอยู่เป็นเนืองนิตย์  เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะกลายเป็นใครบางคนที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงใช้  เจ้าปรารถนาที่จะกลายเป็นบุคคลแบบนั้นหรือไม่?  ตอนที่เราได้รับการขับเคลื่อนโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์และได้มอบหัวใจของเราแด่พระเจ้าเป็นครั้งแรก เราจำได้ว่าเราได้ล้มตัวลงเฉพาะพระพักตร์พระองค์อย่างไรและได้ร้องว่า “โอ้ พระเจ้า!  พระองค์ได้ทรงเปิดดวงตาของข้าพระองค์และได้ทรงอนุญาตให้ข้าพระองค์ได้รู้จักความรอดของพระองค์  ข้าพระองค์ปรารถนาที่จะมอบหัวใจของข้าพระองค์แด่พระองค์จนหมดสิ้น และข้าพระองค์ขอเพียงแค่ให้น้ำพระทัยของพระองค์สัมฤทธิ์ผลเท่านั้น ข้าพระองค์ปรารถนาเพียงเพื่อให้หัวใจของข้าพระองค์อาจได้รับการรับรองของพระองค์เฉพาะพระพักตร์พระองค์เท่านั้น และข้าพระองค์ขอเพียงแค่ได้ติดตามน้ำพระทัยของพระองค์เท่านั้น”  เราจะไม่มีวันลืมคำอธิษฐานนั้นเลย เราได้รับการขับเคลื่อนอย่างลึกซึ้ง และเราร้องไห้ร่ำไรด้วยน้ำตาแห่งความระทมเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า  นั่นคือคำอธิษฐานที่บรรลุผลสำเร็จครั้งแรกของเราเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าในฐานะใครบางคนที่ได้รับการช่วยให้รอด และมันคือความประสงค์ครั้งแรกในหัวใจของเรา  หลังจากนั้น เราได้รับการขับเคลื่อนโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่บ่อยครั้ง  เจ้าเคยมีประสบการณ์แบบนี้หรือไม่?  พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงพระราชกิจในตัวเจ้าอย่างไร?  เราคิดว่าบรรดาผู้ที่พยายามรักพระเจ้าทุกคนมีประสบการณ์นี้ร่วมกันในระดับหนึ่ง—เพียงแค่ว่าพวกเขาลืมกันไปแล้ว  หากใครบางคนกล่าวว่าพวกเขายังไม่มีประสบการณ์เช่นนั้น นี่ก็พิสูจน์ว่าพวกเขายังไม่ได้รับการช่วยให้รอด และว่าพวกเขายังคงอยู่ภายใต้อำนาจของซาตาน  พระราชกิจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเราทุกคนคือเส้นทางแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ และคือเส้นทางของบรรดาผู้ที่เชื่อในพระเจ้าและแสวงหาพระเจ้าด้วยเช่นกัน  ขั้นตอนแรกของพระราชกิจที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสำแดงในตัวผู้คนคือการทรงขับเคลื่อนจิตวิญญาณของพวกเขา ซึ่งหลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มรักพระเจ้า และไล่ตามเสาะหาชีวิต และทุกคนที่เดินบนเส้นทางนี้อยู่ในกระแสแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์  เหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่พลังแห่งพระราชกิจของพระเจ้าในจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น แต่ในทั้งจักรวาลด้วย  ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงพระราชกิจในทุกๆ คน  หากใครบางคนยังไม่เคยได้รับการขับเคลื่อน นี่ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ภายนอกกระแสแห่งการฟื้นคืน  ในหัวใจของเรา เราอธิษฐานต่อพระเจ้าโดยไม่หยุดหย่อน และขอให้พระองค์ทรงขับเคลื่อนผู้คนทั้งหมด ให้ทุกคนที่อยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ได้รับการขับเคลื่อนโดยพระองค์และเดินตามเส้นทางนี้  นี่อาจเป็นคำขอที่ไม่สำคัญจากเราต่อพระเจ้าเพียงคำขอเดียว แต่เราเชื่อว่าพระองค์จะทรงทำสิ่งนี้  เราหวังว่าพี่น้องชายหญิงทั้งหมดจะอธิษฐานขอสิ่งนี้ หวังว่าน้ำพระทัยของพระเจ้าคงจะสัมฤทธิ์ผล และหวังว่าพระราชกิจของพระองค์คงจะสรุปปิดตัวในไม่ช้า เพื่อที่พระวิญญาณของพระองค์ในสวรรค์จะสามารถพักผ่อนได้  นี่คือความหวังอันน้อยนิดของเราเอง

เราเชื่อว่าในเมื่อพระเจ้าทรงสามารถเริ่มต้นพระราชกิจของพระองค์ในป้อมปราการหนึ่งของพวกมารแล้ว แน่นอนว่าพระองค์ทรงสามารถทำเช่นนั้นในป้อมปราการอื่นๆ ได้เกินคณานับทั่วทั้งจักรวาล  พวกเราในยุคสุดท้ายจะได้เห็นวันแห่งพระสิริของพระเจ้าอย่างแน่นอน ดังที่มีการกล่าวไว้ว่า “ผู้ที่ติดตามไปจนถึงปลายทาง จะได้รับการช่วยให้รอดอย่างแน่นอน”  ไม่มีใครสามารถแทนที่พระเจ้าในช่วงระยะนี้ของพระราชกิจของพระองค์ได้—พระเจ้าพระองค์เองเท่านั้นที่ทรงสามารถปฏิบัติพระราชกิจนี้ได้ เพราะช่วงระยะนี้ของพระราชกิจเป็นช่วงเวลาพิเศษ นี่เป็นช่วงระยะของพระราชกิจแห่งการพิชิตชัย และผู้คนไม่สามารถพิชิตชัยผู้อื่นได้  ผู้คนจะถูกพิชิตก็ต่อเมื่อพระเจ้าตรัสด้วยพระโอษฐ์ของพระองค์เองและทรงทำด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เองเท่านั้น  ในจักรวาลทั้งหมด พระเจ้าทรงใช้ประเทศของพญานาคใหญ่สีแดงเป็นสนามแห่งการทดสอบ ซึ่งหลังจากนั้นพระองค์จะทรงเริ่มพระราชกิจนี้ทั่วทั้งจักรวาล  ด้วยเหตุนี้ พระองค์จะทรงทำพระราชกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ไปทั่วจักรวาล และผู้คนทั้งหมดในจักรวาลจะได้รับพระราชกิจแห่งการพิชิตชัยของพระเจ้า  ผู้คนจากทุกศาสนาและทุกนิกายต้องยอมรับช่วงระยะนี้ของพระราชกิจ  นี่คือเส้นทางที่ต้องเดิน—ไม่มีใครสามารถหลบหนีได้  เจ้าเต็มใจยอมรับสิ่งนี้ซึ่งพระเจ้าวางพระทัยมอบหมายให้เจ้าหรือไม่?  เรารู้สึกเสมอว่าการยอมรับพระบัญชาของพระวิญญาณบริสุทธิ์คือสิ่งที่มีสง่าราศี  ในทัศนะของเรา นี่คือพระบัญชายิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเจ้าประทานให้แก่มวลมนุษย์  เราหวังว่าพี่น้องชายหญิงของเราจะทำงานอย่างหนักเคียงข้างเราและยอมรับพระบัญชานี้จากพระเจ้า เพื่อให้พระเจ้าทรงได้รับพระสิริไปทั่วทั้งจักรวาลและอาณาจักรเบื้องบน และชีวิตของพวกเราก็จะไม่สูญเปล่า  พวกเราควรทำบางสิ่งเพื่อพระเจ้า หรือไม่พวกเราก็ควรกล่าวคำปฏิญาณ  หากผู้คนไม่ไล่ตามเสาะหาเป้าหมายใดๆ เมื่อพวกเขาเชื่อในพระเจ้า เช่นนั้นแล้วชีวิตของพวกเขาก็คงจะไร้ความหมาย และเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องตาย พวกเขาจะมองเห็นแต่เพียงท้องฟ้าสีครามและแผ่นดินโลกที่เต็มไปด้วยฝุ่น  ชีวิตเช่นนั้นมีความหมายอันใดหรือไม่?  หากเจ้าสามารถทำให้ข้อกำหนดทั้งหลายของพระเจ้าลุล่วงในขณะที่เจ้ามีชีวิตอยู่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่งดงามหรอกหรือ?  เหตุใดเจ้าจึงนำปัญหามาให้ตนเองเสมอ และเหตุใดเจ้าจึงหดหู่อยู่ตลอดเวลา?  การที่เจ้าปฏิบัติตนเยี่ยงนั้น เจ้าได้รับสิ่งใดจากพระเจ้าหรือไม่?  และพระเจ้าสามารถได้รับสิ่งใดจากเจ้าหรือไม่?  ในคำปฏิญาณต่อพระเจ้าของเรา มีแต่คำสัญญาจากหัวใจของเราเท่านั้น เราไม่ได้พยายามที่จะหลอกลวงพระองค์ด้วยคำพูด  เราจะไม่มีวันทำเช่นนั้น—เราปรารถนาเพียงแค่ได้ชูใจพระเจ้าที่เรารักด้วยหัวใจของเรา เพื่อที่พระวิญญาณของพระองค์ในสวรรค์จะได้รับการชูใจ  หัวใจอาจมีคุณค่า แต่ความรักล้ำค่ายิ่งกว่า  เราจะมอบความรักที่ล้ำค่าที่สุดในหัวใจของเราแด่พระเจ้า เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงชื่นชมสิ่งที่สวยงามที่สุดที่เรามี และเราหวังว่าพระองค์จะพอพระทัยในความรักที่เราถวายแด่พระองค์  เจ้าเต็มใจที่จะมอบความรักของเจ้าแด่พระเจ้าเพื่อให้พระองค์ได้ทรงชื่นชมหรือไม่?  เจ้าเต็มใจที่จะทำให้การนี้เป็นต้นทุนของการดำรงอยู่ของเจ้าหรือไม่?  ในประสบการณ์ของเรา เราได้มองเห็นแล้วว่ายิ่งเรามอบความรักแด่พระเจ้ามากเท่าใด เราก็ยิ่งพบความชื่นบานในการใช้ชีวิตมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น พละกำลังของเราไม่มีขีดจำกัด และเราเต็มใจถวายร่างกายและจิตใจทั้งหมดของเรา และเรามีความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าเราไม่สามารถรักพระเจ้าได้มากพอ  ดังนั้นความรักของเจ้าเป็นความรักที่เล็กน้อย หรือไร้ขอบเขตจนมิอาจประเมินวัดได้?  หากเจ้าปรารถนาที่จะรักพระเจ้าอย่างแท้จริง เจ้าก็จะมีความรักมากมายที่จะมอบกลับคืนแด่พระองค์เสมอ—และหากเป็นเช่นนั้น จะมีบุคคลหรือสิ่งใดเล่าสามารถขัดขวางหนทางแห่งความรักของเจ้าที่มีต่อพระเจ้าได้?

พระเจ้าทรงเห็นว่าความรักของมนุษย์ทุกคนล้ำค่า  พรของพระองค์จะเพิ่มเป็นทวีคูณต่อคนทุกคนที่รักพระองค์ เพราะความรักของมนุษย์หาได้ยากยิ่ง และมีน้อยมาก จนแทบจะไม่มีอยู่จริง  ทั่วทั้งจักรวาล พระเจ้าได้ทรงพยายามเรียกร้องให้ผู้คนรักพระองค์ตอบ แต่ตลอดหลายยุคหลายสมัยมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้คนเพียงไม่กี่คน—แค่หยิบมือเดียว—ที่เคยมอบความรักที่แท้จริงกลับคืนแด่พระองค์  เท่าที่เราจำได้ เปโตรคือหนึ่งในนั้น แต่เขาได้รับการทรงนำโดยพระเยซูด้วยพระองค์เอง และจนกระทั่งถึงเวลาแห่งความตายเท่านั้น เขาจึงมอบความรักอย่างเต็มเปี่ยมแด่พระเจ้า จากนั้นชีวิตของเขาก็สิ้นสุดลง  และด้วยเหตุนี้ ภายใต้ภาวะอันชั่วร้ายเหล่านี้ พระเจ้าจึงทรงทำให้ขอบเขตแห่งพระราชกิจของพระองค์ในจักรวาลแคบลง และได้ทรงใช้ประเทศของพญานาคใหญ่สีแดงเป็นเขตของการสาธิต โดยทรงมุ่งเน้นพลังทั้งหมดและความพยายามทั้งหมดของพระองค์ในสถานที่แห่งเดียว เพื่อทำให้พระราชกิจของพระองค์มีประสิทธิผลมากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อคำพยานของพระองค์มากขึ้น  ภายใต้เงื่อนไขสองข้อนี้นี่เองที่พระเจ้าได้ทรงย้ายพระราชกิจแห่งทั้งจักรวาลของพระองค์ไปสู่ผู้คนเหล่านี้ในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้ซึ่งมีขีดความสามารถต่ำที่สุดในบรรดาผู้คนทั้งปวง และได้ทรงเริ่มพระราชกิจแห่งการพิชิตชัยอันเปี่ยมรักของพระองค์  และหลังจากที่พระองค์ทรงทำให้พวกเขาทั้งหมดรักพระองค์แล้ว พระองค์จะทรงดำเนินการพระราชกิจขั้นต่อไปของพระองค์ ซึ่งเป็นแผนการของพระเจ้า  ด้วยเหตุนี้พระราชกิจของพระองค์จึงสัมฤทธิ์ผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  ขอบเขตแห่งพระราชกิจของพระองค์มีทั้งแกนสำคัญและข้อจำกัด  เป็นที่ชัดเจนว่าราคาที่พระเจ้าทรงจ่ายไปนั้นมากเพียงใดและความพยายามที่พระองค์ได้ทรงทุ่มเทเมื่อทรงดำเนินพระราชกิจของพระองค์ในตัวพวกเรานั้นมีมากมายเพียงใด เพื่อให้วันของพวกเรามาถึง  นี่คือพรของพวกเรา  ด้วยเหตุนี้เอง สิ่งที่ก่อให้เกิดความสับสนต่อมโนคติอันหลงผิดของผู้คนคือการที่พวกชาวตะวันตกอิจฉาพวกเราที่ได้ถือกำเนิดในสถานที่อันน่าอยู่ แต่พวกเราทั้งหมดกลับมองตัวพวกเราเองว่าต่ำต้อยและถ่อมใจ  นี่คือการที่พระเจ้าทรงยกชูพวกเราไม่ใช่หรือ?  พงศ์พันธุ์ของพญานาคใหญ่สีแดง ผู้ซึ่งถูกเหยียบย่ำอยู่ตลอดเวลา กลับได้รับการยกย่องจากพวกชาวตะวันตก—นี่คือพรของพวกเราอย่างแท้จริง  เมื่อเรานึกถึงเรื่องนี้ เราก็รู้สึกซาบซึ้งกับความเมตตาของพระเจ้า และโดยความเป็นที่รักและความใกล้ชิดของพระองค์  นี่แสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าทรงทำนั้นขัดแย้งกับมโนคติอันหลงผิดของมนุษย์  ถึงแม้ว่าผู้คนทั้งหมดนี้จะถูกสาปแช่ง แต่พระองค์ก็ไม่ได้ถูกจำกัดโดยธรรมบัญญัติ และพระองค์ตั้งพระทัยที่จะย้ายศูนย์กลางแห่งพระราชกิจของพระองค์ไปสู่แผ่นดินโลกผืนนี้  นี่คือเหตุผลที่เราเปรมปรีดิ์ เหตุผลที่เรารู้สึกมีความสุขอย่างล้นพ้น  ในฐานะผู้ที่มีบทบาทนำในพระราชกิจนี้ เฉกเช่นมหาปุโรหิตในหมู่ชนอิสราเอล เราสามารถดำเนินพระราชกิจแห่งพระวิญญาณได้โดยตรงและรับใช้พระวิญญาณของพระเจ้าได้โดยตรง นี่คือพรของเรา  ใครจะกล้าคิดฝันถึงสิ่งเช่นนี้เล่า?  แต่วันนี้ สิ่งนี้ได้มาถึงเราแล้วโดยไม่ได้คาดหมาย  เป็นความปีติยินดีอันใหญ่หลวงอย่างแท้จริงที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองของพวกเรา  เราหวังว่าพระเจ้าจะทรงอวยพรพวกเราต่อไป และทรงยกชูพวกเรา เพื่อที่พวกเราที่ใช้ชีวิตอยู่ในกองมูลสัตว์นี้ได้รับการทรงใช้อย่างยิ่งใหญ่จากพระเจ้า และด้วยเหตุนี้จึงเป็นการตอบแทนความรักของพระองค์

เส้นทางที่เราเดินอยู่ในตอนนี้คือเส้นทางของการตอบแทนความรักของพระเจ้า กระนั้นเราก็ยังมีความรู้สึกอยู่เป็นเนืองนิตย์ว่านี่ไม่ใช่เจตนารมณ์ของพระเจ้า หรือเป็นเส้นทางที่เราควรเดิน  การถูกพระเจ้าใช้งานให้เกิดประโยชน์ยิ่ง—นี่จึงเป็นเจตนารมณ์ของพระเจ้า และนี่คือเส้นทางแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์  บางทีเราอาจจะผิด แต่เราคิดว่านี่คือเส้นทางของเรา เราได้ให้คำสาบานต่อพระเจ้านานมาแล้วว่าเราได้ปรารถนาที่จะให้พระองค์ทรงนำทางเรา ว่าเราอาจได้วางเท้าลงบนเส้นทางที่เราควรเดินไปอย่างเร่งรีบที่สุด และสนองเจตนารมณ์พระเจ้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ไม่ว่าคนอื่นๆ จะคิดสิ่งใด เราเชื่อว่าการติดตามน้ำพระทัยของพระเจ้าคือสิ่งสำคัญที่สุด  ไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปกว่านี้ในชีวิตของเรา และไม่มีใครที่จะสามารถถอดถอนสิทธิ์นี้ไปจากเราได้  นี่คือทรรศนะส่วนตัวของเรา และบางทีอาจจะมีบางคนที่ไม่สามารถเข้าใจได้ แต่เราไม่คิดว่าเราต้องแก้ต่างในเรื่องนี้กับใคร  เราจะใช้เส้นทางที่เราควรใช้—ทันทีที่เราตระหนักถึงเส้นทางที่เราควรเดินไป เราก็จะเดินบนเส้นทางนั้นและจะไม่ถอยกลับ  ดังนี้แล้ว เราขอย้อนกลับมาที่ถ้อยคำเหล่านี้คือ เราได้กำหนดใจของเราแล้วว่าจะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า  เราแน่ใจว่าพี่น้องชายหญิงของเราจะไม่วิพากษ์วิจารณ์เรา!  โดยทั่วไป ตามที่เรามองเห็นด้วยตนเอง คนอื่นๆ สามารถกล่าวสิ่งที่พวกเขาชอบ แต่เรารู้สึกว่าการติดตามน้ำพระทัยของพระเจ้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และว่าไม่ควรมีอะไรมายับยั้งเราได้ในการนี้  การติดตามน้ำพระทัยของพระเจ้าไม่อาจมีวันผิดได้เลย!  และมันไม่ใช่การกระทำเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง!  เราเชื่อว่าพระเจ้าได้ทรงมองดูข้างในหัวใจของเรา!  ดังนั้นแล้ว เจ้าน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ว่าอย่างไร?  เจ้าเต็มใจมอบถวายตัวพวกเจ้าเองให้พระเจ้าหรือไม่?  เจ้าเต็มใจที่จะให้พระเจ้าทรงใช้งานหรือไม่?  เจ้าให้คำสาบานว่าจะติดตามน้ำพระทัยของพระเจ้าหรือไม่?  เราหวังว่าถ้อยคำของเราจะสามารถช่วยพี่น้องชายหญิงของเราได้บ้าง  แม้ว่าจะไม่มีสิ่งใดที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจเชิงลึกของเรา เราก็ยังคงบอกสิ่งเหล่านั้นกับพวกเจ้า เพื่อที่พวกเราอาจจะได้มีความรู้สึกส่วนลึกที่สุดร่วมกันโดยไม่มีสิ่งขวางกั้นใดๆ ระหว่างพวกเรา และเพื่อที่พระเจ้าจะสถิตอยู่ท่ามกลางพวกเราไปชั่วนิรันดร์  เหล่านี้คือถ้อยคำจากหัวใจของเรา  เอาล่ะ!  นั่นคือทั้งหมดที่เราต้องกล่าวจากหัวใจของเราในวันนี้  เราหวังว่าพี่น้องชายหญิงของเราจะทำงานอย่างหนักต่อไป และเราหวังว่าพระวิญญาณของพระเจ้าจะคอยดูแลพวกเราอยู่เสมอ!

ก่อนหน้า: เส้นทาง… (2)

ถัดไป: เส้นทาง… (4)

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 6) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 7) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 8) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 9) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger