1. พวกคุณให้คำพยานว่า คริสตจักรแห่งพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์มีจุดกำเนิดอยู่ในการทรงปรากฏและพระราชกิจของพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย  พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ แต่รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นอเทวนิยมกับพวกผู้นำของโลกศาสนาก็กล่าวโทษการสอนของพวกคุณว่าเป็นความเห็นนอกรีต  ดังนั้นแล้ว พวกเราจะสามารถมีวิจารณญาณเหนือสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกับโลกศาสนาพูดได้อย่างไร?

บทตัดตอนจากคำเทศนาและการสามัคคีธรรมสำหรับการอ้างอิง

พรรคคอมมิวนิสต์จีนคือพรรคการเมืองอเทวนิยม  พวกเขาเชื่อในพระเจ้าหรือไม่?  ไม่  พวกเขาเชื่อในใครกัน?  พวกเขาเชื่อในมาร์กซ์ ผู้นำของลัทธิซาตาน  พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงเป็นพรรคบูชาซาตาน  โดยธรรมชาติแล้วลัทธิซาตานมีความเกลียดสุดกำลังต่อคริสตจักรของพระเจ้า ที่มันต่อต้านและกล่าวโทษอย่างบ้าคลั่ง  พวกเรามาดูประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนกันเถิด  ตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้บูชาและเคารพคำแถลงนโยบายพรรคคอมมิวนิสต์ของมาร์กซ์  พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพวกอเทวนิยมโดยแท้จริง  พวกเขาไม่ยอมรับพระเจ้า พวกเขาบูชาซาตานและมาร์กซ์ กษัตริย์ของพวกมาร พวกเขาขึ้นแท่นคำพูดของมาร์กซ์ว่าเป็นความจริง และดังนั้น จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะต่อต้านพระเจ้าและกล่าวโทษพระราชกิจของพระเจ้า  พรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวโทษคริสตจักรว่าเป็นลัทธิบูชาและกล่าวโทษพระคัมภีร์ว่าเป็น “วรรณกรรมของลัทธิบูชา” อยู่เสมอ  เจ้าคิดถึงเรื่องนี้ว่าอย่างไร?  พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นองค์กรประเภทใดในสายตาของเจ้า?  เป็นองค์กรเชิงบวกหรือเชิงลบ?  หากเรื่องเช่นนั้นเป็นที่ชัดเจนสำหรับเจ้า เจ้าก็จะรู้ไปเองว่าจะเข้าหาความนอกรีต เหตุผลวิบัติ และคำโกหกทั้งดุ้นของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างไร  ทีนี้พวกเรามาดูบทบาทที่โลกแห่งศาสนามีอยู่เสมอในพระราชกิจของพระเจ้ากันเถิด  โลกศาสนาเกิดขึ้นจากพระราชกิจของพระเจ้า แต่ว่า แต่ละครั้งที่พระเจ้าได้ทรงปฏิบัติพระราชกิจช่วงระยะใหม่ช่วงหนึ่ง โลกศาสนาก็ได้เข้ามามีบทบาทในฝ่ายตรงข้ามกับพระเจ้า และบรรดาผู้นำของโลกศาสนาก็ได้กลายเป็นพวกที่ต่อต้านพระเจ้าไปทีละน้อย  ตัวอย่างเช่น เมื่อสิ้นสุดยุคธรรมบัญญัติ เมื่อองค์พระเยซูเจ้าได้ทรงปรากฏและได้ทรงปฏิบัติพระราชกิจของพระองค์นั้น พวกหัวหน้าของศาสนายิวก็ได้พยายามทุกอย่างเพื่อต่อต้านและกล่าวโทษพระองค์ และในท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ได้ตอกตรึงพระองค์กับกางเขน  ขณะที่ข่าวประเสริฐเรื่องการไถ่ขององค์พระเยซูเจ้าได้แพร่ออกไป บรรดาผู้ติดตามศาสนายิวส่วนใหญ่ได้บอกปัดองค์พระเยซูเจ้า แม้กระทั่งทุกวันนี้ พวกเขาก็ยังต่อต้านและประณามองค์พระเยซูเจ้าต่อไป  นี่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรอกหรือ?  ในช่วงระหว่างยุคสุดท้าย พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ได้ทรงปรากฏแล้วและกำลังปฏิบัติพระราชกิจของพระองค์  พระองค์ได้ทรงแสดงความจริงมากมายและได้นำเข้ามาซึ่งยุคแห่งราชอาณาจักร  ชุมชนศาสนาทั้งชุมชนได้ต่อต้านและกล่าวโทษพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ เฉกเช่นที่ศาสนายิวได้ต่อต้านและกล่าวโทษองค์พระเยซูเจ้า  ทั้งคู่รอไม่ไหวที่จะตอกตรึงพระคริสต์ผู้ซึ่งแสดงความจริงกับกางเขน  ข้อเท็จจริงเหล่านี้บ่งชี้ว่าโลกศาสนาต่อต้านพระเจ้าและอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกศัตรูของพระคริสต์  ดังนั้นวันนี้ เมื่อเจ้ามองเห็นพรรคคอมมิวนิสต์จีนและโลกศาสนากำลังกล่าวโทษคริสตจักรแห่งพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ว่าเป็นลัทธิบูชานอกรีต เจ้าสามารถมองเห็นได้หรือไม่ว่าที่จริงแล้วการนี้เป็นไปเพื่อสิ่งใด?

—การสามัคคีธรรมจากเบื้องบน

“เสียเจี้ยว” คืออะไรกันแน่?  ไม่ต้องกังขาเลยว่า นั่นไม่ได้อ้างอิงถึงการเชื่อทางศาสนาที่แท้จริง  การเชื่อทางศาสนาที่แท้จริงเกิดจากพระราชกิจของพระเจ้า ในขณะที่เสียเจี้ยวสวนทางอย่างตรงกันข้ามกับหนทางที่แท้จริง มันเป็นผลิตภัณฑ์จากการหลอกลวงผู้คนโดยซาตานและบรรดาวิญญาณชั่วนานาสารพัน—จึงไม่มีคำถามอันใดจากการนี้  ไม่มีรัฐหรือกลุ่มใดมีคุณสมบัติเหมาะสมหรือมีสิทธิที่จะให้คำนิยามศาสนาว่าเป็นเสียเจี้ยวหรือหลักคำสอนที่ถูกต้อง ด้วยเหตุที่มวลมนุษย์ที่เสื่อมทรามนั้นสูญสิ้นความจริง  มีเพียงพระคริสต์เท่านั้นที่ทรงเป็นความจริง หนทาง และชีวิต และเสียเจี้ยวนั้นสามารถกำหนดพิจารณาได้บนพื้นฐานของพระวจนะแห่งพระเจ้าเท่านั้น  หากปราศจากพระวจนะของพระเจ้าเป็นหลักพื้นฐาน แม้แต่การกำหนดพิจารณาเชิงคุณภาพก็ไม่ถูกต้องแม่นยำ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นของลัทธิซาตาน ซึ่งก็คือเสียเจี้ยว—การกล่าวโทษการเชื่อทางศาสนาที่แท้จริงนั้นไร้ซึ่งคุณสมบัติที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้นไปอีกเสียด้วยซ้ำ  พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้กล่าวโทษศาสนาคริสต์เสมอมาว่าเป็นเสียเจี้ยว และได้กล่าวโทษกลุ่มคริสตชนหลายกลุ่มว่าเป็นเสียเจี้ยว ซึ่งไร้สาระอย่างแน่นอนที่สุด  โดยแก่นแท้แล้วพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกลียดชังความจริงและพระเจ้า และดังนั้นพรรคนี้จึงกล่าวโทษสิ่งทั้งหลายที่เป็นบวกและการเชื่อทางศาสนาที่แท้จริงว่าเป็นเสียเจี้ยว  ศาสนาที่มีหลักคำสอนที่ถูกต้องคืออะไรกันแน่ และอะไรหรือคือเสียเจี้ยว?  กล่าวอย่างแน่นอนก็คือว่า คริสตจักรทั้งหมดที่เชื่อในพระเจ้าเที่ยงแท้นั้นมีหลักคำสอนที่ถูกต้อง ทั้งนี้พวกเหล่านั้นทั้งหมดที่เชื่อในพระเจ้าเทียมเท็จทั้งหลาย พวกวิญญาณชั่ว ซาตาน และพวกปีศาจนั้นเป็นเสียเจี้ยว และพวกเหล่านั้นทั้งหมดที่ประกาศความเห็นนอกรีตและเหตุผลวิบัติอันต้านทานพระเจ้า อาทิ อเทวนิยมและวิวัฒนาการ ก็เป็นเสียเจี้ยว  ดังที่รู้กันโดยทั่วไปว่า พรรคคอมมิวนิสต์ถูกสร้างขึ้นมาโดยมาร์กซ์ชาวเยอรมัน  มาร์กซ์เป็นผู้นิยมซาตานอย่างยอมรับเปิดเผยผู้ที่อ้างว่าเป็นมารซาตาน  พรรคคอมมิวนิสต์ที่สร้างขึ้นโดยปีศาจแท้จริงตนนี้ จะสามารถมีหลักคำสอนที่ถูกต้องได้อย่างไรกัน?  พรรคคอมมิวนิสต์ได้สนับสนุนการปฏิวัติอันรุนแรงเสมอมา  พวกเขาคือผู้สังหารแห่งมวลมนุษย์และผู้ถืออเทวนิยมแท้จริง  ในแถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ มาร์กซ์ได้กล่าวว่า “อสุรกายกำลังหลอกหลอนยุโรป—อสุรกายแห่งลัทธิคอมมิวนิสต์”  ในวันนี้ อสุรกายตนนี้ปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในพรรคคอมมิวนิสต์จีน  เห็นได้อย่างชัดเจนว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนอนุรักษ์นิยมคือเสียเจี้ยวที่ฝังลึก  พรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลาดแกมโกงมากกว่ามาร์กซ์ผู้เป็นบิดาผู้ก่อตั้งพรรค ผู้ที่กล้าที่จะยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเขาเป็นมารซาตาน ทั้งนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่กล้าที่จะกล่าวเช่นนี้  พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบิดเบือนข้อเท็จจริงและเปลี่ยนดำเป็นขาว พรรคนี้เป็นเจ้าแห่งการปลอมแปลง การหลอกลวง และเป็นเจ้าแห่งการเป็นมารซึ่งว่ากล่าวบาป พรรคนี้สามารถแปรสิ่งที่ถูกต้องไปสู่สิ่งที่ผิด ไปสู่ความชั่ว และแปรความชั่วไปสู่สิ่งที่ถูกต้องได้  ตัวพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นเลวและอนุรักษ์นิยมอย่างชัดเจน กระนั้นก็ตามพรรคนี้ก็ปลอมแปลงตัวเป็นบางสิ่งที่เป็นบวกและเป็นธรรม และทำทั้งหมดที่พรรคนี้สามารถทำได้เพื่ออวดตัวเองว่ายิ่งใหญ่ รุ่งโรจน์ และถูกต้อง  เช่นนั้นคือวิธีการที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ใช้เรื่อยมา  พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นเจ้าแห่งการเป็นมารซึ่งว่ากล่าวบาป  ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่เก่งกาจในการหลอกลวง ใช้เล่ห์กล เล่นด้วย ทำให้เสื่อมทราม และสังหารมนุษยชาติมากไปกว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีน  มีเพียงพรรคคอมมิวนิสต์จีนเท่านั้นที่จะสามารถให้คำนิยามศาสนาที่มีหลักคำสอนที่ถูกต้องว่าเป็นเสียเจี้ยวได้—แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็คือเสียเจี้ยวจริง ผู้นิยมซาตานแท้จริงในยุคสุดท้าย ฝูงปีศาจที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ องค์กรอนุรักษ์นิยมและก่อการร้ายที่ชั่วและเคลือบแฝงที่สุดในโลก  เหล่านี้คือข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยอมรับ และไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย!

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ศาสนาหนึ่งหรือคริสตจักรหนึ่งเป็นเสียเจี้ยวหรือไม่นั้น ควรได้รับการประเมินวัดโดยทุกคนที่มีความเชื่อและผู้คนทั้งหมดของโลกบนพื้นฐานของค่านิยมสากล—นี่เท่านั้นที่ยุติธรรม  การกำหนดพิจารณาว่าศาสนาใดเป็นเสียเจี้ยวบนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญซึ่งร่างขึ้นโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนแต่เพียงอย่างเดียวนั้นค่อนข้างไร้สาระน่าขัน  เพราะพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้ถืออเทวนิยมโดยธรรมชาติ เพราะพรรคนี้ไม่ระลึกได้ถึงการทรงดำรงอยู่ของพระเจ้าเลยแม้แต่น้อย นับประสาอะไรที่พรรคนี้จะรู้จักพระเจ้า และเพราะพรรคนี้ต่อต้านพระเจ้า และเป็นศัตรูของพระเจ้า เพราะฉะนั้นพรรคนี้จึงไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะแสดงความคิดเห็นว่าด้วยเรื่องทั้งหลายเกี่ยวกับความเชื่อในพระเจ้า นับประสาอะไรที่พรรคนี้จะมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะปฏิบัติต่อกลุ่มใดๆ ที่เชื่อในพระเจ้าหรือคริสตจักรทั้งหลายดังเช่นอาชญากร  ในข้อเท็จจริงแล้ว อเทวนิยมและรัฐธรรมนูญของพรรคคอมมิวนิสต์จีนนำทางพรรคนี้ให้ตีตรากลุ่มทั้งหมดที่เชื่อในพระเจ้าหรือคริสตจักรทั้งหลายว่าเป็นเสียเจี้ยว รวมถึงศาสนาคริสต์และกลุ่มทางศาสนาเฉพาะอื่นๆ  ทั้งยังตีตราพระคัมภีร์อย่างเปิดเผยอีกด้วยว่าเป็นวรรณกรรมเสียเจี้ยว  เหล่านี้คือข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยอมรับ  นับตั้งแต่ขึ้นครองอำนาจในจีนแผ่นดินใหญ่ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ใช้เทคนิคอันโหดร้ายหลากหลายเพื่อควบคุม ปราบปราม และข่มเหงบรรดาผู้ที่เชื่อในพระเจ้า และถอดถอนสิทธิในการมีอิสรภาพทางศาสนาของพวกเขาไปจากพวกเขา  พรรคนี้ใช้ความคิดเห็นสาธารณะและวิถีทางด้านการเมืองและด้านกฎหมายเพื่อกดดันคริสตจักร ขู่ขวัญบรรดาผู้ที่เชื่อในพระเจ้า และหยุดยั้งผู้คนจากการนมัสการและติดตามพระเจ้า เพื่อให้พวกเขาสักการบูชาและเชื่อฟังพรรคคอมมิวนิสต์จีนและยอมรับกฎเกณฑ์และรับใช้พรรคนี้อยู่ต่อไป  พรรคนี้ยังกล่าวประกาศอีกด้วยว่าความสุขของผู้คนนั้นมอบให้โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรคคอมมิวนิสต์จีนคือ “บิดามารดา” ที่จัดเตรียมอาหารและเสื้อผ้าของผู้คนชาวจีน  นี่ช่างไร้ยางอายและเลยพ้นเหตุผลทั้งปวงอย่างแท้จริง!  เห็นได้ชัดเจนว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนคือพรรคชั่ว ซึ่งก็คือเสียเจี้ยว  พวกเขามีความเป็นฟาสซิสต์มากกว่าพวกนิยมลัทธิฟาสซิสต์เสียอีก  ในโลกทุกวันนี้ ไม่มีองค์กรอื่นใดบ้าคลั่งหรือมุ่งร้ายในการที่องค์กรนั้นต่อต้านพระเจ้ามากไปกว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เลว ทั้งนี้ ไม่มีองค์กรอื่นใดโหดร้ายมากไปกว่าในการแสวงหาประโยชน์ขององค์กร การหลอกลวง และการข่มปรามประชาชนขององค์กร และไม่มีองค์กรอื่นใดได้สังหารและทำอันตรายผู้คนเป็นจำนวนที่มากกว่า  พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รับพระพิโรธของพระเจ้าและความขุ่นเคืองของผู้คนนานมาแล้ว  ด้วยเหตุนี้ พรรครัฐบาลที่ผิดกฎหมายพรรคนี้ที่ได้ใช้คำโกหก เล่ห์ลวง และความรุนแรงเพื่อยึดอำนาจ จึงไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับว่า ศาสนาหรือคริสตจักรใดมีหลักคำสอนที่ถูกต้องและศาสนาหรือคริสตจักรใดคือเสียเจี้ยว  พรรคคอมมิวนิสต์จีนอาจได้ลงนามในสนธิสัญญาระหว่างประเทศบางอย่างไปแล้ว แต่นี่เป็นแค่หนทางหนึ่งซึ่งพรรคนี้หลอกลวงผู้คนชาวจีนและใช้เล่ห์กลกับประชาคมระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ในข้อเท็จจริงแล้ว พรรคนี้ไม่เคยได้ระลึกถึงหรือยอมรับ—นับประสาอะไรที่จะยึดปฏิบัติตาม—สนธิสัญญาเหล่านี้  รัฐธรรมนูญของจีนไม่ใช่กฎหมายในสำนึกที่แท้จริงเลยแม้แต่น้อย  รัฐธรรมนูญของจีนถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้คนชาวจีนและเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการตั้งข้อจำกัดและใส่โซ่ตรวนพวกเขา  พรรคคอมมิวนิสต์จีนเองไม่ยึดปฏิบัติตามกฎหมายเลยแม้แต่น้อย  ไม่มีกฎหมายในประเทศที่อยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการของพรรคคอมมิวนิสต์  อาจกล่าวได้ว่าอำนาจของพรรคนี้อยู่เหนือกฎหมาย  เจ้าหน้าที่และตำรวจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้แถลงอย่างเป็นสาธารณะว่าพวกเขาคือกฎหมาย และว่าสิ่งที่พวกเขากล่าวคือกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้นำไปสู่การที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเพิกเฉยทั้งกฎหมายและฟ้าอย่างที่สุด  ในวันนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังถูกลงโทษโดยพระเจ้าสำหรับการต้านทานพระองค์  พระเจ้าได้ทรงกอปรความวิบัติทุกลักษณะขึ้นเพื่อทำลายพรรคคอมมิวนิสต์จีน  ผู้คนชาวจีนไม่เชื่อสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวอีกต่อไป เพราะสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวนั้นไม่ใช่อะไรเลยนอกจากความเห็นนอกรีตและเหตุผลวิบัติ การบิดเบือนข้อเท็จจริง การเป็นเหตุให้ข้อเท็จจริงที่แท้จริงเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับที่เคยเป็น การไม่มีเหตุผลทั้งปวง สิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวไม่ใช่อะไรเลยนอกจากคำพูดเยี่ยงมารที่หลอกลวง ทำให้เป็นอัมพาต และชักใยผู้คน

—การสามัคคีธรรมจากเบื้องบน

 

การสามัคคีธรรมของมนุษย์สำหรับการอ้างอิง:

คำศัพท์ว่า “ฟ้าแลบจากทิศตะวันออก” มาจากหนึ่งในคำเผยวจนะขององค์พระเยซูเจ้า ความว่า “เพราะว่าฟ้าแลบจากทิศตะวันออกส่องไปจนถึงทิศตะวันตกอย่างไร การเสด็จมาของบุตรมนุษย์ก็จะเป็นอย่างนั้น(มัทธิว 24:27)  บรรดาผู้ที่ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าและยอมรับฟ้าแลบจากทิศตะวันออกได้รับการยกขึ้นต่อหน้าพระบัลลังก์ของพระองค์ ในขณะที่พวกที่ปฏิเสธฟ้าแลบจากทิศตะวันออกทำอย่างสุดความสามารถที่จะกล่าวโทษฟ้าแลบจากทิศตะวันออกว่านอกรีต  นี่ไม่น่าแปลกใจเลย ทั้งนี้ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของผู้นำทางศาสนาที่ต้านทานและกล่าวโทษพระราชกิจของพระเจ้า  ในยุคพระคุณ เมื่อองค์พระเยซูเจ้าได้เสด็จมาเพื่อทรงพระราชกิจ บรรดาหัวหน้าปุโรหิต พวกธรรมาจารย์ และพวกฟาริสีแห่งความเชื่อของชาวยิวได้กล่าวโทษการทรงปรากฏและพระราชกิจขององค์พระเยซูเจ้าว่านอกรีต โดยต้านทานและข่มเหงพระองค์  ไม่มีความเป็นศัตรูระหว่างพวกเขากับองค์พระเยซูเจ้า ดังนั้นแล้ว เหตุใดหรือพวกเขาจึงต้านทานและกล่าวโทษพระองค์อย่างบ้าคลั่ง?  ทุกคนที่คุ้นเคยกับพระคัมภีร์รู้ว่าโดยการทรงพระราชกิจ การประกาศ และการปฏิบัติหมายสำคัญและการอัศจรรย์มากมาย องค์พระเยซูเจ้าได้ทรงก่อให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดความสนใจโดยตลอดทั่วทั้งแคว้นยูเดีย และผู้คนชาวยิวมากมายได้เริ่มติดตามพระองค์ นี่จึงได้ก่อให้เกิดความหงุดหงิดใหญ่หลวงสำหรับผู้นำชาวยิวระดับสูงสุด  พวกเขารู้ดีอย่างเต็มเปี่ยมว่า หากพวกเขาเปิดโอกาสให้องค์พระเยซูเจ้ายังทำงานและประกาศอยู่ต่อไป บรรดาผู้เชื่อชาวยิวทั้งหมดคงจะติดตามพระองค์และศาสนายิวก็คงจะพังทลาย  จะไม่มีผู้ใดสักการบูชาหรือติดตามผู้นำเหล่านั้นอีกต่อไป ทั้งนี้ สถานะและการดำรงชีวิตของพวกเขาก็คงจะหายไป  ในความพยายามที่จะสงวนรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ พวกเขาได้ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาสามารถใช้ได้กับองค์พระเยซูเจ้า และได้ตอกตรึงพระองค์กับกางเขน  เมื่ออัครทูตขององค์พระเยซูเจ้าเผยแผ่ข่าวประเสริฐของพระองค์ ผู้นำเหล่านั้นได้ไปจับกุมและข่มเหงพวกเขา โดยกล่าวว่าพระราชกิจขององค์พระเยซูเจ้านั้นนอกรีต  จากการนี้พวกเราสามารถเห็นได้ว่า หนทางที่แท้จริงจะนำไปสู่การปฏิเสธและการกล่าวโทษจากผู้นำในวงการศาสนาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในยุคสุดท้าย พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ผู้ทรงปรากฏในรูปมนุษย์ได้ทรงแสดงความจริงทั้งหมดเพื่อชำระมวลมนุษย์ให้บริสุทธิ์และช่วยมวลมนุษย์ให้รอด และยังได้ทรงพระราชกิจแห่งการพิพากษาซึ่งเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้าด้วยเช่นกัน  ในทำนองเดียวกัน พระองค์ได้ทรงตกอยู่ภายใต้การต้านทานและการกล่าวโทษจากผู้นำทางศาสนา  นี่เป็นการลุล่วงสิ่งที่องค์พระเยซูเจ้าได้ตรัสไว้ในพระคัมภีร์ ความว่า “เพราะว่าบุตรมนุษย์ ในวันของพระองค์นั้นจะเหมือนอย่างฟ้าแลบ เมื่อแลบออกจากฟ้าข้างหนึ่ง ก็ส่องสว่างไปถึงฟ้าอีกข้างหนึ่ง  แต่ก่อนหน้านั้นจำเป็นที่บุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์หลายอย่าง และคนในยุคนี้จะไม่ยอมรับท่าน(ลูกา 17:24-25)  ตรงนี้ “แต่ก่อนหน้านั้นจำเป็นที่บุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์หลายอย่าง และคนในยุคนี้จะไม่ยอมรับท่าน” อ้างอิงถึงการทรงกลับมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า การทนทุกข์จากการกล่าวโทษและการปฏิเสธจากเหล่ามนุษย์อีกครั้งหนึ่ง  คำพูดเหล่านี้สะท้อนอย่างแท้จริงถึงการกล่าวโทษอันยโสแก่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์โดยบรรดาศิษยาภิบาลและผู้อาวุโสแห่งโลกศาสนาใช่หรือไม่?  ถ้อยดำรัสทั้งหมดของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์คือความจริง และถ้อยดำรัสเหล่านี้ได้เปิดเผยความล้ำลึกทั้งหมดของแผนการบริหารจัดการของพระองค์  นี่รวมถึงความจริงทั้งหมด—อาทิ แผนการบริหารจัดการหกพันปีของพระองค์ จุดประสงค์ของพระราชกิจสามช่วงระยะของพระองค์ ความล้ำลึกและนัยสำคัญของการที่พระองค์ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ วิธีที่มวลมนุษย์ได้พัฒนามาจนบัดนี้ และบั้นปลายในอนาคตของมนุษยชาติ  ผู้คนมากมายที่ได้ถวิลหาการทรงปรากฏของพระองค์ ได้เห็นว่าพระวจนะของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์มีสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพ ทั้งนี้พวกเขาได้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความจริง ได้ระลึกว่าพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงเป็นองค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับมา และได้หันไปหาพระองค์ทีละคน  ดังนั้นแล้ว เหตุใดหรือบรรดาศิษยาภิบาลและผู้อาวุโสแห่งโลกศาสนา ผู้ที่ได้รับใช้พระเจ้ามาเป็นเวลาหลายปี จึงไม่ยอมรับการทรงกลับมาขององค์พระเยซูเจ้าในยุคสุดท้าย แต่กลับต้านทานและกล่าวโทษพระองค์อย่างบ้าคลั่งแทน?  ในข้อเท็จจริงแล้ว พวกเขาหลายคนได้อ่านพระวจนะของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์และได้ยินคำเทศนาโดยสมาชิกของคริสตจักรแห่งพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์  พวกเขาส่วนใหญ่ยอมรับรู้ว่าพระวจนะของพระองค์มีสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพ และล้วนแต่เป็นการแสดงออกถึงความจริง กระนั้นก็ตาม พวกเขายังคงสวนทางกับมโนธรรมของตัวเองเพื่อกล่าวโทษคริสตจักรว่านอกรีต  นี่เป็นเพราะพวกเขาเห็นว่าพระวจนะของพระองค์เปี่ยมฤทธานุภาพเพียงใด—เปี่ยมฤทธานุภาพพอที่จะพิชิตโลกศาสนาทั้งหมดทั้งมวล—และว่าหากพวกเขาไม่หยุดยั้งผู้คนเหล่านี้ที่มีความเชื่ออันจริงแท้จากการยอมรับพระราชกิจของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ในยุคสุดท้าย เช่นนั้นแล้ว โลกศาสนาทั้งหมดทั้งมวลย่อมจะแหลกสลาย  หลังจากนั้น จะไม่มีผู้ใดสักการบูชาหรือติดตามบรรดาศิษยาภิบาลและผู้อาวุโสเหล่านั้นอีกต่อไป  เพื่อที่จะยึดเกาะสถานะของพวกเขาและการดำรงชีวิตของพวกเขา พวกเขาตัดสินและกล่าวโทษการทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์อย่างบ้าคลั่ง และประณามคริสตจักรว่านอกรีต ทั้งนี้ เป้าหมายของพวกเขาคือการใช้การนี้เพื่อปิดบังข้อเท็จจริงที่ว่าองค์พระเยซูเจ้าได้ทรงกลับมา ทรงปรากฏ และทรงพระราชกิจแล้ว และเพื่อหยุดยั้งเหล่าผู้เชื่อจากการสืบค้นหนทางที่แท้จริงและการมาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า  พวกเขาต้องการให้ผู้เชื่อสักการบูชาและติดตามพวกเขาไปตลอดกาลแทน เพื่อให้พวกศิษยาภิบาลและผู้อาวุโสเหล่านี้สามารถสัมฤทธิ์เป้าหมายอันน่าดูหมิ่นของพวกเขาในการที่จะมีการควบคุมอันนิรันดร์เหนือโลกศาสนาได้  เป็นที่ชัดเจนว่ารากเหง้าของการกล่าวโทษและการต้านทานพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ของพวกเขาเป็นอย่างเดียวกับรากเหง้าของพวกฟาริสีชาวยิวที่ต่อต้านองค์พระเยซูเจ้า  การนี้ถูกปกครองดูแลอย่างครบถ้วนบริบูรณ์โดยธรรมชาติเยี่ยงซาตานของพวกเขาอันเป็นความน่าขยะแขยง ความเกลียดชังที่มีให้กับความจริง และการต้านทานพระเจ้า  ข้อเท็จจริงทั้งหลายนั้นพิสูจน์อย่างเพียงพอว่า ในขณะที่พวกศิษยาภิบาลและผู้อาวุโสในวงการศาสนาเหล่านี้เชื่อในพระเจ้าและรับใช้พระเจ้า ทว่าพวกเขาไม่เคารพพระองค์  พวกเขาคือพวกฟาริสีที่แท้จริง ทั้งนี้ พวกเขาทั้งหมดคือพวกศัตรูของพระคริสต์ที่กำลังถูกเปิดโปงโดยพระราชกิจของพระเจ้าในยุคสุดท้าย

ถึงแม้ว่าพระราชกิจขององค์พระเยซูเจ้าถูกกล่าวโทษว่านอกรีตโดยผู้นำชาวยิวทั้งหมดในเวลานั้น แต่ข่าวประเสริฐของพระองค์ยังคงเผยแผ่ไปทุกมุมของแผ่นดินโลกและได้รับการยอมรับโดยผู้คนในจำนวนที่มากขึ้นเรื่อยๆ  บัดนี้ ทั้งโลกศาสนายอมรับรู้พระองค์ว่าเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้และยอมรับรู้พระราชกิจของพระองค์ว่าเป็นหนทางที่แท้จริง  ในยุคสุดท้าย พวกศิษยาภิบาลและผู้อาวุโสทางศาสนาก็กำลังกล่าวโทษพระราชกิจของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ว่านอกรีตในทำนองเดียวกัน  เป็นเวลาเพิ่งจะสองทศวรรษนับตั้งแต่พระองค์ได้ทรงปรากฏและได้ทรงเริ่มที่จะทำพระราชกิจในประเทศจีน และพอถึงตอนนี้ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักรก็ได้เผยแผ่ไปโดยตลอดทั่วทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด โดยนำพาผู้คนหลายล้านคนมาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์  บัดนี้ข่าวประเสริฐกำลังแผ่ขยายไปโดยตลอดทั่วทั้งโลกที่ความเร็วของสายฟ้าแลบ โดยมีสาขาของคริสตจักรแห่งพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ที่ตอนนี้ได้สถาปนาขึ้นแล้วในหลายประเทศ  จากการนี้ เป็นที่ประจักษ์ว่าหนทางที่แท้จริงจะเป็นหนทางที่แท้จริงอยู่เสมอ ทั้งนี้ ต่อให้นั่นถูกกล่าวโทษว่านอกรีตโดยพวกผู้นำทั้งหมดในวงการศาสนา ในท้ายที่สุดแล้วนั่นจะได้รับการยอมรับรู้และยอมรับโดยมนุษยชาติทั้งปวง  ไม่มีใครสามารถหักล้างข้อเท็จจริงทั้งหลายเกี่ยวกับการทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้าได้ อีกทั้งพวกเขายังไม่สามารถขัดขวางพระราชกิจของพระองค์ได้  นี่คือสิทธิอำนาจอันทรงเอกลักษณ์ของพระเจ้า!

ก่อนหน้า: 3. ในพระคัมภีร์ เปาโลได้กล่าวว่า “ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง  เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ถืออำนาจนั้น พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น  เพราะฉะนั้นผู้ที่ขัดขืนอำนาจนั้น ก็ขัดขืนผู้ซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น และผู้ที่ขัดขืนนั้นจะต้องถูกลงโทษ” (โรม 13:1-2)  ในการฝึกฝนปฏิบัติไปตามคำพูดของเปาโล พวกเราควรนบนอบต่ออำนาจการปกครองทั้งหลายในทุกสรรพสิ่ง  แต่กระนั้น รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นอเทวนิยมก็ได้ข่มเหงการเชื่อทางศาสนามาโดยตลอดประวัติศาสตร์ของมัน  มันไม่เป็นมิตรต่อพระเจ้า และมันไม่เพียงไม่อนุญาตให้พวกเราเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แต่มันยังจับกุมและข่มเหงบรรดาผู้ที่เผยแผ่ข่าวประเสริฐและให้คำพยานต่อพระเจ้าอีกด้วย  หากพวกเราก้มหัวให้รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน เลิกเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า และหยุดการเผยแผ่ข่าวประเสริฐและการให้คำพยานต่อพระเจ้า พวกเราจะไม่ใช่กำลังยืนอยู่ข้างซาตานโดยการต่อต้านและหันหลังของพวกเราให้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือ?  ฉันคิดเรื่องนี้ไม่ตกจริงๆ ว่า ฉันต้องทำอะไรกันแน่เพื่อให้คล้อยตามน้ำพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้าในเรื่องทั้งหลายที่เกี่ยวกับอำนาจการปกครอง?

ถัดไป: 2. พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เผยแพร่ข้อมูลออนไลน์ซึ่งกล่าวว่า ผู้คนในคริสตจักรแห่งพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ล้มเลิกครอบครัวและการงานของพวกเขาเพื่อที่จะเผยแผ่ข่าวประเสริฐและให้คำพยานต่อพระเจ้า  ผู้คนบางคนถึงกับคงอยู่แบบไม่แต่งงานไปทั้งชีวิตของพวกเขา  พรรคคอมมิวนิสต์จีนพูดว่า การเชื่อของพวกคุณทำลายครอบครัว  สิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนพูดนั้นจริงแท้หรือไม่?

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 6) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 7) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 8) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 9) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger