3. ในพระคัมภีร์ เปาโลได้กล่าวว่า “ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง  เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ถืออำนาจนั้น พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น  เพราะฉะนั้นผู้ที่ขัดขืนอำนาจนั้น ก็ขัดขืนผู้ซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น และผู้ที่ขัดขืนนั้นจะต้องถูกลงโทษ” (โรม 13:1-2)  ในการฝึกฝนปฏิบัติไปตามคำพูดของเปาโล พวกเราควรนบนอบต่ออำนาจการปกครองทั้งหลายในทุกสรรพสิ่ง  แต่กระนั้น รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นอเทวนิยมก็ได้ข่มเหงการเชื่อทางศาสนามาโดยตลอดประวัติศาสตร์ของมัน  มันไม่เป็นมิตรต่อพระเจ้า และมันไม่เพียงไม่อนุญาตให้พวกเราเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แต่มันยังจับกุมและข่มเหงบรรดาผู้ที่เผยแผ่ข่าวประเสริฐและให้คำพยานต่อพระเจ้าอีกด้วย  หากพวกเราก้มหัวให้รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน เลิกเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า และหยุดการเผยแผ่ข่าวประเสริฐและการให้คำพยานต่อพระเจ้า พวกเราจะไม่ใช่กำลังยืนอยู่ข้างซาตานโดยการต่อต้านและหันหลังของพวกเราให้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือ?  ฉันคิดเรื่องนี้ไม่ตกจริงๆ ว่า ฉันต้องทำอะไรกันแน่เพื่อให้คล้อยตามน้ำพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้าในเรื่องทั้งหลายที่เกี่ยวกับอำนาจการปกครอง?

ตอบ:

เปาโลได้พูดว่า “ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง  เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ถืออำนาจนั้น พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น  เพราะฉะนั้นผู้ที่ขัดขืนอำนาจนั้น ก็ขัดขืนผู้ซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น และผู้ที่ขัดขืนนั้นจะต้องถูกลงโทษ” (โรม 13:1-2)  เพราะเปาโลได้พูดคำพูดเหล่านี้ ผู้เชื่อมากมายในองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงคิดว่า ทางการที่ปกครองดูแลนั้นได้รับการกำหนดโดยพระเจ้า และว่าการเชื่อฟังพวกเขาคือการเชื่อฟังพระเจ้า  บางคนถึงขั้นคิดว่า ไม่ว่าทางการจะลองพยายามที่จะขัดขวางและปราบปรามความเชื่อของพวกเขาในพระเจ้าอย่างไร ผู้คนก็ยังคงควรเชื่อฟังทางการ และว่าการท้าทายทางการก็คือการต่อต้านพระเจ้า  ทรรศนะทั้งหลายดังกล่าวถูกต้องหรือไม่?  ทรรศนะเหล่านั้นสอดคล้องกันกับน้ำพระทัยของพระเจ้าหรือไม่?  ในข้อเท็จจริงแล้ว จากยุคธรรมบัญญัติจนถึงยุคพระคุณ พระเจ้าไม่เคยได้ตรัสว่าผู้คนควรนบนอบต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ  ในยุคธรรมบัญญัติ ศัตรูของคนอิสราเอลก็คือฟาโรห์แห่งอียิปต์ ทั้งนี้ พระองค์ทรงเป็นผู้ที่กุมอำนาจ  แล้วพระเจ้าได้ทำสิ่งใดต่อฟาโรห์เล่า?  เมื่อฟาโรห์ได้ทรงหยุดยั้งคนอิสราเอลจากการทิ้งอียิปต์ไป พระเจ้าได้ทรงกระหน่ำพรมความวิบัติสิบอย่างกับฟาโรห์  หากฟาโรห์ไม่ได้ทรงปล่อยคนอิสราเอลไป พระเจ้าก็คงจะทรงทำลายฟาโรห์ไปแล้ว  เมื่อกองทัพอียิปต์กำลังไล่ตามคนอิสราเอลอยู่นั้น ทะเลแดงก็แยกออก และแล้วทะเลนี้ก็ท่วมและทำลายพวกทหารที่กำลังไล่ตาม  ในยุคธรรมบัญญัติ กษัตริย์ทั้งหมดแห่งพวกมารที่ได้ต้านทานพระเจ้าก็ถูกพระเจ้าทรงทำลายในที่สุด  ตอนนี้ให้ดูที่ยุคพระคุณ กล่าวคือ เหตุใดหรือองค์พระเยซูเจ้าจึงทรงไปในถิ่นทุรกันดารและท่ามกลางผู้คนเพื่อทรงประกาศ แทนที่จะเป็นการทรงประกาศในวิหาร?  เพราะทางการและพวกผู้นำแห่งโลกศาสนาล้วนแต่ได้ต่อต้านพระเจ้าและล้วนแต่เป็นอริกับองค์พระผู้เป็นเจ้า การนี้จึงได้ทิ้งองค์พระเยซูเจ้าให้ไม่ทรงมีทางเลือกนอกจากทรงประกาศในถิ่นทุรกันดารและท่ามกลางผู้คน  หากบรรดาสาวกขององค์พระเยซูเจ้าได้เชื่อฟังทางการ พวกเขาจะยังคงได้ติดตามพระองค์กระนั้นหรือ?  แล้วพวกเขาจะยังคงได้รับการสรรเสริญโดยพระองค์กระนั้นหรือ?  ทั้งหมดนี้น่าจะแสดงให้บรรดาผู้ที่เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริงได้เห็นว่า อะไรกันแน่ที่ควรเป็นแนวทางของพวกเขาต่อทางการซึ่งเป็นพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อที่จะให้เป็นที่สมดังพระทัยของพระเจ้า  หากผู้คนได้เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้ามาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่กระนั้นกลับยังคงไม่สามารถระลึกได้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจคือศัตรูของพระเจ้า ผู้คนเหล่านี้เข้าใจองค์คัมภีร์จริงๆ กระนั้นหรือ?  แล้วพวกเขารู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้าจริงๆ หรือ?  การที่ผู้คนมากมายไม่มีวิจารณญาณและไม่สามารถมองสิ่งเหล่านี้อย่างที่พวกมันเป็นจริงๆ ได้ ก็เป็นเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำสิ่งใดหลังจากอ่านคำพูดเหล่านี้ของเปาโลในพระคัมภีร์  ผู้คนบางคนถึงขั้นเชื่อว่าความเชื่อฟังต่อทางการที่ปกครองดูแลก็คือความเชื่อฟังต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และว่าการต่อต้านและต้านทานอำนาจเหล่านี้ก็คือการต้านทานผู้ซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้นและนำพาการลงโทษมาสู่ตัวเอง  ทรรศนะทั้งหลายดังกล่าวไม่ผิดไปทั้งสิ้นหรอกหรือ?  ทรรศนะเหล่านี้ไม่ใช่ความเข้าใจผิดอันสาหัสและการเยาะเย้ยท้าทายพระเจ้าหรอกหรือ?  เหล่านี้คือทรรศนะผิดๆ ที่ทำให้ผู้คนงุนงงสับสนและทำอันตรายต่อผู้คน!

พวกเราล้วนแต่รู้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคการเมืองอเทวนิยม—และที่ที่อเทวนิยมอยู่ในอำนาจ ซาตานก็อยู่ในอำนาจ  พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้คำนึงถึงพระเจ้าว่าเป็นศัตรูเสมอมา  วิธีเข้าหาของพรรคนี้ต่อการทรงปรากฏและพระราชกิจของพระคริสต์ก็คือ“กองพลจะไม่ถอนกำลังจนกว่าการสั่งห้ามจะสำเร็จ”  พรรคนี้จะทำทุกวิถีทางเพื่อตอกตรึงพระคริสต์เข้ากับกางเขน  ตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เข้ามาสู่อำนาจ พรรคนี้ก็ได้ปฏิเสธ กล่าวโทษ และหมิ่นประมาทพระเจ้าอย่างเปิดเผย  ศาสนาคริสต์ได้ถูกประกาศแถลงว่าเป็นเสียเจี้ยว พระคัมภีร์ทั้งหลายถูกยึดและถูกเผาในฐานะที่เป็นวรรณกรรมเสียเจี้ยว และกลุ่มทั้งหลายทางศาสนาก็ถูกข่มเหงและกดขี่ภายใต้การตราหน้าว่าเป็นองค์กรเสียเจี้ยว  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้กดขี่ จับกุม และข่มเหงคริสตชนที่เชื่อในพระเจ้าเที่ยงแท้และที่ประกาศและให้การเป็นพยานต่อพระเจ้า อันเป็นการนำพวกเขาไปสู่ความโหดร้ายและการทรมานที่ไร้มนุษยธรรมซึ่งได้ทิ้งให้หลายคนบาดเจ็บและพิการ  บางคนถึงขั้นเสียชีวิตจากการทารุณกรรมที่พวกเขาได้ทนทุกข์  เหตุใดหรือพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงเป็นอริเช่นนั้นกับพระคริสต์ และเหตุใดหรือพรรคนี้จึงข่มเหงบรรดาผู้ที่เชื่อในพระเจ้าเที่ยงแท้?  อะไรคือจุดมุ่งหมายของพรรคนี้?  สิ่งที่พรรคนี้กลัวมากที่สุดในบรรดาทั้งหมดก็คือ ผู้คนชาวจีนจะเริ่มที่จะเชื่อในพระเจ้าและติดตามพระเจ้า  พรรคนี้กลัวว่าผู้คนจะไล่ตามเสาะหาความจริงและได้รับการช่วยให้รอดโดยพระเจ้า—ซึ่งในกรณีนี้ย่อมจะไม่มีใครเหลือไว้ให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนจับไปเป็นทาส ไม่มีใครที่จะรับใช้พรรคนี้  ดังนั้นแล้ว ระบอบเยี่ยงปีศาจแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงตามล่าพระคริสต์อย่างบ้าคลั่ง โดยนำเอาทุกวิถีทางที่พรรคนี้มีอยู่มาใช้เพื่อกระทำการทารุณโหดร้ายและข่มเหงคริสตชน ด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ ที่จะถอนรากถอนโคนพระราชกิจของพระเจ้า กำจัดการเชื่อทางศาสนาให้หมดสิ้น และเปลี่ยนประเทศจีนเป็นแผ่นดินที่ปราศจากพระเจ้า เพื่อที่ระบอบเผด็จการแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนเยี่ยงปีศาจจะได้ครองอำนาจเป็นนิรันดร์และไม่เปลี่ยนแปลงในประเทศจีน  นี่พิสูจน์ว่าไม่มีใครในโลกนี้เกลียดความจริงและเกลียดชังพระเจ้ามากไปกว่าระบอบชั่วเยี่ยงซาตานแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน  พวกเขาคือคณะพวกมารที่เยาะเย้ยท้าทายพระเจ้า!  ที่ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนปกครอง ซาตานก็ปกครอง!  ดังนั้น เมื่อพวกเราบอกปัดพรรคคอมมิวนิสต์จีนและหันหลังให้กับพรรคนี้ นี่ไม่ใช่เป็นการสอดคล้องอย่างเต็มที่กับน้ำพระทัยของพระเจ้าหรอกหรือ?

ในข้อเท็จจริงแล้ว การนี้ถูกเปิดเผยโดยองค์พระเยซูเจ้านานมาแล้ว ความว่า “คนในยุคนี้เป็นคนชั่วร้าย(ลูกา 11:29)  “หลักการพิพากษามีอย่างนี้ คือความสว่างเข้ามาในโลกแล้ว แต่มนุษย์รักความมืดมากกว่าความสว่าง เพราะกิจการของพวกเขาเลวทราม(ยอห์น 3:19)  พระคัมภีร์กล่าวว่า “แต่โลกทั้งหมดอยู่ในมือของมารร้าย(1 ยอห์น 5:19)  องค์พระเยซูเจ้าทรงตัดไปที่ประเด็นทันทีในการทรงเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงและแหล่งที่มาของความมืดมิดและความชั่วของโลกนี้  มวลมนุษย์ทั้งหมดดำรงชีวิตอยู่ภายใต้อิทธิพลของซาตาน โดยไม่ยอมผ่อนปรนต่อการทรงดำรงอยู่ของพระเจ้าและความจริง  ในชุมชนทางศาสนา ไม่มีใครกล้าที่จะให้การเป็นพยานอย่างเปิดเผยต่อการทรงปรากฏในรูปมนุษย์ของพระเจ้าในคริสตจักรทั้งหลาย นับประสาอะไรที่พวกเขาจะกล้าที่จะให้การเป็นพยานต่อความจริงทั้งหลายที่พระคริสต์ทรงแสดงไม่ว่าในคริสตจักรหรือท่ามกลางผู้คน  ในทุกนิกาย ผู้คนที่ถูกค้นพบว่าให้การเป็นพยานต่อพระคริสต์ในเนื้อหนังถูกจับและถูกกล่าวโทษ—พวกเขาถูกขับออกจากคริสตจักร และถึงขั้นถูกส่งตัวให้ทางการ  มวลมนุษย์นี้ไม่ได้ไปถึงจุดยอดของความชั่วแล้วหรอกหรือ?  การที่ทุกที่ในโลกนี้กึกก้องไปด้วยการไม่ยอมรับพระเจ้า การไม่ยอมรับความจริง และการกล่าวโทษพระคริสต์ นี่ไม่ใช่เพราะกำลังบังคับชั่วเยี่ยงซาตานเหล่านั้นที่ต่อต้านพระเจ้ามีอิทธิพลควบคุมในโลกนี้หรอกหรือ?  ลองมองย้อนหลังไปสองพันปีที่แล้วสิ นั่นก็คือ  องค์พระเยซูเจ้าทรงประสูติได้ไม่นานเท่าไหร่พระองค์ก็ทรงถูกรัฐบาลโรมันตามล่า ทั้งนี้ ในขณะที่กำลังทรงพระราชกิจและทรงประกาศหนทางอยู่นั้น พระองค์ก็ทรงถูกตอกตรึงกับกางเขนโดยพวกผู้นำชาวยิวซึ่งร่วมมือกับทางการโรมัน และเมื่อข่าวประเสริฐของพระองค์ได้รับการประกาศในประเทศจีน ข่าวประเสริฐนี้ก็ประสบกับการกล่าวโทษและการต้านทานอันบ้าคลั่งโดยรัฐบาลจีนเช่นกัน—ใครกันจะรู้ว่าผู้เผยแพร่ศาสนาในประเทศจีนถูกทรมานและถูกฆ่าตายไปแล้วกี่คน  หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เข้ามาสู่อำนาจ คริสตชนอีกมากนับไม่ถ้วนถูกจับกุมและถูกทรมานโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน  รายการที่พรรคนี้กระทำต่อคริสตชนยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ  ข้อเท็จจริงเหล่านี้แสดงให้เห็นอะไรหรือ?  เหตุใดหรือพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงเกลียดชังผู้คนที่เชื่อในพระเจ้ามากเหลือเกิน?  เหตุใดหรือคริสตชนหลายรุ่นจึงได้ทนทุกข์กับการข่มเหงอันไร้มนุษยธรรมดังกล่าว?  เหตุใดหรือความจริงจึงประสบกับการบอกปัดและการกล่าวโทษท่ามกลางมนุษย์เสมอ?  เหตุใดหรือน้ำพระทัยของพระเจ้าจึงไม่สามารถได้รับการดำเนินการบนแผ่นดินโลกและโดยตลอดทั่วทั้งทุกชนชาติในโลกนี้ได้?  นั่นเป็นเพราะทั้งโลกอยู่ภายใต้แดนครอบครองของซาตาน มารร้าย เพราะกำลังบังคับชั่วของซาตานกุมอำนาจบนแผ่นดินโลก และพวกเขาล้วนแต่เป็นระบอบการเมืองอเทวนิยมที่ต่อต้านพระเจ้า ทั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบอบแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็คือแม่แบบของกำลังบังคับชั่วของซาตาน  การนี้นั่นเองที่ได้นำทางไปสู่ความชั่วและความมืดมิดสุดขั้วของมวลมนุษย์  นี่คือข้อเท็จจริงที่ระลึกได้ข้อหนึ่ง!  แต่เพราะคำพูดของเปาโล—“ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง”—ผู้คนจึงเชื่อว่าความเชื่อฟังต่อทางการก็คือความเชื่อฟังต่อพระเจ้า  พวกเราขอถามเจ้าอย่างนี้ว่า เมื่อระบอบเยี่ยงปีศาจแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนขัดขวางและห้ามความเชื่อของพวกเราในพระเจ้าและการนมัสการพระเจ้า พวกเรายังคงควรเชื่อฟังอยู่หรือไม่?  เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนจับกุมและทรมานคริสตชน บังคับให้พวกเขาเขียนถ้อยแถลงแห่งการกลับใจใหม่ ทำให้พวกเขาไม่ยอมรับและทรยศพระเจ้า และถึงขั้นบีบให้พวกเขายอมสาปแช่งและหมิ่นประมาทพระเจ้า พวกเรายังคงสามารถเชื่อฟังได้อยู่หรือไม่?  เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่อนุญาตให้พวกเราประกาศข่าวประเสริฐและให้การเป็นพยานต่อพระเจ้า เมื่อพรรคนี้บังคับให้พวกเราขายองค์พระผู้เป็นเจ้าและบรรดาเพื่อนผู้เชื่อของพวกเรา ให้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดและสุนัขรับใช้ของพรรคนี้ พวกเรายังคงสามารถเชื่อฟังได้อยู่หรือไม่?  หากพวกเราได้เชื่อฟังระบอบเยี่ยงปีศาจแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน พวกเราจะไม่ใช่กำลังยืนอยู่ข้างซาตาน โดยต่อต้านและทรยศพระเจ้าหรอกหรือ?  พวกเราจงมาดูที่คำพูดของเปาโลกันอีก ความว่า “ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง” “เพราะฉะนั้นผู้ที่ขัดขืนอำนาจนั้น ก็ขัดขืนผู้ซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น และผู้ที่ขัดขืนนั้นจะต้องถูกลงโทษ”  คำพูดดังกล่าวสามารถปฏิบัติได้หรือไม่?  คำพูดเหล่านี้สอดคล้องกับความจริงหรือไม่?  เปาโลจะไม่สามารถมองเห็นยุคมืดและชั่วนี้ในสิ่งที่มันเป็นจริงๆ ได้กระนั้นหรือ?  เปาโลก็ถูกจับกุมและถูกจำคุกสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐเช่นกัน  หากพูดอย่างมีเหตุผลแล้ว เขาควรมีความสามารถที่จะมองเห็นแก่นแท้ของอำนาจชั่วของซาตานได้อย่างชัดเจนมากกว่าพวกเราเสียด้วยซ้ำ แต่กระนั้นเขากลับยังคงเปล่งคำพูดเหล่านั้น—ไม่น่าเชื่อเลย!

พวกเราทั้งหมดควรตระหนักรู้ว่า ในการที่พระเจ้าทรงเปิดโอกาสให้ซาตานทำให้มวลมนุษย์เสื่อมทรามและการที่พระองค์ทรงอนุญาตให้ซาตานมารร้ายกุมอำนาจบนแผ่นดินโลกนั้น มีพระปัญญาและการจัดการเตรียมการของพระเจ้าบรรจุอยู่  ความรอดแห่งมวลมนุษย์ของพระเจ้าโดยหลักแล้วก็เพื่อที่จะทำให้ซาตานปราชัย และเพื่อทำให้พวกเหล่านั้นที่ได้ถูกซาตานทำให้เสื่อมทรามเชื่อฟังและนมัสการพระเจ้า  เมื่อนั้นเท่านั้นซาตานจึงจะถูกทำให้ปราชัยและถูกทำให้อัปยศอดสูอย่างที่สุด และชะตากรรมของมันก็จะถูกปิดตายในท้ายที่สุด  ดังนั้นแล้ว เมื่อพระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานกวัดแกว่งอำนาจและทำให้มวลมนุษย์เสื่อมทราม น้ำพระทัยของพระองค์ก็คือเพื่อให้มวลมนุษย์มีวิจารณญาณเหนือซาตาน มองเห็นแก่นแท้ของซาตานอย่างทะลุปรุโปร่ง เพื่อให้ผู้คนเกลียดซาตาน และหันหลังให้กับซาตาน แต่กระนั้นพระเจ้าก็ไม่เคยทรงเอ่ยขอให้ผู้คนเชื่อฟังซาตาน นับประสาอะไรที่พระองค์จะได้ตรัสว่าการไม่ยอมรับระบอบเยี่ยงซาตานอันใดนั้นจะนำพาการลงโทษมาสู่ตัวคนเรา  ดังนั้น ตามมุมมองของเปาโล เหล่าวิสุทธิชนหลายรุ่นที่ถูกตามล่าและถูกข่มเหงโดยรัฐบาลเยี่ยงซาตาน และแม้กระทั่งได้พลีชีพให้องค์พระผู้เป็นเจ้า ได้นำพาการลงโทษมาสู่ตัวเองเพราะพวกเขาได้เยาะเย้ยท้าทายอำนาจที่ปกครองดูแลหรือไม่?  ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถูกจำคุกของเหล่าวิสุทธิชนหลายรุ่นไม่ใช่คำพยานที่สวยงามและกังวานก้องต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือ?  ตามมุมมองของเปาโล การจับกุมและแม้กระทั่งการสังหารเหล่าวิสุทธิชนหลายรุ่นเหล่านี้ไม่ใช่คำพยานที่สวยงาม—เป็นพวกเขานั่นเองที่นำพาการลงโทษมาสู่ตัวเองเพราะพวกเขาได้ท้าทายทางการ  และในกรณีนั้น ความเจ็บปวดจากการถูกจำคุกที่เปาโลได้ทนทุกข์สำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐไม่สูญเปล่าไปด้วยเช่นกันหรอกหรือ?  ดังนั้นเหตุใดหรือเปาโลจึงได้ให้การเป็นพยานถึงความเจ็บปวดที่เขาได้ทนทุกข์ต่อผู้อื่น?  นี่ไม่ใช่ความย้อนแย้งหรอกหรือ?  ความเชื่อของพวกเราในองค์พระผู้เป็นเจ้าและการประกาศและการเป็นคำพยานของพวกเราต่อข่าวประเสริฐขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้น ได้รับการประกาศิตโดยฟ้าและการยอมรับรู้โดยแผ่นดินโลก ทั้งนี้ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลของซาตานจะทำทุกวิถีทางเพื่อข่มเหงคริสตชนอย่างโหดร้าย เพื่อเหนี่ยวรั้งการเผยแผ่งานข่าวประเสริฐของพระเจ้าและหยุดยั้งน้ำพระทัยของพระเจ้าจากการได้รับการดำเนินการ—ซึ่งเป็นการตีแผ่แก่นแท้เยี่ยงปีศาจของพวกเขา แก่นแท้ซึ่งเกลียดความจริงและเป็นอริต่อพระเจ้า  เมื่อผู้คนถูกรัฐบาลของซาตานข่มเหงอย่างโหดร้ายด้วยเหตุที่ค้ำจุนหนทางที่แท้จริงและทำการประกาศและให้การเป็นพยานต่อข่าวประเสริฐขององค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาถูกข่มเหงเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของความชอบธรรม และไม่มีสิ่งใดที่ควรค่าแก่การสรรเสริญจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามากไปกว่านี้  เช่นนั้นแล้วสามารถกล่าวได้หรือไม่ว่า พวกเขานำพาการลงโทษมาสู่ตัวเอง?  ครั้งหนึ่งองค์พระเยซูเจ้าได้ทรงระบุอย่างชัดเจนว่า “คนที่ถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาทั้งหลาย(มัทธิว 5:10)  นี่อาจเป็นได้หรือไม่ว่า เปาโลไม่ได้ตระหนักรู้ถึงพระวจนะเหล่านี้แห่งองค์พระเยซูเจ้า?  คำพูดที่เปาโลพูดนั้นขัดแย้งกับพระวจนะแห่งองค์พระเยซูเจ้าอย่างชัดเจน  คำพูดเหล่านั้นโดยพื้นฐานเบื้องต้นแล้วไม่ลงรอยกับความจริง และไม่สามารถก่อรูปหลักพื้นฐานของการกระทำของพวกเราได้  พวกเราได้รับการทรงสร้างโดยพระเจ้า และพวกเราเป็นของพระเจ้า ดังนั้นจึงมีการประกาศิตโดยฟ้าและได้รับการยอมรับรู้โดยแผ่นดินโลกว่า พวกเราควรฟังพระเจ้าในทุกสรรพสิ่งและเชื่อฟังสิทธิอำนาจของพระเจ้า!

ก่อนหน้า: 2. นับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มามีอำนาจ มันได้ทำการข่มเหงของมันที่มีต่อความเชื่อทางศาสนาอย่างไม่เคยหยุดหย่อนตลอดมา  การปราบปรามของมันที่มีต่อคริสตจักรแห่งพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์โดยเฉพาะนั้น ได้กลายมาเป็นรุนแรงมากขึ้นทุกที  พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ได้เพียงใช้โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และสื่ออื่นๆ เพื่อใส่ร้ายป้ายสี ใส่ความและทำลายความน่าเชื่อถือของคริสตจักรแห่งพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์เท่านั้น แต่ยังได้กระทำการจับกุมสมาชิกของคริสตจักรเป็นวงกว้าง อันส่งผลลัพธ์ให้ชาวคริสเตียนมากมายถูกขังคุกและทรมานอย่างโหดร้าย และถึงขั้นถูกทรมานจนตาย  ทำไมการข่มเหงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อคริสตจักรแห่งพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์จึงรุนแรงเหลือเกินเล่า?  

ถัดไป: 1. พวกคุณให้คำพยานว่า คริสตจักรแห่งพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์มีจุดกำเนิดอยู่ในการทรงปรากฏและพระราชกิจของพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย  พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ แต่รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นอเทวนิยมกับพวกผู้นำของโลกศาสนาก็กล่าวโทษการสอนของพวกคุณว่าเป็นความเห็นนอกรีต  ดังนั้นแล้ว พวกเราจะสามารถมีวิจารณญาณเหนือสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกับโลกศาสนาพูดได้อย่างไร?

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 6) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 7) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 8) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 9) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger