งานแห่งการเผยแผ่ข่าวประเสริฐคืองานแห่งการช่วยมนุษย์ให้รอดด้วยเช่นกัน

ผู้คนทุกคนจำเป็นต้องเข้าใจจุดมุ่งหมายของงานของเราบนโลก นั่นคือ สิ่งที่เราปรารถนาที่จะได้รับในท้ายที่สุด และระดับที่เราต้องสัมฤทธิ์ผลในงานนี้ก่อนที่งานจะสามารถครบบริบูรณ์ได้  หากว่าหลังจากที่เดินมากับเราจนถึงวันนี้ ผู้คนยังไม่เข้าใจว่างานของเราเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เช่นนั้นแล้ว พวกเขาไม่ได้เดินมากับเราอย่างเปล่าประโยชน์หรอกหรือ?  หากผู้คนติดตามเรา พวกเขาควรรู้เจตนารมณ์ของเรา  เราได้ทำงานบนแผ่นดินโลกมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว และจนถึงวันนี้ เรายังคงดำเนินการงานของเราเช่นนี้ต่อไป  ถึงแม้ว่างานของเราจะมีโครงการมากมาย จุดประสงค์ของงานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเราเต็มเปี่ยมไปด้วยคำพิพากษาและการตีสอนต่อมนุษย์ ตัวอย่างเช่น สิ่งที่เราทำยังคงเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งการช่วยเขาให้รอด และเพื่อประโยชน์แห่งการเผยแผ่ข่าวประเสริฐของเราให้ดียิ่งขึ้นและขยายงานของเราออกไปให้ไกลยิ่งขึ้นท่ามกลางประชาชาติทั้งปวงเมื่อมนุษย์ได้รับการทำให้ครบบริบูรณ์แล้ว  ดังนั้นวันนี้ ในยามที่ผู้คนจำนวนมากจมลึกอยู่ในความท้อใจมานานแล้ว เรายังคงทำงานของเราต่อไป เราทำงานที่เราต้องทำเพื่อพิพากษาและตีสอนมนุษย์ต่อไป  ถึงแม้จะมีข้อเท็จจริงว่ามนุษย์เบื่อหน่ายกับสิ่งที่เราพูด และเขาไม่มีความพึงปรารถนาที่จะสนใจงานของเรา เราก็ยังคงดำเนินการตามหน้าที่ของเราอยู่ เนื่องจากจุดประสงค์ของงานของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง และแผนดั้งเดิมของเราจะไม่หยุดชะงัก  หน้าที่การพิพากษาของเราคือการทำให้มนุษย์สามารถนบนอบเรามากยิ่งขึ้น และหน้าที่ของการตีสอนของเราคือการช่วยให้มนุษย์สามารถรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  แม้ว่าสิ่งที่เราทำจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของการบริหารจัดการของเราก็ตาม แต่เราไม่เคยทำสิ่งใดที่ไร้ประโยชน์ต่อมนุษย์ เนื่องจากเราพึงปรารถนาที่จะทำให้ประชาชาติทั้งหมดนอกเหนือไปจากอิสราเอลนบนอบเฉกเช่นชาวอิสราเอล ทำให้พวกเขาเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ซึ่งเราคงจะมีหลักที่มั่นคงในแผ่นดินที่อยู่นอกอิสราเอล  นี่คือการบริหารจัดการของเรา มันคืองานที่เรากำลังทำให้สำเร็จลุล่วงท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย  แม้กระทั่งบัดนี้ ผู้คนจำนวนมากก็ยังคงไม่เข้าใจการบริหารจัดการของเรา เพราะว่าพวกเขาไม่มีความสนใจในเรื่องต่างๆ ดังกล่าว และใส่ใจเฉพาะอนาคตและบั้นปลายของตนเองเท่านั้น  ไม่ว่าเราจะกล่าวอะไรก็ตาม พวกเขายังคงไม่แยแสต่องานที่เราทำ แต่กลับมุ่งเน้นอยู่กับบั้นปลายในวันพรุ่งนี้ของตนเพียงอย่างเดียว  หากเรื่องต่างๆ ดำเนินไปอย่างนี้ งานของเราจะสามารถแผ่ขยายไปได้อย่างไร?  ข่าวประเสริฐของเราจะได้รับการเผยแผ่ไปทั่วทั้งโลกได้อย่างไร?  จงรู้ไว้เถิดว่าเมื่องานของเราเผยแผ่ออกไป เราจะทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไป และโจมตีพวกเจ้าเหมือนดังที่พระยาห์เวห์ได้โจมตีแต่ละเผ่าของอิสราเอล  ทั้งหมดนี้จะถูกทำลงไปเพื่อที่ข่าวประเสริฐของเราจะสามารถเผยแผ่ไปทั่วทั้งโลกได้ เพื่อที่งานของเราอาจแผ่ขยายไปยังประชาชาติทั้งหลาย เพื่อที่นามของเราจะได้ยิ่งใหญ่ทั้งในหมู่ผู้ใหญ่และบรรดาเด็กๆ และนามอันศักดิ์สิทธิ์ของเราจะได้เป็นที่ยกย่องในปากของผู้คนจากทุกเผ่าและทุกชาติ  มันเป็นไปเพื่อที่ว่า ในยุคสุดท้ายนี้ นามของเราจะได้ยิ่งใหญ่ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย เพื่อที่ประชาชาติทั้งหลายจะได้เห็นกิจการทั้งหลายของเราและพวกเขาจะเรียกเราว่าองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์เนื่องจากกิจการทั้งหลายของเรา และเพื่อที่วจนะของเราจะได้บังเกิดขึ้นในอีกไม่นาน  เราจะทำให้ผู้คนทั้งปวงรู้ว่าเราไม่ได้เป็นเพียงพระเจ้าของผู้คนแห่งอิสราเอลเท่านั้น แต่ยังเป็นพระเจ้าของประชาชาติในบรรดาชาติทั้งหมดอีกด้วย แม้แต่บรรดาชาติที่เราได้สาปแช่ง  เราจะปล่อยให้ผู้คนทั้งหมดได้เห็นว่าเราคือพระเจ้าของสิ่งมีชีวิตทรงสร้างทั้งปวง  นี่คืองานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา จุดประสงค์ของแผนงานของเราสำหรับยุคสุดท้าย และงานเดียวที่จะต้องทำให้ลุล่วงในยุคสุดท้าย

ในระหว่างยุคสุดท้ายเท่านั้นที่งานซึ่งเราได้บริหารจัดการมาเป็นเวลาหลายพันปีจะถูกเผยแก่มนุษย์อย่างครบถ้วนบริบูรณ์  ถึงตอนนี้เท่านั้นที่เราได้เปิดเผยความล้ำลึกของการบริหารจัดการของเราแก่มนุษย์แบบครบถ้วน และมนุษย์ได้เรียนรู้จุดประสงค์แห่งงานของเรา และยิ่งไปกว่านั้น ได้มาเข้าใจข้อล้ำลึกทั้งมวลของเรา  เราได้บอกมนุษย์แล้วถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นบั้นปลายของสิ่งที่เขาเป็นห่วง  เราได้เปิดเผยให้มนุษย์รู้ข้อล้ำลึกทั้งมวลของเราแล้ว ข้อล้ำลึกทั้งหลายที่ถูกเก็บซ่อนมานานกว่า 5,900 ปี  พระยาห์เวห์คือใคร?  พระเมสสิยาห์คือใคร?  พระเยซูคือใคร?  พวกเจ้าควรรู้ทั้งหมดนี้  งานของเราเปลี่ยนไปตามนามเหล่านี้  พวกเจ้าเข้าใจเรื่องนั้นหรือยัง?  นามอันศักดิ์สิทธิ์ของเราควรจะได้รับการกล่าวประกาศเช่นไร?  นามของเราควรจะได้รับการเผยแผ่ไปยังชาติใดชาติหนึ่งที่เรียกขานเราด้วยนามใดนามหนึ่งของเราอย่างไร?  งานของเรากำลังแผ่ขยายออกไป และเราจะเผยแผ่ความเต็มเปี่ยมแห่งงานนั้นไปยังบรรดาชาติทั้งหลายทั้งปวง  เนื่องจากงานของเราได้ถูกดำเนินการในตัวพวกเจ้า เราจะเฆี่ยนตีพวกเจ้าดังเช่นที่พระยาห์เวห์ได้ทรงเฆี่ยนตีบรรดาคนเลี้ยงแกะของวงศ์ดาวิดในอิสราเอล  ทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปท่ามกลางทุกชาติ  เนื่องจากในยุคสุดท้าย เราจะบดขยี้ประชาชาติทั้งปวงให้แหลกละเอียดและทำให้ผู้คนในชาติเหล่านั้นกระเจิดกระเจิงไปอีกครั้ง  เมื่อเรากลับมาอีกครั้ง ประเทศทั้งหมดจะได้ถูกแบ่งแยกเรียบร้อยแล้ว เลียบไปตามแนวเขตที่กำหนดด้วยเปลวเพลิงลุกไหม้ของเรา  ณ เวลานั้น เราจะปรากฏต่อมนุษยชาติอีกครั้งดังดวงตะวันอันแผดเผา และแสดงตัวเราเองอย่างเปิดเผยต่อพวกเขาในฉายาขององค์บริสุทธิ์ซึ่งพวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน เดินไปท่ามกลางบรรดาชาติที่หลากหลาย ดังที่ครั้งหนึ่งตัวเราพระยาห์เวห์เคยเดินไปท่ามกลางชนเผ่ายิวนานา  จากนั้นเป็นต้นไป เราจะนำทางมนุษยชาติในชีวิตของพวกเขาบนแผ่นดินโลกและพวกเขาจะได้เห็นอย่างแน่นอนว่าสง่าราศีของเราอยู่เหนือพวกเขา และเห็นว่าเสาเมฆในอากาศกำลังนำทางพวกเขาในชีวิต เนื่องจากเราจะปรากฏตัวของเราในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์  มนุษย์จะเห็นวันแห่งความชอบธรรมของเราและการปรากฏของสง่าราศีของเราอีกด้วย  นั่นคือเวลาที่เราจะครองราชย์ในฐานะกษัตริย์เหนือแผ่นดินโลกทั้งมวลและนำบุตรมากมายของเราไปสู่สง่าราศี  ผองมนุษย์จะน้อมคำนับทั่วทั้งแผ่นดินโลก และพลับพลาของเราจะถูกตั้งขึ้นอย่างมั่นคงท่ามกลางมนุษย์ ถูกสร้างขึ้นบนศิลาแห่งงานของเราวันนี้  ผู้คนล้วนจะรับใช้เราในวิหารเช่นกัน  แท่นบูชาที่ปกคลุมไปด้วยสิ่งโสโครกและน่าเกลียดชังนั้นจะถูกทุบจนแตกเป็นชิ้นๆ และถูกสร้างขึ้นใหม่โดยเรา  ลูกแกะแรกเกิดและลูกวัวแรกเกิดจะถูกกองรวมกันบนแท่นบูชาอันศักดิ์สิทธิ์นั้น  เราจะทลายวิหารของวันนี้และสร้างวิหารใหม่อย่างแน่นอน  วิหารซึ่งตั้งอยู่ขณะนี้ที่เต็มไปด้วยผู้คนซึ่งน่าชิงชังจะทรุดฮวบลง และวิหารที่เราสร้างจะเต็มไปด้วยบรรดาผู้รับใช้ที่จงรักภักดีต่อเรา  พวกเขาจะยืนขึ้นอีกครั้งและรับใช้เราเพื่อประโยชน์แก่สง่าราศีแห่งวิหารของเรา  แน่นอนว่าเจ้าจะได้เห็นวันที่เราได้รับสง่าราศีอันยิ่งใหญ่ รวมทั้งวันที่เราทลายวิหารนั้นและสร้างวิหารใหม่ขึ้น  แน่นอนว่าพวกเจ้ายังจะได้เห็นวันซึ่งพลับพลาของเราเข้ามาอยู่ท่ามกลางมนุษย์อีกด้วย  เราจะนำพลับพลาของเรามาไว้ท่ามกลางมนุษย์ในลักษณะเดียวกับที่เราทุบวิหารนั้น แบบเดียวกับที่พวกเขามองเห็นการลงมาของเรา  หลังจากที่เราบดขยี้แต่ละประเทศแล้ว เราจะรวบรวมประเทศเหล่านั้นเข้าด้วยกันใหม่ ตั้งแต่นั้นไป เราจะสร้างวิหารของเราและตั้งแท่นบูชาของเรา ดังนั้น ทุกคนจึงสามารถถวายเครื่องบูชาแด่เรา รับใช้เราในวิหารของเรา และอุทิศความจงรักภักดีของตนต่องานของเราในชาติของผู้ไม่เชื่อทั้งหลาย  พวกเขาจะเป็นอย่างเช่นคนอิสราเอลในปัจจุบันนี้ แต่งกายด้วยเสื้อคลุมอย่างปุโรหิตและมงกุฎอันแจ่มจรัสด้วยสง่าราศีของเราพระยาห์เวห์ซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา และบารมีของเราที่สถิตอยู่กับพวกเขาในท้องฟ้าเบื้องบน  งานของเราในหมู่ประชาชาติที่ไม่เชื่อก็จะเป็นเช่นเดียวกัน  งานของเราในอิสราเอลเคยเป็นเช่นไร งานของเราในประชาชาติทั้งหลายที่ไม่เชื่อก็จะเป็นเช่นนั้น เพราะเราจะเผยแผ่งานของเราในอิสราเอลและแผ่ขยายงานนั้นไปยังประชาชาติของผู้ไม่เชื่อ

บัดนี้เป็นเวลาที่วิญญาณของเราปฏิบัติงานอันยิ่งใหญ่ และเป็นเวลาที่เราเริ่มต้นงานของเราท่ามกลางชาติอื่นๆ  ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเวลาที่เราจำแนกสิ่งมีชีวิตทรงสร้างทั้งปวง แยกแต่ละสิ่งไปตามหมวดหมู่ที่สอดคล้องกัน เพื่อให้งานของเราดำเนินไปอย่างรวดเร็วขึ้นและสามารถสัมฤทธิ์ผลลัพธ์ได้มากขึ้น  ดังนั้นแล้ว สิ่งที่เราขอจากพวกเจ้าก็ยังคงเป็นการ ให้เจ้าถวายตัวตนทั้งหมดของเจ้าแก่งานทั้งปวงของเรา ยิ่งไปกว่านั้น ให้เจ้าสามารถแยกแยะและมองเห็นงานทั้งหมดที่เราทำในตัวเจ้าอย่างชัดเจน และทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของเจ้าให้กับงานของเราเพื่อให้งานนั้นสามารถสัมฤทธิ์ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม  นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องเข้าใจ  จงหยุดต่อสู้กันเอง มองหาทางออก หรือเสาะหาความสะดวกสบายให้กับเนื้อหนังของเจ้า เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในงานของเรา และทำให้อนาคตอันแสนวิเศษของเจ้าล่าช้าออกไป  แทนที่จะคุ้มครองเจ้า การทำเช่นนั้นจะนำการทำลายล้างมาสู่เจ้า  นี่จะไม่ใช่ความโง่เขลาของเจ้าหรอกหรือ?  สิ่งที่เจ้าสุขสำราญอย่างละโมบในวันนี้คือสิ่งที่กำลังทำลายอนาคตของเจ้า ในขณะที่ความเจ็บปวดที่เจ้าทนทุกข์ในวันนี้คือสิ่งที่กำลังคุ้มครองเจ้า  เจ้าจะต้องตระหนักรู้สิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของการทดลองทั้งหลายซึ่งยากที่เจ้าจะหลุดพ้นออกได้ และเพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้หลงเข้าไปในหมอกหนาจนไม่สามารถพบเจอดวงอาทิตย์  เมื่อหมอกทึบจางลง เจ้าจะพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางการพิพากษาในวันอันยิ่งใหญ่  เมื่อถึงเวลานั้น วันของเราจะเข้ามาใกล้มวลมนุษย์ เจ้าจะหลีกหนีการพิพากษาของเราได้อย่างไร?  เจ้าจะสู้ทนความร้อนที่แผดเผาของแสงอาทิตย์ได้อย่างไร?  เมื่อเราให้ความไพบูลย์แก่มนุษย์ เขาไม่ได้ทะนุถนอมมันไว้ในอกของเขา แต่กลับขว้างมันทิ้งไปในที่ที่ไม่มีใครจะสังเกตเห็น  เมื่อวันของเราลงมายังมนุษย์ เขาจะไม่สามารถค้นพบความไพบูลย์ของเรา หรือพบวจนะแห่งความจริงที่ขมขื่นยิ่งกว่าที่เราได้กล่าวแก่เขานานมาแล้วได้อีกต่อไป  เขาจะร้องไห้และคร่ำครวญ เพราะว่าเขาได้สูญเสียความเจิดจ้าของความสว่างไปและได้ตกลงสู่ความมืด  สิ่งที่พวกเจ้าเห็นในวันนี้เป็นเพียงดาบคมกริบจากปากของเราเท่านั้น  เจ้ายังไม่ได้เห็นไม้เท้าในมือของเราหรือเปลวไฟซึ่งเราใช้เผามนุษย์ และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเจ้าจึงยังคงหยิ่งผยองและไม่ยับยั้งชั่งใจต่อหน้าเรา  นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเจ้าจึงยังคงต่อสู้กับเราในบ้านของเรา โต้แย้งด้วยลิ้นมนุษย์ของเจ้าในสิ่งที่เราได้กล่าวด้วยปากของเรา  มนุษย์ไม่ครั่นคร้ามต่อเรา และอย่างไรก็ตามเขาก็แสดงความเป็นปรปักษ์กับเราอย่างต่อเนื่องแม้กระทั่งวันนี้ เขาก็ยังคงไม่กลัวโดยสิ้นเชิง  พวกเจ้ามีลิ้นและฟันแห่งความอธรรมในปากของพวกเจ้า  คำพูดและความประพฤติทั้งหลายของพวกเจ้าก็เหมือนคำพูดและความประพฤติของงูที่ได้ล่อลวงเอวาไปสู่บาป  พวกเจ้าเรียกร้องการตอบแทนชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน จากกันและกัน และพวกเจ้าดิ้นรนต่อสู้ต่อหน้าเราเพื่อแย่งชิงตำแหน่ง ชื่อเสียง และผลกำไรสำหรับพวกเจ้าเอง ทว่าพวกเจ้ากลับไม่รู้ว่าเรากำลังเฝ้าดูคำพูดและความประพฤติทั้งหลายของพวกเจ้าอยู่อย่างลับๆ  เราได้ฟังก้นบึ้งหัวใจของพวกเจ้าแล้ว ก่อนที่พวกเจ้าจะได้มาอยู่ต่อหน้าเราเสียด้วยซ้ำ  มนุษย์ปรารถนาที่จะหลีกหนีให้พ้นมือของเราและหลบหลีกการสังเกตของสายตาของเราเสมอมา แต่เราไม่เคยเลี่ยงไปจากคำพูดหรือความประพฤติทั้งหลายของเขาเลย  แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เรากลับยอมให้คำพูดและความประพฤติเหล่านั้นเข้าสู่สายตาของเราอย่างมีจุดประสงค์ ซึ่งเราอาจตีสอนความไม่ชอบธรรมของมนุษย์และดำเนินการพิพากษาต่อความเป็นกบฏของเขา  ดังนั้น คำพูดและความประพฤติที่เป็นความลับทั้งหลายของมนุษย์จึงยังคงอยู่ต่อหน้าบัลลังก์พิพากษาของเราเสมอ และการพิพากษาของเราก็ไม่เคยจากมนุษย์ไป เพราะความเป็นกบฏของเขานั้นมากเกินไป  งานของเราคือการเผาและชำระล้างคำพูดและพฤติกรรมทั้งหมดของมนุษย์ที่ถูกเอ่ยและกระทำลงไปต่อหน้าวิญญาณของเรา  ดังนี้[ก] เมื่อเราออกไปจากแผ่นดินโลก ผู้คนจะยังคงรักษาความจงรักภักดีของตนต่อเราไว้ และจะยังคงรับใช้เราเฉกเช่นที่บรรดาผู้รับใช้ที่บริสุทธิ์ของเราทำในงานของเรา ซึ่งเปิดโอกาสให้งานของเราบนแผ่นดินโลกดำเนินต่อไปจนถึงวันที่งานนั้นครบบริบูรณ์

เชิงอรรถ:

ก. ข้อความต้นฉบับไม่มีวลี “ดังนี้”

ก่อนหน้า: พระผู้ช่วยให้รอดได้เสด็จกลับมาบน “เมฆขาว” แล้ว

ถัดไป: พระราชกิจในยุคธรรมบัญญัติ

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 6) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 7) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 8) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 9) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger