121 เจ้าควรเข้าใจเจตนารมณ์ของพระเจ้า
I
สิ่งที่พวกเจ้าได้รับเป็นมรดกตกทอดในวันนี้เหนือกว่าที่อัครทูตและผู้เผยพระวจนะทั้งหลายตลอดหลายยุคหลายสมัยเคยได้รับ และยิ่งใหญ่กว่าของโมเสสหรือเปโตรด้วยซ้ำ พรจากพระเจ้าไม่สามารถได้มาภายในวันเดียวหรือสองวัน แต่ต้องหามาได้โดยผ่านทางราคามากมาย กล่าวคือ พวกเจ้าต้องครองความรักที่ก้าวผ่านกระบวนการถลุงมาแล้ว พวกเจ้าต้องครองความเชื่ออันยิ่งใหญ่ และพวกเจ้าต้องมีความจริงมากมายที่พระเจ้าทรงพึงประสงค์ให้พวกเจ้ามี ยิ่งไปกว่านั้น พวกเจ้าต้องหันเข้าหาความยุติธรรมโดยไม่ขลาดกลัวหรือคอยแต่เลี่ยงหนี และต้องมีหัวใจที่รักพระเจ้าซึ่งเสมอต้นเสมอปลายไปจนตาย เจ้าต้องมีความแน่วแน่ และต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับอุปนิสัยในการดำเนินชีวิตของเจ้า ความเสื่อมทรามของพวกเจ้าจะต้องได้รับการบำบัด พวกเจ้าต้องยอมรับการจัดวางเรียบเรียงของพระเจ้าโดยปราศจากการพร่ำบ่น และพวกเจ้าต้องนบนอบไปจนตายด้วยซ้ำ นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าควรต้องบรรลุ นี่คือจุดหมายสุดท้ายแห่งพระราชกิจของพระเจ้า และเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงขอจากผู้คนกลุ่มนี้
II
ในเมื่อพระองค์ประทานแก่เจ้า แน่นอนว่าพระองค์ย่อมจะทรงขอบางสิ่งจากเจ้าเช่นกัน และย่อมจะทรงมีสิ่งที่ประสงค์จากเจ้าอย่างเหมาะควรแน่นอน นี่แสดงให้เห็นว่าเหตุใดพระเจ้าจึงทรงพระราชกิจที่ตั้งมาตรฐานไว้สูงและมีข้อกำหนดอันเคร่งครัดครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเจ้าจึงควรเปี่ยมด้วยความเชื่อในพระเจ้า กล่าวโดยย่อได้ว่า พระราชกิจทุกอย่างของพระเจ้าล้วนทำไปเพื่อพวกเจ้า เพื่อที่พวกเจ้าอาจกลายเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การรับมรดกของพระองค์ แทนที่จะกล่าวว่านี่เป็นไปเพื่อพระสิริของพระเจ้าเอง ควรกล่าวว่านี่เป็นไปเพื่อความรอดของพวกเจ้าจะดีกว่า และเพื่อสร้างความเพียบพร้อมให้แก่คนกลุ่มนี้ ผู้ซึ่งได้รับความทุกข์ร้อนอย่างล้ำลึกในแผ่นดินที่ไม่สะอาดแห่งนี้ พวกเจ้าควรเข้าใจเจตนารมณ์ของพระเจ้า เราเตือนสติผู้คนมากมายที่ไม่รู้ความซึ่งไม่มีความรู้ความเข้าใจเชิงลึกหรือเหตุผลใดเลยว่า จงอย่าทดสอบพระเจ้า และจงอย่าต้านทานอีกต่อไป
III
พระเจ้าได้ทรงก้าวผ่านความทุกข์ที่ไม่เคยมีมนุษย์คนใดสู้ทนมาก่อนมาแล้ว และเมื่อนานมาแล้วก็ได้ทรงสู้ทนความอัปยศอดสูแทนมนุษย์อย่างใหญ่หลวงกว่าด้วยซ้ำ มีสิ่งใดที่เจ้าไม่สามารถปล่อยมือได้อีกหรือ? มีสิ่งใดสำคัญกว่าเจตนารมณ์ของพระเจ้าได้หรือ? มีสิ่งใดสูงส่งกว่าความรักของพระเจ้าได้หรือ? การที่พระเจ้าดำเนินพระราชกิจของพระองค์ในแผ่นดินที่ไม่สะอาดแห่งนี้ก็ยากพออยู่แล้ว นอกจากนี้ หากมนุษย์ยังจงใจฝ่าฝืนทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ พระราชกิจของพระเจ้าย่อมต้องยืดเยื้อออกไป พระเจ้าไม่ต้องทรงผูกติดอยู่กับกาลเวลา พระราชกิจของพระองค์และพระสิริของพระองค์สำคัญอันดับหนึ่ง เพราะฉะนั้น พระองค์ย่อมจะทรงจ่ายราคาทุกอย่างเพื่อพระราชกิจของพระองค์ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด นี่คือพระอุปนิสัยของพระเจ้า กล่าวคือ พระองค์จะไม่ทรงหยุดพักจนกว่าพระราชกิจของพระองค์จะเสร็จสิ้น
จาก พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, พระราชกิจของพระเจ้าเรียบง่ายดังที่มนุษย์จินตนาการหรือไม่?