669 พระผู้สร้างทรงควบคุมชีวิตและความตายของมนุษย์
I
หากการเกิดของคนเราถูกลิขิตโดยชีวิตก่อนหน้าของตน เช่นนั้นแล้วความตายของคนเราก็แสดงถึงบทอวสานของชะตาลิขิตนั้น หากการเกิดของคนเราคือจุดเริ่มต้นภารกิจของคนเราในชีวิตนี้ เช่นนั้นแล้ว ความตายของคนเราก็แสดงถึงบทอวสานของภารกิจนั้น เนื่องจากพระผู้สร้างได้ทรงกำหนดชุดรูปการณ์แวดล้อมที่ตายตัวสำหรับการกำเนิดของแต่ละคนเอาไว้แล้ว แน่นอนว่า พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมชุดรูปการณ์แวดล้อมที่ตายตัวสำหรับความตายของพวกเขาไว้แล้วเช่นกัน พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีใครที่เกิดมาโดยบังเอิญ ไม่มีใครตายอย่างกะทันหัน ทั้งการเกิดและความตายเกี่ยวข้องกับชีวิตก่อนหน้าและชีวิตปัจจุบันของคนเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
II
รูปการณ์แวดล้อมของการเกิดและรูปการณ์แวดล้อมของความตายของคนเราเป็นอย่างไรนั้น สัมพันธ์กับการกำหนดไว้ล่วงหน้าของพระผู้สร้าง นี่คือชะตาลิขิตของคนคนหนึ่ง เป็นชะตากรรมของคนคนหนึ่ง ทุกคนล้วนต้องการการกำเนิดที่เด่นดัง ชีวิตที่เจิดจรัส และความตายที่มีเกียรติ แต่ไม่มีใครสามารถอยู่เหนือชะตาลิขิตของตนเองได้ ไม่มีใครสามารถหลบหนีอธิปไตยของพระผู้สร้างได้ นี่เป็นชะตากรรมของมนุษย์ ผู้คนสามารถวางแผนสำหรับอนาคตของพวกเขาได้ทุกรูปแบบ แต่ไม่มีใครสามารถวางแผนว่าตนจะเกิดมาอย่างไรหรือจากโลกนี้ไปอย่างไรและเมื่อใด
III
แม้ว่าผู้คนต่างทำดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงและต้านทานการมาถึงของความตาย แต่ความตายก็ยังคงคืบคลานเข้ามาใกล้อย่างเงียบกริบโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวอยู่ดี ไม่มีใครรู้ว่าตนจะตายเมื่อใดหรือตายอย่างไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน เห็นได้ชัดว่า ผู้กุมอำนาจสูงสุดเหนือชีวิตและความตายไม่ใช่มนุษย์ และไม่ใช่สิ่งมีชีวิตใดในโลกธรรมชาติ แต่เป็นพระผู้สร้างผู้ทรงสิทธิอำนาจอันเป็นเอกลักษณ์ ชีวิตและความตายของมวลมนุษย์ไม่ใช่ผลลัพธ์ของกฎบางอย่างแห่งโลกธรรมชาติ แต่เป็นผลลัพธ์ของอธิปไตยแห่งสิทธิอำนาจของพระผู้สร้าง
จาก พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 3