162 การวิ่งไปหาเส้นทางแห่งความสว่าง
1 จงมองดูความชั่วร้ายนานัปการของโลก ซาตานได้ทำให้มวลมนุษย์เสื่อมทรามอย่างโหดร้ายยิ่งนัก มวลมนุษย์จะสามารถพบเส้นทางแห่งความสว่างในชีวิตได้อย่างไร โดยคลำหาและต่อสู้ดิ้นรนในความเจ็บปวดและความมืดมิด? ช่างโชคดีที่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงแสดงความจริง ฉันได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าและได้กลับมาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ฉันเป็นพยานต่อการทรงปรากฏและพระราชกิจของพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย ทว่าฉันทนทุกข์กับการไล่ล่าและการข่มเหงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน บ่อยครั้งที่ฉันอธิษฐานตลอดกลางคืนที่มืดมิด และพระวจนะของพระเจ้ามอบความเชื่อและเรี่ยวแรงกำลังให้ฉัน เพื่อที่จะช่วยมวลมนุษย์ให้รอดนั้น พระเจ้าทรงสู้ทนการเหยียดหยาม การสามารถที่จะทนทุกข์กับพระคริสต์ได้นั้นเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่นัก ฉันได้รับพรที่ได้ยินถ้อยดำรัสของพระเจ้า และหากฉันไม่สามารถได้รับความจริง ชีวิตนี้ก็คงจะไม่ใช่สิ่งใดเลยนอกจากความเสียใจ ไม่สำคัญว่าอันตรายและความลำบากยากเย็นที่รออยู่ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ฉันจะล้มเลิกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อติดตามพระคริสต์ไปจนสุดปลายทางของถนน
2 ในห้องขังของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มืดและน่ากลัว ในความทรมานนั้นฉันวนเวียนอยู่ใกล้ระหว่างความเป็นกับความตาย พระวจนะของพระเจ้ามอบความชูใจและการหนุนใจให้ฉันในความสิ้นหวัง เมื่อรู้สึกถึงความรักของพระเจ้า ฉันร้องไห้เป็นสายน้ำ ฉันมองเห็นว่าพระเจ้าเอาพระทัยใส่และทรงปกป้องคุ้มครองฉันตลอดเวลา และฉันรู้จักสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพของพระวจนะของพระองค์ คุกของมารเป็นเหมือนนรก ฉันอยู่ในความเจ็บปวดและเข้าใกล้พระเจ้ามากยิ่งขึ้น ในที่สุดฉันก็ได้เห็นโฉมหน้าเยี่ยงซาตานของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยผ่านทางการข่มเหง ความทุกข์ลำบาก และบททดสอบ ราชาแห่งมารกำลังมีอำนาจ—มันโกหกและฉ้อโกง โดยทดลองผู้คนไปสู่ความต่ำช้า พระคริสต์แห่งยุคสุดท้ายได้ทรงปรากฏและทรงพระราชกิจของพระองค์แล้ว โดยนำพาความสว่างและความจริงมาให้มวลมนุษย์ บรรดาผู้ที่มีหัวใจและจิตวิญญาณต้องเลือกความจริงและความชอบธรรม ต่อให้นั่นหมายถึงการล้มเลิกชีวิตของพวกเขาก็ตาม ฉันวิ่งไปหาเส้นทางแห่งความสว่างในชีวิต โดยการที่เชื่ออย่างมั่นคงว่าพระคริสต์ทรงเป็นความจริง หนทาง และชีวิต