313 ไม่มีผู้ใดรู้จักพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์
1 มนุษย์ไม่เคยระลึกถึงเราได้ในความสว่าง แต่เคยมองเห็นเราแค่ในโลกแห่งความมืดเท่านั้น พวกเจ้าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้ในวันนี้หรอกหรือ? จุดสูงสุดในการอาละวาดของพญานาคใหญ่สีแดงคือจุดที่เราเข้าครองเนื้อหนังเพื่อทำงานของเราอย่างเป็นทางการ เมื่อพญานาคใหญ่สีแดงเปิดเผยรูปสัณฐานที่แท้จริงของมันออกมาเป็นครั้งแรก เราได้เป็นพยานต่อนามของเรา เมื่อเราเดินไปมาบนถนนของมวลมนุษย์ ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดสะดุ้งตื่นตัว และดังนั้นจึงไม่มีใครรู้เมื่อเราจุติเป็นมนุษย์มาในโลกของมนุษย์ แต่เมื่อเราเริ่มต้นทำงานของเราในเนื้อหนังที่เราจุติมาเป็นมนุษย์ มนุษยชาติกลับสะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝันของพวกเขาด้วยเสียงอันกึกก้องของเรา และจากชั่วขณะนี้นี่เองพวกเขาจึงเริ่มต้นชีวิตของพวกเขาภายใต้การนำของเรา
2 มนุษย์ไม่ใช่แค่ไม่รู้จักเราในเนื้อหนังของเราเท่านั้น แต่ที่มากกว่านั้น เขายังได้ล้มเหลวที่จะเข้าใจตัวของเขาเองที่พักอาศัยในกายฝ่ายเนื้อหนังด้วย มนุษย์หลอกลวงเรามาเป็นเวลาหลายปี ปฏิบัติต่อเราเหมือนเป็นแขกจากภายนอก พวกเขาปิดให้เราอยู่นอก “ประตูบ้านของพวกเขา” มาหลายต่อหลายครั้ง พวกเขายืนต่อหน้าเราแต่ไม่ใส่ใจเรามาหลายต่อหลายครั้ง พวกเขาประกาศตัดขาดกับเราท่ามกลางมนุษย์คนอื่นๆ มาหลายต่อหลายครั้ง พวกเขาปฏิเสธเราต่อหน้ามารมาหลายต่อหลายครั้ง และพวกเขาโจมตีเราด้วยปากที่โต้เถียงของพวกเขามาหลายต่อหลายครั้ง กระนั้นเรายังไม่จดจำความอ่อนแอของมนุษย์ อีกทั้งเรายังไม่ขอกระทำการตอบโต้กลับคืนเพราะความไม่เชื่อฟังของเขา ทั้งหมดที่เราได้ทำไปคือการใช้ยารักษาโรคภัยไข้เจ็บของเขา เพื่อรักษาโรคที่รักษาไม่หายของเขา และด้วยการนั้น จึงฟื้นฟูเขาให้กลับมามีสุขภาพ เพื่อที่เขาอาจมารู้จักเราได้
ดัดแปลงจาก พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, พระวจนะของพระเจ้าถึงทั้งจักรวาล บทที่ 12