297 มวลมนุษย์ได้ยุติการเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องประสงค์
1 ต้องใช้เวลาหลายหมื่นปีของประวัติศาสตร์เพื่อให้มวลมนุษย์ไปถึงที่ที่ดำรงอยู่ในวันนี้ กระนั้นมวลมนุษย์ที่เราได้สร้างขึ้นในปฐมกาลก็ได้จมดิ่งสู่ความเสื่อมโทรมมานานตั้งแต่นั้น สภาวะความเป็นมนุษย์ไม่ใช่สภาวะความเป็นมนุษย์ที่เราอยากได้อีกต่อไป และด้วยเหตุนี้ ในสายตาของเรา ผู้คนไม่คู่ควรกับชื่อของมนุษยชาติอีกต่อไป แทนที่จะเป็นเช่นนั้น พวกเขากลับเป็นคนชั้นต่ำของมนุษยชาติซึ่งซาตานได้จับเป็นเชลย เป็นซากศพเดินได้ที่เน่าเปื่อยซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของซาตาน และเป็นสิ่งที่ซาตานสวมใส่ให้กับตัวมัน
2 ผู้คนไม่มีความไว้วางใจในการดำรงอยู่ของเราอีกต่อไป อีกทั้งพวกเขาไม่ต้อนรับการมาของเรา มวลมนุษย์เพียงแค่ตอบสนองต่อคำร้องขอต่างๆ ของเราอย่างไม่เต็มใจ ยอมตามคำขอเหล่านั้นอย่างเป็นการชั่วคราว และไม่แบ่งปันความชื่นบานยินดีและความโศกเศร้าต่างๆ ของชีวิตกับเราอย่างจริงใจ เนื่องจากผู้คนเห็นว่าเรานั้นไม่อาจจะหยั่งรู้ได้ พวกเขาจึงมอบรอยยิ้มที่ไม่เต็มใจให้เรา ท่าทีของพวกเขาเป็นแบบที่พยายามเริ่มมีสัมพันธภาพกับผู้ที่มีอำนาจ เพราะผู้คนไม่มีความรู้เรื่องงานของเรา และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจตจำนงของเรา ณ ปัจจุบัน
3 เราจะซื่อสัตย์กับพวกเจ้า กล่าวคือ เมื่อวันนั้นมาถึง ความทุกข์ของใครก็ตามที่นมัสการเราจะแบกรับง่ายกว่าของพวกเจ้า อันที่จริงแล้ว ระดับของความเชื่อในเราของเจ้าไม่เกินระดับของความเชื่อของโยบ—แม้แต่ความเชื่อของพวกฟาริสีชาวยิวยังเหนือกว่าความเชื่อของพวกเจ้า—และดังนั้น หากวันแห่งไฟลงมา ความทุกข์ของพวกเจ้าจะรุนแรงกว่าความทุกข์ของพวกฟาริสีเมื่อถูกพระเยซูทรงว่ากล่าว รุนแรงกว่าความทุกข์ของผู้นำ 250 คนที่ได้ต่อต้านโมเสส และรุนแรงกว่าความทุกข์ของโสโดมภายใต้เปลวไฟที่แผดเผาของการทำลายล้างของมัน
ดัดแปลงจาก พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, การเป็นมนุษย์ที่แท้จริงหมายถึงอะไร