186 มนุษย์สามารถเข้าใจพระเจ้าได้ดีขึ้นผ่านการบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเจ้า
Verse 1
ภาพบรรดาเทพที่คลุมเครือทั้งหลาย ซึ่งอยู่ในใจผู้คน
ไม่อาจถูกขับไล่หรือขจัด
ได้ด้วยเพียงแค่พระวจนะ
ในท้ายที่สุด การกระทำเช่นนี้
ยังคงเป็นเรื่องที่ยากหนักหนา
ที่จะขจัดขับไล่สิ่งที่หยั่งรากลึกลงไปในใจคน
มีเพียงพระเจ้าเที่ยงแท้และพระฉายา
สามารถแทนที่สิ่งคลุมเครือเช่นนี้
เพื่อให้คนรู้จักสิ่งเหล่านี้ได้
นี่เป็นวิธีที่ทำให้สัมฤทธิ์ผล
คนได้เห็นว่าพระเจ้าที่ตามหา
ที่ผ่านมาคลุมเครือ ไม่เป็นรูปธรรม
มันไม่ใช่การนำของพระวิญญาณ
ที่จะทำให้เกิดผลเช่นนี้ได้
มันไม่สัมฤทธิ์ผล ด้วยคำสอนของมนุษย์
แต่ด้วยการบังเกิด เป็นมนุษย์ของพระเจ้า
Chorus
มนุษย์สามารถรู้จักพระเจ้า และมองเห็นพระองค์
ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก็ต่อเมื่อพระเจ้า
ทรงทำงาน อยู่ท่ามกลางมนุษย์ด้วยการ
เปิดเผยตัวตน และพระฉายา
มันไม่สามารถจะสำเร็จ โดยมนุษย์ที่มีเนื้อหนัง
หรือโดยพระวิญญาณของพระเจ้าเช่นกัน
Verse 2
มโนคติของคนถูกวางแผ่ออก
เมื่อพระเจ้าซึ่งบังเกิดเป็นมนุษย์ทรงทำงาน
ความปกติและเป็นจริงของพระองค์
ตรงข้ามกับเหล่าเทพที่ช่างคลุมเครือ
หากไม่เปรียบกับพระเจ้าในร่างเนื้อหนัง
มโนคติคนคงไม่ถูกเปิดเผย
ถ้าไม่มีความเป็นจริงมาเทียบเคียง
สิ่งคลุมเครือทั้งหลายก็คงไม่ถูกเผยออกมา
มีเพียงพระเจ้าองค์เดียวที่สามารถทำราชกิจ
ไม่มีใครสามารถทำแทนในนามของพระองค์
Chorus
มนุษย์สามารถรู้จักพระเจ้า และมองเห็นพระองค์
ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก็ต่อเมื่อพระเจ้า
ทรงทำงาน อยู่ท่ามกลางมนุษย์ด้วยการ
เปิดเผยตัวตน และพระฉายา
มันไม่สามารถจะสำเร็จ โดยมนุษย์ที่มีเนื้อหนัง
หรือโดยพระวิญญาณของพระเจ้าเช่นกัน
Verse 3
ไม่มีใครสามารถใช้พระคำ เพื่อทำพระราชกิจเช่นนี้ได้
ทำพระราชกิจให้ชัดเจน
ไม่สำคัญว่าถ้อยคำคนมีมากเพียงใด
เขาไม่อาจทำให้เห็นชัดถึงความเป็นจริง
และความเป็นปกติของพระเจ้าได้
Chorus
มนุษย์สามารถรู้จักพระเจ้า และมองเห็นพระองค์
ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก็ต่อเมื่อพระเจ้า
ทรงทำงาน อยู่ท่ามกลางมนุษย์ด้วยการ
เปิดเผยตัวตน และพระฉายา
มันไม่สามารถจะสำเร็จ โดยมนุษย์ที่มีเนื้อหนัง
หรือโดยพระวิญญาณของพระเจ้าเช่นกัน
ดัดแปลงจาก พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, มวลมนุษย์ที่เสื่อมทรามจำเป็นต้องมีความรอดจากพระเจ้าซึ่งทรงปรากฏในรูปมนุษย์มากกว่า