11 พวกเราได้ถูกรับขึ้นไปอยู่เบื้องหน้าพระบัลลังก์แล้ว
1 พวกเราถูกรับขึ้นไปอยู่เบื้องหน้าพระบัลลังก์ ซึ่งก็เป็นไปเนื่องจากพระคุณและความปรานีของพระเจ้าทั้งสิ้น ความรักแด่พระเจ้าเกิดขึ้นในหัวใจของเหล่าธรรมมิกชนจำนวนนับหมื่นแสนผู้ไม่หวั่นไหวในการเดินทางไกลทางจิตวิญญาณของตน พวกเขายึดแน่นอยู่กับการเชื่อของตนว่า พระเจ้าเที่ยงแท้หนึ่งเดียวได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเศียรแห่งจักรวาลผู้ทรงบัญชาทุกสรรพสิ่ง การนี้ได้รับการยืนยันโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ มันคงมั่นไม่ขยับเคลื่อนพอกันกับขุนเขา! และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง! โอ้ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์! วันนี้พระองค์นั่นเองคือผู้ซึ่งได้ทรงเปิดดวงตาฝ่ายจิตวิญญาณของพวกเรา อันเป็นการเปิดโอกาสให้คนตาบอดมองเห็น ให้คนง่อยเดินได้ และให้คนเป็นโรคเรื้อนรักษาหายได้ พระองค์นั่นเองคือผู้ซึ่งได้ทรงเปิดช่องหน้าต่างสู่สวรรค์ เปิดโอกาสให้พวกเราได้ล่วงรู้ความล้ำลึกของอาณาจักรฝ่ายจิตวิญญาณ การได้รับการแทรกซึมโดยพระวจนะอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และได้รับการช่วยให้รอดจากสภาวะความเป็นมนุษย์ของพวกเราซึ่งได้ถูกซาตานทำให้เสื่อมทราม—เช่นนั้นคือพระราชกิจอันยิ่งใหญ่อย่างมิอาจประมาณได้ของพระองค์ และคือความปรานีอันยิ่งใหญ่อย่างมิอาจประมาณได้ของพระองค์ พวกเราคือเหล่าพยานของพระองค์!
2 นานแล้วที่พระองค์ได้ทรงซ่อนเร้นอยู่อย่างถ่อมพระทัยและเงียบกริบ พระองค์ได้ทรงก้าวผ่านการคืนพระชนม์จากความตาย ความทุกข์แห่งการตรึงกางเขน ความชื่นบานยินดีกับความโศกเศร้าทั้งหลายของชีวิตมนุษย์ และการข่มเหงกับความทุกข์ยาก พระองค์ทรงได้รับประสบการณ์ และลิ้มรสชาติความเจ็บปวดของพิภพมนุษย์ และพระองค์ได้ทรงถูกทอดทิ้งโดยยุคนั้น พระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์คือพระเจ้าพระองค์เอง พระองค์ได้ทรงช่วยพวกเราให้รอดจากกองมูล ทรงค้ำจุนพวกเราด้วยพระหัตถ์ข้างขวาของพระองค์ และทรงให้พระคุณของพระองค์แก่พวกเราอย่างไม่อั้นเพื่อประโยชน์แห่งน้ำพระทัยของพระเจ้า พระองค์ได้ทรงหลอมรวมพระชนม์ชีพของพระองค์เข้ามาเป็นพวกเราโดยทุ่มเทความเจ็บปวดทั้งหมดที่มี ราคาที่พระองค์ได้ทรงจ่ายด้วยพระโลหิต พระเสโท และน้ำพระเนตรของพระองค์นั้นได้ตกผลึกไปบนเหล่าวิสุทธิชน พวกเราคือผลผลิตของความพยายามอันอุตสาหะของพระองค์ พวกเราคือราคาที่พระองค์ได้ทรงจ่ายไป โอ้ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์! เพราะความรักมั่นคงกับความปรานีของพระองค์ ความชอบธรรมกับพระบารมีของพระองค์ ความบริสุทธิ์และความถ่อมพระทัยของพระองค์นั่นเองที่ผู้คนทั้งมวลจะกราบไหว้เฉพาะพระพักตร์พระองค์ และนมัสการพระองค์จนชั่วนิรันดร
3 วันนี้ พระองค์ได้ทรงทำให้คริสตจักรทั้งมวลครบบริบูรณ์—คริสตจักรแห่งฟีลาเดลเฟีย—และเช่นนั้นจึงเป็นการทำให้แผนการบริหารจัดการ 6,000 ปีของพระองค์ลุล่วงไป เหล่าธรรมิกชนสามารถนบนอบตนเองเฉพาะพระพักตร์พระองค์ได้อย่างถ่อมใจ ได้รับการเชื่อมโยงในจิตวิญญาณ และกำลังติดตามไปด้วยความรัก ร่วมกันไปยังแหล่งกำเนิดแห่งน้ำพุ น้ำแห่งชีวิตซึ่งมีชีวิตนั้นดำเนินไปโดยไม่หยุดยั้ง ทำการซักล้างและชำระล้างโคลนตมและน้ำโสโครกทั้งหมดในคริสตจักรออกไป และชำระพระวิหารของพระองค์ให้บริสุทธิ์อีกครั้ง พวกเราปล่อยให้พระเจ้าทรงครองราชย์สูงสุดในจิตวิญญาณของพวกเรา เดินไปกับพระองค์ และดังนั้นจึงได้รับอุตรภาพ อันเป็นการเอาชนะโลก และจิตวิญญาณของพวกเราก็ย่อมโบยบินอย่างเป็นอิสระ และบรรลุการปลดปล่อย นี่คือบทอวสานเมื่อพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงกลายเป็นองค์กษัตริย์ จงร่วมมือกับพระเจ้าอย่างแข็งขัน ประสานงานในการปรนนิบัติและกลายเป็นหนึ่งเดียว ทำให้เจตนารมณ์ทั้งหลายของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ลุล่วงไป เร่งรุดที่จะกลายเป็นกายจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ เหยียบย่ำซาตาน และทำให้ชะตากรรมซาตานมาถึงบทอวสาน
ดัดแปลงจาก “บทที่ 2” ของ ถ้อยดำรัสของพระคริสต์ในปฐมกาล ใน พระวจนะทรงปรากฏเป็นมนุษย์