102 พระราชกิจสามช่วงระยะของพระเจ้าได้ช่วยมนุษย์ให้รอดอย่างที่สุด

1 ระยะเวลา 6,000 ปีของพระราชกิจแห่งการบริหารจัดการของพระเจ้าถูกแบ่งออกเป็นสามช่วงระยะ ได้แก่ ยุคธรรมบัญญัติ ยุคพระคุณ และยุคแห่งราชอาณาจักร  พระราชกิจสามช่วงระยะเหล่านี้ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งความรอดของมวลมนุษย์ กล่าวคือ พวกมันเป็นไปเพื่อความรอดของมนุษย์ที่ได้ถูกทำให้เสื่อมทรามอย่างรุนแรงโดยซาตาน  อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกันพวกมันก็เป็นไปเพื่อที่พระเจ้าอาจทรงสู้รบกับซาตานด้วยเช่นกัน  ด้วยเหตุนี้ ดังเช่นที่พระราชกิจแห่งความรอดถูกแบ่งออกเป็นสามช่วงระยะ ดังนั้น การสู้รบกับซาตานจึงถูกแบ่งออกเป็นสามช่วงระยะด้วยเช่นกัน และสองแง่มุมเหล่านี้ของพระราชกิจของพระเจ้าจึงถูกกระทำขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน  การสู้รบกับซาตานเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งความรอดของมวลมนุษย์โดยแท้จริง และเพราะพระราชกิจแห่งความรอดของมวลมนุษย์มิใช่บางสิ่งที่สามารถถูกทำให้ครบบริบูรณ์อย่างประสบผลสำเร็จได้ในช่วงระยะเดียว การสู้รบกับซาตานยังถูกแบ่งออกเป็นระยะและเป็นช่วงเวลาด้วยเช่นกัน และมีการเปิดศึกกับซาตานโดยสอดคล้องกับความต้องการที่จำเป็นของมนุษย์และขอบข่ายของความเสื่อมทรามของซาตานในตัวเขา

2 มีสามช่วงระยะในพระราชกิจแห่งความรอดของมนุษย์ ซึ่งกล่าวได้ว่าการสู้รบกับซาตานได้ถูกแยกออกเป็นสามช่วงระยะเพื่อที่จะทำให้ซาตานปราชัยอย่างเด็ดขาด  กระนั้น ความจริงด้านในของพระราชกิจทั้งหมดแห่งการสู้รบกับซาตานก็คือประสิทธิผลของมันนั้นสัมฤทธิ์ได้โดยผ่านทางพระราชกิจหลายขั้นตอน ได้แก่ การประทานพระคุณให้แก่มนุษย์ การกลายเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปของมนุษย์ การยกโทษให้กับบาปทั้งหลายของมนุษย์ การพิชิตชัยมนุษย์ และการทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อม  ตามข้อเท็จจริงแล้ว การสู้รบกับซาตานมิใช่การใช้อาวุธรบกับซาตาน แต่คือความรอดของมนุษย์ การทรงพระราชกิจกับชีวิตมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยของมนุษย์ เพื่อที่เขาอาจเป็นคำพยานต่อพระเจ้าได้  นี่คือวิธีที่ซาตานถูกทำให้ปราชัย  เมื่อซาตานปราชัยแล้ว กล่าวคือ เมื่อมนุษย์ได้รับการช่วยให้รอดโดยครบบริบูรณ์แล้ว เมื่อนั้น ซาตานซึ่งถูกดูหมิ่นเหยียดหยามจะถูกพันธนาการเอาไว้โดยครบบริบูรณ์ และในหนทางนี้ มนุษย์จะได้รับการช่วยให้รอดโดยครบบริบูรณ์

3 ด้วยเหตุนี้ เนื้อแท้แห่งความรอดของมนุษย์ก็คือสงครามกับซาตาน และสงครามนี้โดยพื้นฐานแล้วสะท้อนอยู่ในความรอดของมนุษย์  ช่วงระยะแห่งยุคสุดท้าย ซึ่งเป็นยุคที่มนุษย์จะถูกพิชิต คือช่วงระยะสุดท้ายในการสู้รบกับซาตาน และนั่นยังเป็นพระราชกิจแห่งความรอดที่ครบบริบูรณ์ของมนุษย์จากแดนครอบครองของซาตานด้วยเช่นกัน  หากมนุษย์ได้เป็นอิสระจากอิทธิพลและพันธนาการของซาตาน เช่นนั้นแล้ว ซาตานก็จะอับอาย มนุษย์จะถูกนำกลับมาในท้ายที่สุด และซาตานก็จะปราชัย  และเพราะมนุษย์ได้เป็นอิสระจากอิทธิพลมืดของซาตาน มนุษย์จะกลายเป็นของที่ริบมาได้จากการสู้รบทั้งหมดนี้ และซาตานจะกลายเป็นวัตถุที่จะถูกลงโทษทันทีที่สงครามได้เสร็จสิ้นลง หลังจากนั้นพระราชกิจแห่งความรอดทั้งหมดของมวลมนุษย์ก็จะได้ถูกทำให้ครบบริบูรณ์

ดัดแปลงจาก “การฟื้นคืนชีวิตที่ปกติของมนุษย์และการนำมนุษย์ไปสู่บั้นปลายอันน่าอัศจรรย์” ใน พระวจนะทรงปรากฏเป็นมนุษย์

ก่อนหน้า: 101 จุดประสงค์ของงานบริหารจัดการของพระเจ้า

ถัดไป: 103 งานบริหารจัดการมนุษย์คืองานเพื่อเอาชนะซาตาน

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ภาคผนวก 1: การทรงปรากฏของพระเจ้าได้นำมาซึ่งยุคใหม่

แผนการบริหารจัดการนานหกพันปีของพระเจ้ากำลังจะสิ้นสุดลง และประตูแห่งราชอาณาจักรได้ถูกเปิดออกแล้วให้กับทุกคนที่แสวงหาการทรงปรากฏของพระองค์...

มนุษย์ผู้ที่ได้จำกัดเขตพระเจ้าไว้ในมโนคติที่หลงผิดของเขาสามารถได้รับวิวรณ์ของพระเจ้าได้อย่างไร?

พระราชกิจของพระเจ้ากำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเสมอ และแม้ว่าเป้าประสงค์ของพระราชกิจของพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง...

52. ลาก่อน จอมตามใจ!

โดย หลี่เฟย ประเทศสเปนพูดถึงคนที่ชอบตามใจผู้อื่น ก่อนมาเชื่อในพระเจ้า ฉันเคยคิดว่าพวกเขาช่างยอดเยี่ยม พวกเขามีอุปนิสัยที่อ่อนโยน...

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger