100 ความรักของพระเจ้ารออยู่
พระองค์ได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ และพระองค์ทรงแสดงความจริงเพื่อช่วยมวลมนุษย์ให้รอด พระวจนะทั้งมวลของพระองค์คือความจริง และพระวจนะเหล่านั้นได้ปลุกหัวใจของมนุษย์ให้ตื่นขึ้นมา พระองค์ได้ทรงอยู่กับพวกเรา ทรงคอยเฝ้าดูพวกเราในแต่ละวันและคืน โดยผ่านทางสายลมและสายฝนมากมายยิ่งนัก พระองค์ได้ทรงหลั่งรินพระโลหิตหยดสุดท้ายแห่งพระทัยของพระองค์ เพื่อที่มวลมนุษย์อาจได้รับการช่วยให้รอด พระองค์ทรงสู้ทนการกบฏและความเข้าใจผิดของพวกเรา โดยปราศจากการพร่ำบ่นคร่ำครวญหรือความเสียพระทัย แต่ทว่า มีผู้คนมากเท่าใดหรือที่เข้าใจพระทัยของพระองค์? และมีมากเท่าใดที่ได้ตื่นขึ้นมาและได้มอบหัวใจของพวกเขาให้กับพระองค์? พระองค์ทรงมีความวิตกกังวลและความห่วงใยมากมายยิ่งนัก และทรงทอดถอนพระทัยอย่างมากมายเพื่อการทรงดูแลของพระองค์ พระองค์ทรงแบกรับทุกสิ่งเหล่านี้ไว้เพียงลำพังพระองค์เอง ด้วยความลำบากยากเย็นและความขมขื่นอันมากมายยิ่งนัก พระวจนะของพระองค์พิพากษาและเปิดโปงผู้คน และพระวจนะเหล่านั้นเปิดเผยความรักของพระองค์ พระองค์ได้ทรงทนทุกข์กับการดูหมิ่นเหยียดหยามอันเลวร้ายเพื่อที่จะช่วยมวลมนุษย์ให้รอด เป็นเวลากี่ปีแล้วที่ทรงคอยเฝ้าดู? เป็นเวลากี่ปีแล้วที่ทรงรอคอย? แค่เพียงที่จะได้รับผู้คนกลุ่มหนึ่งผู้ซึ่งรักพระองค์อย่างแท้จริง เจตนารมณ์อันใจดีมีเมตตาของพระองค์และความรักอันจริงใจของพระองค์นั้น ได้นำพาหัวใจที่ด้านชาของข้าพระองค์กลับมาสู่ชีวิต ข้าพระองค์จะมีวันเป็นกบฏอีกได้อย่างไร? ข้าพระองค์จะมีวันกลายเป็นหมดกำลังใจหรือถดถอยได้อย่างไร? การหวังและการรอคอยของพระองค์ได้เกิดขึ้นนานเกินไปแล้ว ข้าพระองค์จะทนปล่อยให้พระองค์ทรงรอคอยนานไปกว่านี้ ทนที่จะทำร้ายพระองค์มากไปกว่านี้ได้อย่างไร? ตรงโค้งสุดท้ายนี้ ข้าพระองค์ปรารถนาที่จะติดตามใกล้ชิดเบื้องหลังพระองค์ โดยไม่มีวันหยุด ข้าพระองค์เต็มใจที่จะทำทุกอย่างที่ข้าพระองค์ทำได้เพื่อที่จะไล่ตามเสาะหาความจริง เพื่อที่ข้าพระองค์อาจได้รับความจริงและชีวิต ไม่สำคัญว่าการกดขี่และความทุกข์ลำบากจะใหญ่หลวงหรือสาหัสเพียงใด ข้าพระองค์ตกลงใจแน่วแน่อย่างถึงที่สุดที่จะติดตามพระองค์ ในชีวิตนี้ การที่จะมีความสามารถที่จะรักพระองค์ได้ และเป็นพยานที่ดีต่อพระองค์นั้นคือความพึงปรารถนาของหัวใจข้าพระองค์