พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การจุติเป็นมนุษย์ | บทตัดตอน 108
วันที่ 31 เดือน 01 ปี 2024
แม้ว่าพระคริสต์บนแผ่นดินโลกทรงสามารถปฏิบัติพระราชกิจในพระนามของพระเจ้าพระองค์เองได้ แต่พระองค์ไม่ได้เสด็จมาด้วยเจตนารมณ์ที่จะแสดงพระฉายาของพระองค์ในเนื้อหนังต่อมนุษย์ทั้งมวล พระองค์ไม่ได้เสด็จมาเพื่อให้มนุษย์ทั้งมวลมองเห็นพระองค์ พระองค์เสด็จมาเพื่อทำให้มนุษย์สามารถได้รับการนำโดยพระหัตถ์ของพระองค์ได้ และเช่นนั้นมนุษย์จึงเข้าสู่ยุคใหม่ได้ การปฏิบัติหน้าที่ของเนื้อหนังของพระคริสต์นั้นเป็นไปเพื่อพระราชกิจของพระเจ้าพระองค์เอง นั่นคือ เพื่อพระราชกิจของพระเจ้าในเนื้อหนัง และไม่ใช่เพื่อทำให้มนุษย์สามารถเข้าใจเนื้อแท้ของเนื้อหนังของพระองค์ได้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่สำคัญว่าพระองค์จะทรงพระราชกิจอย่างไร ไม่มีสิ่งใดที่พระองค์ทรงปฏิบัติที่อยู่เหนือกว่าสิ่งที่เนื้อหนังสามารถบรรลุได้ ไม่สำคัญว่าพระองค์ทรงพระราชกิจอย่างไร พระองค์ทรงพระราชกิจนั้นในเนื้อหนังที่มีสภาวะความเป็นมนุษย์ตามปกติ และไม่ได้ทรงเผยโฉมพระพักตร์ที่แท้จริงของพระเจ้าต่อมนุษย์อย่างเต็มเปี่ยม นอกจากนี้ พระราชกิจในเนื้อหนังของพระองค์ไม่มีวันที่จะเกินธรรมชาติหรือประมาณค่าไม่ได้อย่างที่มนุษย์คิดฝัน ถึงแม้ว่าพระคริสต์ทรงเป็นตัวแทนพระเจ้าพระองค์เองในเนื้อหนัง และทรงปฏิบัติในสภาวะบุคคลในพระราชกิจที่พระเจ้าพระองค์เองทรงควรปฏิบัติ แต่พระองค์มิได้ทรงปฏิเสธการทรงดำรงอยู่ของพระเจ้าในสวรรค์ อีกทั้งพระองค์มิได้ทรงกล่าวประกาศกิจการของพระองค์เองอย่างร้อนรุ่ม ตรงกันข้าม พระองค์ทรงยังคงซ่อนอยู่อย่างถ่อมพระทัยอยู่ภายในเนื้อหนังของพระองค์ นอกเหนือจากพระคริสต์แล้ว บรรดาผู้ที่อ้างอย่างเทียมเท็จว่าเป็นพระคริสต์นั้นไม่มีคุณสมบัติของพระองค์ เมื่อนำมาวางเปรียบเทียบข้างๆ อุปนิสัยที่โอหังและยกย่องตนเองของพวกพระคริสต์เทียมเท็จแล้ว ก็เป็นที่ชัดเจนขึ้นมาว่าเนื้อหนังลักษณะเช่นใดที่เป็นพระคริสต์อย่างแท้จริง ยิ่งพวกเขาเทียมเท็จมากขึ้นเท่าใด พวกพระคริสต์เทียมเท็จเช่นนั้นก็ยิ่งคุยโตถึงตนเองมากขึ้นเท่านั้น และพวกเขาก็ยิ่งมีความสามารถที่จะทำการแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์เพื่อหลอกลวงมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น พระคริสต์เทียมเท็จไม่มีคุณสมบัติของพระเจ้า พระคริสต์ไม่ทรงมีมลทินจากองค์ประกอบใดๆ ที่เป็นของพระคริสต์เทียมเท็จ พระเจ้าทรงบังเกิดเป็นมนุษย์เพียงเพื่อปฏิบัติพระราชกิจของเนื้อหนังให้ครบบริบูรณ์เท่านั้น ไม่ใช่เพียงเพื่อทำให้มนุษย์สามารถมองเห็นพระองค์ได้ แต่พระองค์ทรงปล่อยให้พระราชกิจของพระองค์ยืนยันพระอัตลักษณ์ของพระองค์ และทรงปล่อยให้สิ่งที่พระองค์ทรงเผยพิสูจน์เนื้อแท้ของพระองค์แทน เนื้อแท้ของพระองค์มิได้ไร้มูลฐาน พระอัตลักษณ์ของพระองค์ไม่ได้ถูกเกาะกุมไว้ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ แต่ถูกกำหนดพิจารณาโดยพระราชกิจของพระองค์และเนื้อแท้ของพระองค์ แม้ว่าพระองค์จะทรงมีเนื้อแท้ของพระเจ้าพระองค์เองและทรงสามารถปฏิบัติพระราชกิจของพระเจ้าพระองค์เองได้ แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์ยังคงทรงเป็นเนื้อหนัง ไม่เหมือนกับพระวิญญาณ พระองค์มิได้ทรงเป็นพระเจ้าที่มีคุณสมบัติของพระวิญญาณ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่มีเปลือกของเนื้อหนัง ดังนั้น ไม่สำคัญว่าพระองค์จะทรงเป็นปกติเพียงใด และไม่สำคัญว่าพระองค์จะทรงอ่อนแอเพียงใด และไม่สำคัญว่าพระองค์จะทรงแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าพระบิดาอย่างไร เทวสภาพของพระองค์ก็มิอาจปฏิเสธได้ ภายในพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ไม่ได้มีเพียงแค่สภาวะความเป็นมนุษย์ตามปกติและความอ่อนแอของสภาวะความเป็นมนุษย์เท่านั้น แต่ยังมีความมหัศจรรย์และความมิอาจหยั่งลึกของเทวสภาพของพระองค์ อีกทั้งกิจการทั้งหมดของพระองค์ในเนื้อหนัง ดังนั้น ทั้งสภาวะความเป็นมนุษย์และเทวสภาพต่างก็มีอยู่ภายในพระคริสต์ ทั้งตามความเป็นจริงและในการปฏิบัติ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ว่างเปล่าหรือเกินธรรมชาติเลยแม้แต่น้อย พระองค์เสด็จมายังแผ่นดินโลกโดยมีจุดประสงค์หลักคือการปฏิบัติพระราชกิจ มีความจำเป็นที่ทรงต้องมีสภาวะความเป็นมนุษย์ตามปกติเพื่อปฏิบัติพระราชกิจบนแผ่นดินโลก มิเช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าเทวสภาพของพระองค์จะมีฤทธานุภาพยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม ก็มิสามารถนำการปฏิบัติพระราชกิจแต่ดั้งเดิมของฤทธานุภาพนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ แม้ว่าสภาวะความเป็นมนุษย์ของพระองค์จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่นั่นก็มิใช่เนื้อแท้ของพระองค์ เนื้อแท้ของพระองค์คือเทวสภาพ ดังนั้น ชั่วขณะที่พระองค์ทรงเริ่มต้นดำเนินพันธกิจของพระองค์บนแผ่นดินโลกจึงเป็นชั่วขณะที่พระองค์ทรงเริ่มต้นแสดงการดำรงอยู่ของเทวสภาพของพระองค์ สภาวะความเป็นมนุษย์ของพระองค์มีอยู่เพียงเพื่อช่วยค้ำจุนชีวิตตามปกติของเนื้อหนังของพระองค์เพื่อให้เทวสภาพของพระองค์สามารถปฏิบัติพระราชกิจได้ตามปกติในเนื้อหนังเท่านั้น ทั้งหมดทั้งปวงที่ชี้นำพระราชกิจของพระองค์คือเทวสภาพ เมื่อพระองค์ทรงทำให้พระราชกิจของพระองค์ครบบริบูรณ์ พระองค์จะได้ทรงทำให้พันธกิจของพระองค์ลุล่วงแล้ว สิ่งที่มนุษย์ควรต้องรู้คือทั้งหมดทั้งมวลของพระราชกิจของพระองค์ และพระองค์ทรงทำให้มนุษย์สามารถรู้จักพระองค์ได้โดยผ่านทางพระราชกิจของพระองค์นั่นเอง ตลอดครรลองแห่งพระราชกิจของพระองค์ พระองค์ทรงค่อนข้างแสดงถึงการดำรงอยู่ของเทวสภาพของพระองค์อย่างเต็มที่ ซึ่งมิใช่อุปนิสัยที่มีมลทินจากสภาวะความเป็นมนุษย์ หรือที่มีมลทินจากความคิดและพฤติกรรมของมนุษย์ เมื่อถึงเวลาที่พันธกิจทั้งหมดของพระองค์ได้มาถึงจุดสิ้นสุด พระองค์จะได้ทรงแสดงถึงอุปนิสัยที่พระองค์ทรงควรต้องแสดงอย่างสมบูรณ์แบบและเต็มที่แล้ว พระราชกิจของพระองค์ไม่ได้รับการนำทางจากการชี้แนะของมนุษย์คนใด การแสดงออกของอุปนิสัยของพระองค์ยังค่อนข้างเป็นอิสระ และไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของจิตใจหรือผ่านการประมวลผลโดยความคิดอีกด้วย แต่เผยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ นี่คือสิ่งที่ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถสัมฤทธิ์ได้ แม้ว่าสิ่งที่ล้อมรอบจะรุนแรงหรือสภาวะจะไม่เอื้ออำนวย พระองค์ก็ทรงสามารถแสดงออกถึงอุปนิสัยของพระองค์ในเวลาที่เหมาะสมได้ ผู้ที่เป็นพระคริสต์แสดงออกถึงการดำรงอยู่ของพระคริสต์ ในขณะที่ผู้ที่ไม่ใช่พระคริสต์ไม่มีอุปนิสัยของพระคริสต์ ดังนั้น ต่อให้ทุกผู้คนจะต้านทานพระองค์หรือมีมโนคติอันหลงผิดเกี่ยวกับพระองค์ ก็ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธตามพื้นฐานของมโนคติอันหลงผิดของมนุษย์ได้ว่า พระอุปนิสัยที่พระคริสต์ทรงแสดงออกนั้นคือพระอุปนิสัยของพระเจ้า บรรดาคนเหล่านั้นทั้งหมดที่แสวงหาพระคริสต์ด้วยหัวใจที่แท้จริงหรือแสวงหาพระเจ้าอย่างตั้งใจจะยอมรับว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ที่มีพื้นฐานจากการแสดงออกของเทวสภาพของพระองค์ พวกเขาจะไม่มีวันปฏิเสธพระคริสต์โดยอิงถึงแง่มุมใดๆ ของพระองค์ที่ไม่สอดคล้องกับมโนคติอันหลงผิดของมนุษย์เป็นพื้นฐาน แม้ว่ามนุษย์จะโง่เขลายิ่ง แต่มนุษย์ทุกคนรู้อย่างแน่ชัดว่าสิ่งใดคือความตั้งใจของมนุษย์และสิ่งใดที่มาจากพระเจ้า มันเป็นเพียงแค่ว่าผู้คนมากมายจงใจต้านทานพระคริสต์เนื่องจากเจตนาของพวกเขาเอง หากไม่ใช่เพราะการนี้ เช่นนั้นแล้วก็คงจะไม่มีมนุษย์คนหนึ่งคนใดที่จะมีเหตุผลในการปฏิเสธการมีอยู่ของพระคริสต์ เพราะเทวสภาพที่พระคริสต์ทรงแสดงออกนั้นปรากฏอยู่จริง และพระราชกิจของพระองค์สามารถพบเห็นเป็นพยานได้ด้วยตาเปล่า
—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, แก่นแท้ของพระคริสต์คือการเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์
ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ
วิดีโอประเภทอื่นๆ