พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระราชกิจของพระเจ้า | บทตัดตอน 163

วันที่ 30 เดือน 12 ปี 2023

อิสยาห์ เอเสเคียล โมเสส ดาวิด อับราฮัม และดาเนียลคือผู้นำหรือผู้เผยพระวจนะท่ามกลางประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรรแห่งประเทศอิสราเอล ทำไมพวกเขาจึงไม่ได้ถูกเรียกว่าพระเจ้า? ทำไมพระวิญญาณบริสุทธิ์จึงไม่ได้ทรงเป็นคำพยานต่อพวกเขา? ทำไมพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงเป็นคำพยานต่อพระเยซูทันทีที่พระองค์เริ่มพระราชกิจของพระองค์ และเริ่มตรัสพระวจนะของพระองค์? และทำไมพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ได้ทรงเป็นคำพยานต่อคนอื่นๆ? พวกเขาเหล่ามนุษย์ที่มีเนื้อหนังทั้งหมดได้ถูกเรียกว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า" โดยไม่คำนึงถึงว่าพวกเขาถูกเรียกว่าอะไร งานของพวกเขาเป็นตัวแทนของความเป็นอยู่และเนื้อแท้ของพวกเขา และความเป็นอยู่และเนื้อแท้ของพวกเขาเป็นตัวแทนของอัตลักษณ์ของพวกเขา เนื้อแท้ของพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับชื่อต่างๆ ของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาแสดงออกและวิถีการดำเนินชีวิตของพวกเขาคือตัวแทนของเนื้อแท้ของพวกเขา ในพันธสัญญาเดิมนั้น ไม่มีสิ่งใดผิดปกติในการถูกเรียกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า และบุคคลผู้หนึ่งอาจถูกเรียกด้วยชื่อใดก็ตาม แต่เนื้อแท้และอัตลักษณ์ที่มีมาแต่เกิดของเขานั้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ท่ามกลางพระคริสต์เทียมเท็จ ผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จ และคนหลอกลวงเหล่านั้น ไม่มีพวกที่ถูกเรียกว่า "พระเจ้า" อยู่ด้วยหรอกหรือ? และทำไมพวกเขาจึงไม่ใช่พระเจ้า? เพราะพวกเขาไม่สามารถทำพระราชกิจของพระเจ้าได้ ในส่วนลึกพวกเขาเป็นมนุษย์ คนหลอกลวงผู้คน ไม่ใช่พระเจ้า และดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีพระอัตลักษณ์ของพระเจ้า ดาวิดไม่ได้ถูกเรียกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าท่ามกลางชนเผ่าทั้งสิบสองชนเผ่าด้วยหรอกหรือ? พระเยซูก็ทรงถูกเรียกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นกัน ทำไมพระเยซูเพียงผู้เดียวจึงถูกเรียกว่าพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์? เยเรมีย์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในฐานะบุตรมนุษย์ด้วยหรอกหรือ? และพระเยซูไม่ได้เป็นที่รู้จักในฐานะบุตรมนุษย์หรอกหรือ? ทำไมพระเยซูถูกตรึงกางเขนในพระนามของพระเจ้า? ไม่ใช่เพราะเนื้อแท้ของพระองค์แตกต่างหรอกหรือ? ไม่ใช่เพราะพระราชกิจที่พระองค์ได้ทรงทำแตกต่างหรอกหรือ? ชื่อนั้นสำคัญหรือไม่? แม้ว่าพระเยซูได้ทรงถูกเรียกว่าบุตรมนุษย์เช่นกัน แต่พระองค์ได้ทรงเป็นการจุติเป็นมนุษย์ครั้งแรกของพระเจ้า พระองค์ได้เสด็จมาเพื่อรับฤทธานุภาพ และทำให้พระราชกิจแห่งการไถ่สำเร็จลุล่วง นี่พิสูจน์ว่าพระอัตลักษณ์และเนื้อแท้ของพระเยซูแตกต่างจากผู้อื่นที่ถูกเรียกว่าบุตรมนุษย์เช่นกัน ในวันนี้ ผู้ใดท่ามกลางพวกเจ้ากล้าพูดว่าคำพูดทั้งหมดที่ถูกพูดโดยพวกที่ถูกพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงใช้มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์? ผู้ใดเล่ากล้าพูดสิ่งต่างๆ เช่นนี้? หากเจ้าพูดสิ่งต่างๆ เช่นนี้จริง เช่นนั้นแล้วทำไมหนังสือแห่งการเผยพระวจนะของเอสราจึงถูกละทิ้ง และทำไมสิ่งเดียวกันจึงถูกกระทำกับบรรดาหนังสือของวิสุทธิชนและผู้เผยพระวจนะในยุคโบราณเหล่านั้น? หากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เช่นนั้นแล้วทำไมพวกเจ้าจึงกล้าทำการเลือกตามอำเภอใจเช่นนี้? เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเลือกพระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือไม่? หลายเรื่องราวจากประเทศอิสราเอลก็ถูกละทิ้งเช่นกัน และหากเจ้าเชื่อว่าข้อเขียนแห่งอดีตเหล่านี้ทั้งหมดมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เช่นนั้นแล้วทำไมหนังสือบางเล่มจึงถูกละทิ้ง? หากหนังสือทั้งหมดนั่นมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็ควรได้รับการเก็บรักษาไว้ และส่งไปให้พี่น้องชายหญิงของคริสตจักรได้อ่าน หนังสือเหล่านั้นไม่ควรถูกเลือกหรือละทิ้งโดยความตั้งใจของมนุษย์ มันผิดที่จะทำเช่นนั้น การพูดว่าประสบการณ์ของเปาโลและยอห์นถูกผสมกับความเข้าใจเชิงลึกส่วนตัวของพวกเขาไม่ได้หมายความว่าประสบการณ์และความรู้ของพวกเขามาจากซาตาน แต่เป็นเพียงว่าพวกเขามีสิ่งต่างๆ ที่มาจากประสบการณ์และความเข้าใจเชิงลึกส่วนตัวของพวกเขา ความรู้ของพวกเขาสอดคล้องกับภูมิหลังของประสบการณ์จริงแท้ของพวกเขา ณ เวลานั้น และใครเล่าจะสามารถบอกได้อย่างมั่นใจว่าทั้งหมดนั่นมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์? หากข่าวประเสริฐทั้งสี่ล้วนมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เช่นนั้นแล้วทำไมมัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์นแต่ละคนจึงพูดถึงบางสิ่งที่แตกต่างกันเกี่ยวกับพระราชกิจของพระเยซู? หากเจ้าไม่เชื่อเรื่องนี้ เช่นนั้นแล้วจงดูที่เรื่องราวต่างๆ ในพระคัมภีร์เกี่ยวกับการที่เปโตรได้ปฏิเสธองค์พระผู้เป็นเจ้าสามครั้งอย่างไร กล่าวคือ การปฏิเสธทั้งหมดแตกต่างกัน และแต่ละครั้งก็มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง หลายคนที่ไม่รู้เท่าทันพูดว่า "พระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ก็ทรงเป็นมนุษย์เช่นกัน ดังนั้นพระวจนะที่พระองค์ตรัสนั้นสามารถมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยครบบริบูรณ์ได้หรือ? หากคำพูดของเปาโลและยอห์นถูกผสมกับความตั้งใจของมนุษย์ เช่นนั้นแล้วพระวจนะที่พระองค์ตรัสนั้นก็ไม่ได้ถูกผสมกับความตั้งใจของมนุษย์จริงๆ หรือ?" ผู้คนที่พูดสิ่งต่างๆ เหล่านี้ตาบอดและไม่รู้เท่าทัน! จงอ่านข่าวประเสริฐทั้งสี่อย่างละเอียดถี่ถ้วน จงอ่านสิ่งที่ข่าวประเสริฐทั้งสี่ได้บันทึกไว้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่พระเยซูได้ทรงทำ และพระวจนะที่พระองค์ได้ตรัสไว้ แต่ละเรื่องราวแตกต่างกันอย่างแน่นอนมาก และแต่ละเรื่องราวก็มีมุมมองของตัวเอง หากสิ่งที่ถูกเขียนขึ้นโดยผู้เขียนหนังสือเหล่านี้ทั้งหมดมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เช่นนั้นแล้วทั้งหมดก็ควรจะเหมือนกันและสอดคล้องกัน เช่นนั้นแล้วทำไมจึงมีความแตกต่าง? มนุษย์ไม่โง่อย่างที่สุดหรอกหรือ ที่ไร้ความสามารถที่จะมองเห็นเรื่องนี้? หากเจ้าถูกขอให้เป็นคำพยานต่อพระเจ้า เจ้าจะสามารถให้คำพยานแบบใด? วิธีรู้จักพระเจ้าเช่นนี้สามารถเป็นคำพยานต่อพระองค์ได้หรือไม่? หากคนอื่นถามเจ้าว่า "หากบันทึกต่างๆ ของยอห์นและลูกาถูกผสมกับความตั้งใจของมนุษย์ เช่นนั้นแล้วพระวจนะที่พระเจ้าของพวกเจ้าได้ตรัสไม่ได้ถูกผสมกับความตั้งใจของมนุษย์หรอกหรือ?" เจ้าจะสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้หรือไม่? หลังจากลูกาและมัทธิวได้ยินพระวจนะของพระเยซู และได้เห็นพระราชกิจของพระเยซู พวกเขาก็พูดถึงความรู้ของพวกเขาเอง ในลักษณะของการรำลึกถึงอดีตโดยให้รายละเอียดของข้อเท็จจริงบางข้อของพระราชกิจที่พระเยซูได้ทรงทำ เจ้าสามารถพูดได้หรือไม่ว่าความรู้ของพวกเขาได้ถูกเปิดเผยอย่างครบบริบูรณ์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์? นอกพระคัมภีร์มีบุคคลสำคัญฝ่ายจิตวิญญาณมากมายที่มีความรู้สูงกว่าพวกเขา ดังนั้นทำไมคำพูดของพวกเขาจึงไม่ได้ถูกคนรุ่นต่อๆ มารับไว้เล่า? คำพูดของพวกเขาไม่ได้ถูกพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงใช้เช่นกันหรอกหรือ? จงรู้ไว้ว่าในพระราชกิจแห่งวันนี้ เราไม่ได้พูดถึงความเข้าใจเชิงลึกของตัวเราเองโดยตั้งอยู่บนรากฐานของพระราชกิจของพระเยซู อีกทั้งเราไม่ได้กำลังพูดถึงความรู้ของเราเองกับภูมิหลังของพระราชกิจของพระเยซู พระเยซูได้ทรงพระราชกิจอะไร ณ เวลานั้น? และงานอะไรที่เรากำลังทำในวันนี้? สิ่งที่เราทำและพูดไม่เคยมีมาก่อน เส้นทางที่เราเดินในวันนี้ไม่เคยถูกก้าวย่างมาก่อน เส้นทางนี้ไม่เคยถูกผู้คนแห่งยุคต่างๆ และรุ่นต่างๆ แห่งอดีตกาลเดิน วันนี้มันได้ถูกเปิดตัวแล้ว และนี่ไม่ใช่พระราชกิจของพระวิญญาณหรอกหรือ? แม้ว่าจะเป็นพระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้นำแห่งอดีตทั้งหมดก็ยังคงดำเนินการงานของพวกเขาบนรากฐานของพระราชกิจอื่นๆ อย่างไรก็ตามพระราชกิจของพระเจ้าพระองค์เองนั้นแตกต่าง ช่วงระยะของพระราชกิจของพระเยซูนั้นเหมือนกัน กล่าวคือ พระองค์ได้ทรงเปิดหนทางใหม่ เมื่อพระองค์ได้เสด็จมา พระองค์ได้ทรงประกาศข่าวประเสริฐแห่งแผ่นดินสวรรค์ และได้ตรัสว่ามนุษย์ควรกลับใจและสารภาพบาป หลังจากที่พระเยซูได้ทรงทำพระราชกิจของพระองค์ครบบริบูรณ์แล้ว เปโตรกับเปาโลและคนอื่นๆ ก็เริ่มดำเนินการพระราชกิจของพระเยซูต่อไป หลังจากที่พระเยซูได้ทรงถูกตอกตรึงกางเขน และได้เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พวกเขาก็ถูกพระวิญญาณส่งไปเผยแพร่หนทางแห่งกางเขน แม้ว่าคำพูดของเปาโลได้รับการยกย่อง แต่คำพูดเหล่านี้ก็ยังตั้งอยู่บนรากฐานที่ถูกจัดวางไว้โดยสิ่งที่พระเยซูได้ตรัสไว้ อาทิ ความอดทน ความรัก ความทุกข์ การปกคลุมศีรษะ การรับบัพติศมา หรือคำสอนอื่นๆ ที่ต้องติดตาม ทั้งหมดนี้ถูกพูดบนรากฐานของพระวจนะของพระเยซู พวกเขาไม่สามารถเปิดทางใหม่ได้ เพราะพวกเขาคือมนุษย์ทั้งหมดที่พระเจ้าทรงใช้

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, ว่าด้วยเรื่องชื่อและอัตลักษณ์

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger