พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การพิพากษาในยุคสุดท้าย | บทตัดตอน 91

วันที่ 09 เดือน 01 ปี 2024

มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างพระราชกิจที่ได้ทำในอิสราเอลและพระราชกิจของวันนี้ พระยาห์เวห์ทรงนำชีวิตของคนอิสราเอล และไม่มีการตีสอนและการพิพากษามากนัก เพราะในเวลานั้นผู้คนเข้าใจโลกน้อยเกินไปและมีอุปนิสัยที่เสื่อมทรามอยู่บ้าง ตอนนั้น คนอิสราเอลเชื่อฟังพระยาห์เวห์โดยไม่มีข้อกังขา เมื่อพระองค์ตรัสบอกให้พวกเขาสร้างแท่นบูชา พวกเขาก็สร้างแท่นบูชาขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อพระองค์ตรัสบอกให้พวกเขาสวมเสื้อคลุมของปุโรหิต พวกเขาก็เชื่อฟัง ในสมัยนั้น พระยาห์เวห์ทรงเป็นเหมือนคนเลี้ยงแกะที่เฝ้าฝูงแกะ โดยมีแกะเดินตามการนำทางของคนเลี้ยงแกะและกินหญ้าในทุ่งหญ้า พระยาห์เวห์ทรงนำชีวิตของพวกเขา นำทางพวกเขาในวิธีที่พวกเขากิน แต่งกาย พักพิง และเดินทาง นั่นไม่ใช่เวลาที่จะทำให้พระอุปนิสัยของพระเจ้าเป็นที่กระจ่าง เพราะมนุษย์ในสมัยนั้นเป็นเด็กแรกเกิด มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นกบฏและเป็นปรปักษ์ ไม่มีความโสมมมากนักท่ามกลางมวลมนุษย์ และดังนั้นผู้คนจึงไม่สามารถทำตนเป็นตัวประกอบเสริมความเด่นให้กับพระอุปนิสัยของพระเจ้าได้ โดยผ่านทางผู้คนที่มาจากแผ่นดินแห่งความโสมมนั่นเอง ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าจึงแสดงให้เห็น วันนี้ พระองค์ทรงใช้ความโสมมที่แสดงให้เห็นในตัวผู้คนเหล่านี้ของแผ่นดินแห่งความโสมม และพระองค์ทรงพิพากษา และด้วยเหตุนี้สิ่งที่พระองค์ทรงเป็นจึงได้รับการเปิดเผยท่ามกลางการพิพากษา เหตุใดพระองค์จึงทรงพิพากษา? พระองค์สามารถตรัสพระวจนะแห่งการพิพากษาเพราะพระองค์ทรงดูหมิ่นบาป พระองค์จะกริ้วถึงเพียงนั้นได้อย่างไรหากพระองค์ไม่ได้ทรงชิงชังการเป็นกบฏของมวลมนุษย์? หากไม่มีความเดียดฉันท์ภายในพระองค์ ไม่มีความสะอิดสะเอียน หากพระองค์ไม่ใส่พระทัยต่อการเป็นกบฏของผู้คน เช่นนั้นแล้วนั่นก็จะพิสูจน์ว่าพระองค์ทรงโสมมเท่ากันกับมนุษย์ การที่พระองค์ทรงสามารถพิพากษาและตีสอนมนุษย์ได้ก็เพราะพระองค์ทรงเกลียดชังความโสมม และสิ่งที่พระองค์ทรงเกลียดชังนั้นไม่มีอยู่ในพระองค์ หากมีการต่อต้านและความเป็นกบฏอยู่ในพระองค์เช่นกัน พระองค์คงจะไม่ทรงดูหมิ่นพวกที่เป็นปรปักษ์และเป็นกบฏ หากมีการดำเนินพระราชกิจแห่งยุคสุดท้ายในอิสราเอล ก็คงจะไม่มีความหมายใดๆ ในพระราชกิจนั้น เหตุใดพระราชกิจแห่งยุคสุดท้ายจึงกำลังได้รับการทรงงานในประเทศจีน สถานที่ที่มืดมิดที่สุดและล้าหลังมากที่สุดในบรรดาประเทศทั้งปวง? นั่นก็เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และความชอบธรรมของพระองค์ กล่าวโดยย่อคือ ยิ่งสถานที่มืดมิดมากขึ้นเพียงใด ก็ยิ่งแสดงความบริสุทธิ์ของพระเจ้าได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น อันที่จริงแล้ว ทั้งหมดนี้ทำไปเพื่อประโยชน์ของพระราชกิจของพระเจ้า มีเพียงในวันนี้เท่านั้นที่พวกเจ้าตระหนักได้ว่าพระเจ้าได้เสด็จลงมาจากฟ้าสวรรค์เพื่อมายืนท่ามกลางพวกเจ้า โดยมีสิ่งโสมมและความเป็นกบฏของพวกเจ้าเป็นเครื่องขับเน้นให้พระองค์ทรงโดดเด่นออกมา และตอนนี้เท่านั้นที่พวกเจ้ารู้จักพระเจ้า นี่ไม่ใช่การยกย่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรอกหรือ? อันที่จริงแล้ว พวกเจ้าเป็นกลุ่มคนในประเทศจีนที่ได้รับการเลือกสรร และเพราะเจ้าได้รับการเลือกสรรและได้ชื่นชมพระคุณของพระเจ้าเรื่อยมา และเพราะเจ้าไม่เหมาะสมที่จะชื่นชมพระคุณที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น นี่จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าทั้งหมดนี้คือการยกย่องในระดับสูงสุดของพวกเจ้า พระเจ้าได้ทรงปรากฏต่อพวกเจ้า และได้ทรงแสดงให้พวกเจ้าเห็นถึงพระอุปนิสัยที่บริสุทธิ์ทั้งหมดทั้งมวลของพระองค์ และพระองค์ได้ทรงมอบทั้งหมดนั้นแก่พวกเจ้า และได้ทรงทำให้พวกเจ้าชื่นชมพระพรทั้งหมดที่พวกเจ้าอาจสามารถชื่นชมได้ ไม่เพียงแต่เจ้าจะได้ลิ้มรสพระอุปนิสัยอันชอบธรรมของพระเจ้าเท่านั้น แต่ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังได้ลิ้มรสความรอดของพระเจ้า การไถ่ของพระเจ้า และความรักที่ไม่มีที่สิ้นสุดไร้ขีดจำกัดของพระเจ้า พวกเจ้าที่โสมมที่สุดแล้วนั้นได้ชื่นชมพระคุณที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น—เจ้าไม่ได้รับพระพรหรอกหรือ? นี่ไม่ใช่การที่พระเจ้าทรงยกเจ้าขึ้นมาหรอกหรือ? ผู้คนอย่างพวกเจ้ามีสถานะต่ำที่สุดแล้ว เจ้าไม่คู่ควรกับการชื่นชมพระพรอันยิ่งใหญ่เช่นนั้นอยู่แล้วโดยธรรมชาติ แต่กระนั้นพระเจ้าก็ได้ทรงสร้างข้อยกเว้นด้วยการยกเจ้าขึ้น เจ้าไม่รู้สึกละอายใจหรือ? หากเจ้าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าได้ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะละอายใจต่อตัวเจ้าเองในท้ายที่สุด และเจ้าจะลงโทษตัวเจ้าเอง วันนี้ เจ้าไม่ถูกบ่มวินัย อีกทั้งเจ้าไม่ถูกลงโทษ เนื้อหนังของเจ้าปลอดภัยดี—แต่ท้ายที่สุดแล้ว วจนะเหล่านี้จะทำให้เจ้าอับอาย จนถึงวันนี้ เรายังไม่ได้ตีสอนผู้ใดอย่างเปิดเผย วจนะของเราอาจรุนแรง แต่เรากระทำตนต่อผู้คนอย่างไร? เราชูใจพวกเขา และเตือนสติพวกเขา และเตือนความจำพวกเขา เราทำการนี้โดยไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากเพื่อช่วยพวกเจ้าให้รอด พวกเจ้าไม่เข้าใจเจตจำนงของเราจริงๆ หรือ? พวกเจ้าควรเข้าใจสิ่งที่เรากล่าว และได้รับแรงดลใจจากสิ่งนั้น มีเพียงตอนนี้เท่านั้นที่มีผู้คนมากมายที่เข้าใจ การนี้ไม่ใช่พระพรของการเป็นตัวประกอบเสริมความเด่นหรอกหรือ? การเป็นตัวประกอบเสริมความเด่นไม่ใช่การได้รับพระพรมากที่สุดหรอกหรือ? ท้ายที่สุด เมื่อเจ้าไปเผยแผ่ข่าวประเสริฐ พวกเจ้าจะกล่าวดังนี้ว่า "พวกเราคือตัวประกอบเสริมความเด่นที่เป็นแบบฉบับเฉพาะ" พวกเขาจะถามเจ้าว่า "การที่เธอเป็นตัวประกอบเสริมความเด่นที่เป็นแบบฉบับเฉพาะหมายความว่าอะไร?" และเจ้าจะกล่าวว่า "พวกเราคือตัวประกอบเสริมความเด่นของพระราชกิจของพระเจ้า และของฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระอุปนิสัยที่ชอบธรรมทั้งหมดทั้งมวลของพระเจ้านั้นถูกความเป็นกบฏของพวกเรานำออกมาแผ่วาง พวกเราเป็นวัตถุที่ใช้ปรนนิบัติพระราชกิจยุคสุดท้ายของพระเจ้า พวกเราเป็นรยางค์ของพระราชกิจของพระองค์ และยังเป็นเครื่องมือของพระราชกิจด้วยเช่นกัน" เมื่อพวกเขาได้ยินดังนั้น พวกเขาจะรู้สึกประหลาดใจ จากนั้น เจ้าจะกล่าวว่า "พวกเราเป็นชิ้นงานตัวอย่างและแบบอย่างของการเสร็จสมบูรณ์แห่งพระราชกิจทั่วทั้งจักรวาลของพระเจ้า และของการพิชิตมวลมนุษย์ทั้งปวงของพระองค์ ไม่ว่าพวกเราจะบริสุทธิ์หรือโสมม กล่าวโดยย่อแล้ว พวกเราก็ยังคงได้รับพระพรมากกว่าพวกเจ้า เพราะพวกเราได้เห็นพระเจ้าแล้ว และฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าถูกแสดงให้เห็นโดยผ่านทางโอกาสของการที่พระองค์ทรงพิชิตพวกเรา เป็นเพียงเพราะพวกเราโสมมและเสื่อมทรามนั่นเอง จึงทำให้พระอุปนิสัยที่ชอบธรรมของพระองค์โดดเด่นขึ้นมา พวกเธอมีความสามารถในการเป็นพยานเช่นนั้นให้กับพระราชกิจยุคสุดท้ายของพระเจ้าหรือไม่? พวกเธอไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม! นี่ไม่ใช่สิ่งใดเลยนอกจากการยกย่องที่พระเจ้าทรงมีให้พวกเรา! แม้ว่าพวกเราอาจจะไม่โอหัง แต่พวกเราสามารถสรรเสริญพระเจ้าได้อย่างภาคภูมิใจ เพราะไม่มีใครสามารถสืบทอดสัญญาที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ และไม่มีใครสามารถชื่นชมพระพรอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ พวกเรารู้สึกสำนึกรู้คุณยิ่งนักที่พวกเราซึ่งเป็นผู้ที่โสมมสามารถทำงานในฐานะตัวประกอบเสริมความเด่นในช่วงระหว่างการบริหารจัดการของพระเจ้าได้" และเมื่อพวกเขาถามว่า "ชิ้นงานตัวอย่างและแบบอย่างคืออะไร?" เจ้าก็กล่าวว่า "พวกเราเป็นมวลมนุษย์ที่เป็นกบฏและโสมมที่สุด พวกเราได้ถูกซาตานทำให้เสื่อมทรามอย่างลึกซึ้ง และพวกเราเป็นเนื้อหนังที่ล้าหลังและต่ำต้อยที่สุด พวกเราคือตัวอย่างชั้นเอกของพวกที่เคยถูกซาตานใช้ วันนี้พวกเราได้รับการเลือกสรรจากพระเจ้าให้เป็นลำดับแรกท่ามกลางมวลมนุษย์ที่จะถูกพิชิต และพวกเราได้มองเห็นพระอุปนิสัยที่ชอบธรรมของพระเจ้าและได้สืบทอดพระสัญญาของพระองค์ พวกเรากำลังได้รับการช่วงใช้เพื่อพิชิตผู้คนให้มากขึ้น ดังนั้นพวกเราจึงเป็นชิ้นงานตัวอย่างและแบบอย่างของบรรดาผู้ที่ถูกพิชิตท่ามกลางมวลมนุษย์" ไม่มีคำพยานใดที่ดีไปกว่าคำพูดเหล่านี้ และนี่คือประสบการณ์ที่ดีที่สุดของเจ้า

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, วิธีที่ขั้นตอนที่สองของพระราชกิจแห่งการพิชิตชัยสัมฤทธิ์ผล

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger