พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเปิดโปงความเสื่อมทรามของมวลมนุษย์ | บทตัดตอน 304

วันที่ 24 เดือน 10 ปี 2020

มนุษย์ทุกคนปรารถนาที่จะเห็นโฉมพระพักตร์แท้จริงของพระเยซูและทุกคนอยากอยู่กับพระองค์ เราไม่คิดว่าพี่น้องชายหรือหญิงคนใดจะกล่าวว่าพวกเขาไม่ปรารถนาที่จะเห็นหรืออยู่กับพระเยซู ก่อนที่พวกเจ้าจะได้เห็นพระเยซู—ก่อนที่พวกเจ้าจะได้เห็นพระเจ้าผู้ทรงจุติมาเป็นมนุษย์—พวกเจ้าคงน่าจะฟุ้งซ่านอยู่กับแนวคิดต่างๆ นานาทุกชนิด ตัวอย่างเช่นที่เกี่ยวกับการทรงปรากฏของพระเยซู วิธีที่พระองค์ตรัส วิถีชีวิตของพระองค์ และอื่นๆ เป็นต้น แต่ทันทีที่พวกเจ้าได้เห็นพระองค์จริงๆ แนวคิดของพวกเจ้าจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้? พวกเจ้าปรารถนาที่จะรู้หรือไม่? การขบคิดของมนุษย์ไม่อาจมองข้ามได้ ซึ่งก็จริง—แต่ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อแท้ของพระคริสต์ไม่ยอมให้มีการดัดแปลงแก้ไขโดยมนุษย์ พวกเจ้าคิดว่าพระคริสต์ทรงเป็นอมตะหรือนักปราชญ์ แต่ไม่มีใครเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นมนุษย์ปกติที่ทรงครองเนื้อแท้ของพระเจ้า เมื่อเป็นเช่นนั้นผู้คนมากมายที่โหยหาทั้งทิวาและราตรีที่จะได้เห็นพระเจ้านั้น อันที่จริงแล้วเป็นศัตรูของพระเจ้า และเข้ากันไม่ได้กับพระองค์ นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดในส่วนของมนุษย์หรอกหรือ? แม้แต่ในขณะนี้ พวกเจ้าก็ยังคงคิดว่าการเชื่อและความจงรักภักดีของพวกเจ้าเพียงพอแล้วที่จะทำให้เจ้าคู่ควรที่จะได้เห็นโฉมพระพักตร์ของพระคริสต์ แต่เราขอเตือนสติให้พวกเจ้าตระเตรียมตัวเองให้พร้อมด้วยสิ่งต่างๆ ที่สัมพันธ์กับชีวิตจริงมากขึ้น! เพราะในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ผู้คนมากมายที่เข้ามาพบปะติดต่อกับพระคริสต์ได้ล้มเหลวหรือจะล้มเหลว พวกเขาทั้งหมดแสดงบทบาทของพวกฟาริสี อะไรหรือคือเหตุผลของความล้มเหลวของพวกเจ้า? แน่นอนว่ามันเป็นเพราะว่า ในมโนคติที่หลงผิดของพวกเจ้า พระเจ้าทรงสูงส่งและควรแก่การเลื่อมใส แต่ความจริงมิได้เป็นดั่งเช่นที่มนุษย์ปรารถนา พระคริสต์ไม่เพียงไม่ทรงสูงส่ง แต่พระองค์ทรงเล็กเป็นพิเศษ พระองค์ไม่เพียงทรงเป็นมนุษย์ แต่พระองค์ทรงเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง พระองค์ทรงไม่เพียงไม่สามารถเสด็จขึ้นไปสู่สวรรค์ แต่พระองค์ยังไม่ทรงสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระบนแผ่นดินโลก และเมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้คนก็ปฏิบัติต่อพระองค์เหมือนกับที่พวกเขาจะทำกับมนุษย์ธรรมดา พวกเขาปฏิบัติต่อพระองค์อย่างไม่มีพิธีรีตองเมื่อพวกเขาอยู่กับพระองค์ และพูดจากับพระองค์อย่างไม่เอาใจใส่ และในระหว่างนั้นก็ยังคงรอคอยการทรงมาถึงของ "พระคริสต์เที่ยงแท้" พวกเจ้าคิดเชื่อไปเองว่าพระคริสต์ที่ทรงมาถึงแล้วเป็นมนุษย์ธรรมดา และพระวจนะของพระองค์เป็นคำพูดของมนุษย์ธรรมดา ด้วยเหตุผลนี้ พวกเจ้าจึงไม่ได้รับสิ่งใดๆ จากพระคริสต์และกลับได้ตีแผ่ความอัปลักษณ์ของตัวเจ้าเองออกมาในที่แจ้งแทนอย่างหมดเปลือก

ก่อนที่จะพบปะติดต่อกับพระคริสต์ เจ้าอาจเชื่อว่าอุปนิสัยของเจ้าได้รับการแปลงสภาพไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว เชื่อว่าเจ้าเป็นผู้ติดตามที่จงรักภักดีของพระคริสต์ เชื่อว่าไม่มีใครมีค่าคู่ควรได้รับพระพรของพระคริสต์มากกว่าเจ้า—และเชื่อว่า เมื่อได้เดินทางไปบนถนนหลายสาย ทำงานไปมากมายและผลิตดอกผลมากมายออกมา เจ้าจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับมงกุฎในท้ายที่สุดอย่างแน่นอน แม้กระนั้น มีความจริงข้อหนึ่งที่เจ้าอาจยังไม่รู้ กล่าวคือ อุปนิสัยอันเสื่อมทรามของมนุษย์ และความเป็นกบฏและการต้านทานของเขาถูกเปิดโปงเมื่อเขาเห็นพระคริสต์ และความเป็นกบฏและการต้านทานที่ถูกเปิดโปงในเวลานี้นั้น ถูกเปิดโปงโดยเบ็ดเสร็จและอย่างหมดเปลือกยิ่งกว่าเวลาอื่นใด มันเป็นเพราะพระคริสต์ทรงเป็นบุตรมนุษย์—บุตรมนุษย์คนหนึ่งซึ่งมีความเป็นมนุษย์ตามปกติ—มนุษย์จึงไม่ให้เกียรติและไม่เคารพพระองค์ มันเป็นเพราะพระเจ้าทรงมีชีวิตอยู่ในเนื้อหนังซึ่งการเป็นกบฏของมนุษย์ถูกค้นพบอย่างทะลุปรุโปร่งและในรายละเอียดที่แจ่มชัดยิ่งนัก ดังนั้นเราจึงบอกเลยว่าการเสด็จมาของพระคริสต์ได้ขุดคุ้ยความเป็นกบฏทั้งหมดของมวลมนุษย์และเผยให้เห็นธรรมชาติของมนุษยชาติอย่างเด่นชัด สิ่งนี้เรียกว่า "ล่อเสือลงจากภูเขา" และ "ล่อหมาป่าออกจากถ้ำของมัน" เจ้ากล้าหรือไม่ที่จะบังอาจพูดว่าเจ้าจงรักภักดีต่อพระเจ้า? เจ้ากล้าหรือไม่ที่จะบังอาจพูดว่าเจ้าแสดงความเชื่อฟังครบถ้วนต่อพระเจ้า? เจ้ากล้าหรือไม่ที่จะบังอาจพูดว่าเจ้าเป็นกบฏ? บางคนจะพูดว่า: "เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าทรงจัดวางให้ข้าพระองค์อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ข้าพระองค์มักจะยอมตามเสมอโดยไม่ปริบ่นสักคำ และยิ่งไปกว่านั้น ข้าพระองค์ไม่ฟุ้งซ่านในมโนคติอันหลงผิดเกี่ยวกับพระเจ้าเลย" บางคนจะพูดว่า: "สิ่งใดก็ตามที่พระเจ้าทรงมอบเป็นภารกิจให้ข้าทำ ข้าพระองค์จะทำให้ดีสุดความสามารถของข้าพระองค์ และจะไม่มีวันทำพลาด" ในกรณีนั้น เราขอถามพวกเจ้าดังนี้: พวกเจ้าสามารถเข้ากันได้กับพระคริสต์เมื่อตอนที่เจ้ามีชีวิตอยู่เคียงข้างพระองค์หรือไม่? และเจ้าจะเข้ากันได้กับพระองค์นานเท่าใด? หนึ่งวัน? สองวัน? หนึ่งชั่วโมง? สองชั่วโมง? ความเชื่อของพวกเจ้าอาจจะน่าชมเชย แต่พวกเจ้าไม่ได้มีในเรื่องของความมุมานะมากนัก ทันทีที่เจ้ากำลังมีชีวิตอยู่กับพระคริสต์จริงๆ ความมองตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอและความสำคัญตนของเจ้าจะถูกตีแผ่ผ่านคำพูดและการกระทำของเจ้าทีละเล็กทีละน้อย และเช่นเดียวกัน ความอยากอันหยิ่งยโสของเจ้า กรอบความคิดที่ดื้อแพ่งและความไม่สมดังใจของเจ้าก็จะถูกเปิดเผยอย่างแน่นอนด้วยเช่นกัน ในที่สุด ความโอหังของเจ้าจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเจ้าไม่ลงรอยกับพระคริสต์มากจนเข้ากันไม่ได้เสมือนน้ำกับไฟ และเมื่อนั้น ธรรมชาติของเจ้าจะถูกตีแผ่อย่างหมดเปลือก ณ เวลานั้น มโนคติที่หลงผิดของเจ้าจะไม่สามารถถูกปิดบังได้อีกต่อไป ปัญหากวนใจของเจ้าก็จะโผล่ออกมาอย่างแน่นอนเช่นกัน และความเป็นมนุษย์ต่ำทรามของเจ้าก็จะถูกตีแผ่อย่างหมดเปลือก แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เจ้ายังคงปฏิเสธที่จะรับรู้ความเป็นกบฏของเจ้าเอง แต่กลับเชื่อว่าพระคริสต์เช่นนี้ไม่ง่ายที่มนุษย์จะยอมรับ ว่าพระองค์ทรงเข้มงวดเกินไปกับมนุษย์ และว่าเจ้าจะนบนอบอย่างสุดใจหากพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ที่พระทัยดีกว่านี้ พวกเจ้าเชื่อว่าการเป็นกบฏของพวกเจ้านั้นสมเหตุสมผล และพวกเจ้าเพียงแค่กบฏต่อพระองค์เมื่อพระองค์ทรงผลักดันพวกเจ้ามากเกินไป เจ้าไม่เคยพิจารณาเลยแม้สักครั้งว่าเจ้าไม่ได้มองพระคริสต์ในฐานะพระเจ้า ว่าเจ้าขาดความตั้งใจที่จะเชื่อฟังพระองค์ ตรงกันข้าม เจ้ากลับยืนกรานหัวชนฝาให้พระคริสต์ทรงพระราชกิจตามความปรารถนาของเจ้าเอง และทันทีที่พระองค์ทรงทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ขัดแย้งกับการคิดไปเองของเจ้า เจ้าก็เชื่อว่าพระองค์ไม่ใช่พระเจ้าแต่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง มีคนไม่มากนักท่ามกลางพวกเจ้าใช่หรือไม่ที่ได้ชิงดีชิงเด่นกับพระองค์ด้วยวิธีนี้? จะว่าไปแล้ว ใครหรือที่พวกเจ้าเชื่อ? และพวกเจ้าแสวงหาด้วยวิธีใดกันหรือ?

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, พวกที่เข้ากันไม่ได้กับพระคริสต์คือปรปักษ์ของพระเจ้าอย่างแน่นอน

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger