พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเข้าสู่ชีวิต | บทตัดตอน 404

วันที่ 16 เดือน 09 ปี 2020

เมื่อพระวจนะของพระเจ้าเผยออกมา เจ้าควรรับพระวจนะเหล่านั้นไว้ทันที และกินและดื่มพระวจนะเหล่านั้น ไม่ว่าเจ้าจะเข้าใจมากเพียงใด มุมมองหนึ่งซึ่งเจ้าจำต้องยึดมั่นก็คือการกินและการดื่ม การรู้ และการปฏิบัติพระวจนะของพระองค์ นี่คือบางสิ่งที่เจ้าควรสามารถทำได้ อย่าไปกังวลว่าวุฒิภาวะของเจ้าจะกลายเป็นยิ่งใหญ่ได้เพียงใด แค่มุ่งเน้นไปที่การกินและการดื่มพระวจนะของพระองค์ นี่คือสิ่งที่มนุษย์ควรให้ความร่วมมือ โดยหลักแล้ว ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของเจ้านั้นก็เป็นไปเพื่อพยายามเข้าสู่ความเป็นจริงของการกินและการดื่มพระวจนะของพระเจ้า และการนำพระวจนะเหล่านั้นไปปฏิบัติ ไม่ใช่ธุระของเจ้าที่จะต้องมุ่งเน้นไปที่อะไรอื่น บรรดาผู้นำของคริสตจักรควรสามารถนำบรรดาพี่น้องชายหญิงของตนทั้งหมดได้ เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้ว่าจะกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้าอย่างไร นี่คือความรับผิดชอบของผู้นำของคริสตจักรทุกๆ คน ไม่ว่าพวกเขาจะอายุน้อยหรืออายุมาก ทั้งหมดควรคำนึงถึงการกินและการดื่มพระวจนะของพระเจ้าในฐานะนัยสำคัญอันยิ่งใหญ่ และควรมีพระวจนะของพระองค์ไว้ในหัวใจของพวกเขา การเข้าสู่ความเป็นจริงนี้หมายถึงการเข้าสู่ยุคแห่งราชอาณาจักร วันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากการกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้า และรู้สึกว่าพระวจนะของพระองค์นั้นสดใหม่ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด นี่หมายความว่าพวกเขากำลังเริ่มต้นที่จะมุ่งมั่นไปในร่องครรลองที่ถูกต้อง พระเจ้าทรงใช้พระวจนะในการปฏิบัติพระราชกิจของพระองค์และจัดเตรียมให้แก่มนุษย์ เมื่อทุกคนโหยหาและกระหายต่อพระวจนะของพระเจ้า มนุษยชาติจะเข้าสู่โลกแห่งพระวจนะของพระองค์

พระเจ้าได้ตรัสไว้มากมาย เจ้าได้มารู้มากเพียงใดแล้ว? เจ้าได้เข้าสู่ไปมากเพียงใดแล้ว? หากผู้นำของคริสตจักรไม่ได้นำบรรดาพี่น้องชายหญิงของตนเข้าไปสู่ความเป็นจริงของพระวจนะของพระเจ้า เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็จะได้ละเลยต่อหน้าที่ของตน และจะล้มเหลวในการปฏิบัติความรับผิดชอบของตนให้ลุล่วง ไม่ว่าความเข้าใจของเจ้าจะลึกซึ้งหรือผิวเผินหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าระดับความเข้าใจของเจ้าจะเป็นเช่นไร เจ้าจำต้องรู้ว่าจะกินและดื่มพระวจนะของพระองค์อย่างไร เจ้าจำต้องให้ความสนใจต่อพระวจนะของพระองค์อย่างใหญ่หลวง และเข้าใจถึงความสำคัญและความจำเป็นของการกินและการดื่มพระวจนะเหล่านั้น เมื่อพระเจ้าได้มีการตรัสไว้มากมายเหลือเกินแล้ว หากเจ้าไม่กินและดื่มพระวจนะของพระองค์ หรือพยายามที่จะแสวงหา หรือนำพระวจนะของพระองค์ไปปฏิบัติ นี่ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าการเชื่อในพระเจ้า เนื่องจากเจ้าเชื่อในพระเจ้า เช่นนั้นแล้วเจ้าจำต้องกินและดื่มพระวจนะของพระองค์ ได้รับประสบการณ์กับพระวจนะของพระองค์ และใช้ชีวิตตามพระวจนะของพระองค์ การนี้เท่านั้นที่จะสามารถเรียกได้ว่าการเชื่อในพระเจ้า! หากเจ้ากล่าวว่าเจ้าเชื่อในพระเจ้าด้วยปากของเจ้า และกระนั้นก็ยังไร้ความสามารถที่จะนำพระวจนะใดๆ ของพระองค์ไปปฏิบัติหรือสร้างความเป็นจริงใดๆ นี่ก็ไม่ได้เรียกว่าการเชื่อในพระเจ้า แทนที่จะเป็นเช่นนั้น มันกลับเป็น "การแสวงหาขนมปังเพื่อตอบสนองความหิว" การพูดถึงแต่คำพยานที่ไม่สลักสำคัญ สิ่งไร้ประโยชน์ทั้งหลาย และเรื่องฉาบฉวยต่างๆ โดยที่ไม่ได้ครอบครองความเป็นจริงแม้เพียงเล็กน้อย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ประกอบขึ้นเป็นการเชื่อในพระเจ้า และเจ้าก็แค่ยังไม่จับความเข้าใจการเชื่อในพระเจ้าอย่างถูกวิธีเลย เหตุใดเจ้าจึงต้องกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะหรือ? หากเจ้าไม่กินและดื่มพระวจนะของพระองค์แต่กลับแสวงหาที่จะขึ้นสู่สวรรค์เท่านั้น นั่นใช่การเชื่อในพระเจ้าหรือไม่? อะไรคือขั้นตอนแรกที่ผู้เชื่อในพระเจ้าควรดำเนินการ? พระเจ้าทรงทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อมโดยเส้นทางใด? เจ้าจะสามารถได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยปราศจากการกินและการดื่มพระวจนะของพระเจ้าได้หรือไม่? เจ้าสามารถได้รับการพิจารณาว่าเป็นบุคคลของราชอาณาจักรโดยปราศจากพระวจนะของพระเจ้าที่จะใช้เป็นความเป็นจริงของเจ้าได้หรือไม่? การเชื่อในพระเจ้า แท้จริงแล้วหมายถึงอะไรกันแน่? อย่างน้อยที่สุด ผู้เชื่อในพระเจ้าควรมีความประพฤติดีภายนอก ที่สำคัญที่สุดก็คือมีการครอบครองพระวจนะของพระเจ้า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เจ้าไม่มีทางหันหนีจากพระวจนะของพระองค์ได้ การรู้จักพระเจ้าและการทำเจตนารมณ์ของพระองค์ให้ลุล่วง ล้วนแล้วแต่สัมฤทธิ์ได้โดยผ่านพระวจนะของพระองค์ ในอนาคตนั้น ทุกๆ ชนชาติ นิกาย ศาสนา และภาคส่วนจะถูกพิชิตผ่านพระวจนะของพระเจ้า พระเจ้าจะตรัสโดยตรง และผู้คนทั้งหมดจะกุมพระวจนะของพระเจ้าไว้ในมือของตน และด้วยวิถีทางนี้ มนุษยชาติจะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม พระวจนะของพระเจ้าแผ่ซ่านแทรกซึมไปทั่วทั้งภายในและภายนอก มนุษยชาติจะกล่าวพระวจนะของพระเจ้าด้วยปากของพวกเขา ปฏิบัติโดยสอดคล้องกับพระวจนะของพระเจ้า และเก็บรักษาพระวจนะของพระเจ้าไว้ภายใน ยังคงอาบแช่อยู่ในพระวจนะของพระเจ้าทั้งภายในและภายนอก ด้วยเหตุนี้เอง มนุษย์จึงจะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม พวกที่ทำเจตนารมณ์ของพระเจ้าให้ลุล่วงและสามารถเป็นพยานต่อพระองค์ได้ เหล่านี้คือผู้คนที่มีพระวจนะของพระเจ้าเป็นความเป็นจริงของตน

การเข้าสู่ยุคพระวจนะ—ยุคอาณาจักรพันปี—เป็นงานที่กำลังถูกทำให้สัมฤทธิ์ผลในวันนี้ นับจากนี้ไป จงปฏิบัติการเข้าร่วมในการสามัคคีธรรมเกี่ยวกับพระวจนะของพระเจ้า โดยวิถีทางของการกินและการดื่มรวมทั้งการได้รับประสบการณ์ในพระวจนะของพระเจ้าเท่านั้น เจ้าจึงจะสามารถใช้ชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้าได้ เจ้าจำต้องสร้างประสบการณ์ที่สัมพันธ์กับชีวิตจริงบางอย่างเพื่อโน้มน้าวใจผู้อื่น หากเจ้าไม่สามารถใช้ชีวิตตามความเป็นจริงของพระวจนะของพระเจ้าได้ ก็จะไม่มีใครเลยที่ได้รับการโน้มน้าวใจ! บรรดาผู้คนที่พระเจ้าทรงใช้สามารถใช้ชีวิตตามความเป็นจริงของพระวจนะของพระเจ้าได้ หากเจ้าไม่สามารถสร้างความเป็นจริงนี้และเป็นคำพยานต่อพระเจ้าได้ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ยังไม่ได้ทรงพระราชกิจในตัวเจ้า และเจ้ายังไม่ได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม นี่คือความสำคัญของพระวจนะของพระเจ้า เจ้ามีหัวใจที่กระหายต่อพระวจนะของพระเจ้าหรือไม่? บรรดาผู้ที่กระหายต่อพระวจนะของพระเจ้านั้นกระหายต่อความจริง และมีเพียงผู้คนเช่นนี้เท่านั้นที่ได้รับพระพรจากพระเจ้า ในอนาคต มีพระวจนะอีกมากมายที่พระเจ้าจะตรัสต่อทุกศาสนาและทุกนิกาย อันดับแรกพระองค์ตรัสและเปล่งพระสุรเสียงของพระองค์ท่ามกลางพวกเจ้าเพื่อทำให้พวกเจ้าครบบริบูรณ์ ก่อนที่จะขยับต่อไปเพื่อตรัสและเปล่งพระสุรเสียงของพระองค์ท่ามกลางคนต่างชาติทั้งหลายเพื่อพิชิตพวกเขา โดยผ่านทางพระวจนะของพระองค์ ทุกคนจะเชื่ออย่างจริงใจและอย่างถึงที่สุด โดยผ่านทางพระวจนะของพระเจ้าและวิวรณ์ของพระองค์ อุปนิสัยอันเสื่อมทรามของมนุษย์จะลดน้อยถอยลง เขาได้รับการปรากฏของมนุษย์ผู้หนึ่ง และอุปนิสัยกบฏของเขาจะบรรเทาลง พระวจนะทำงานกับมนุษย์ด้วยสิทธิอำนาจและพิชิตมนุษย์ภายในความสว่างแห่งพระเจ้า พระราชกิจที่พระเจ้าทรงปฏิบัติในยุคปัจจุบัน รวมทั้งจุดเปลี่ยนของพระราชกิจของพระองค์นั้น สามารถพบได้ทั้งหมดภายในพระวจนะของพระองค์ หากเจ้าไม่อ่านพระวจนะของพระองค์ เจ้าจะไม่เข้าใจอะไรเลย โดยผ่านการกินและการดื่มพระวจนะของพระองค์ และผ่านการเข้าร่วมในการสามัคคีธรรมกับบรรดาพี่น้องชายหญิงของเจ้าและประสบการณ์จริงของเจ้า เจ้าจะได้รับความรู้ในเรื่องพระวจนะของพระเจ้าอย่างครบถ้วน เมื่อนั้นเท่านั้นเจ้าจึงจะสามารถใช้ชีวิตตามความเป็นจริงของพระวจนะเหล่านั้นได้อย่างแท้จริง

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, ยุคแห่งราชอาณาจักรคือยุคพระวจนะ

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger