พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: บั้นปลายและบทอวสาน | บทตัดตอน 600

วันที่ 26 เดือน 01 ปี 2024

แต่เดิมนั้นไม่มีครอบครัวในหมู่มนุษยชาติ มีเพียงชายคนหนึ่งและหญิงคนหนึ่งเท่านั้น—มนุษย์สองประเภทที่แตกต่างกัน ไม่มีประเทศ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องครอบครัว แต่จากผลของความเสื่อมทรามของมนุษยชาติ ผู้คนทุกประเภทจึงได้จัดตัวพวกเขาเองให้อยู่ในแต่ละวงศ์ตระกูล ต่อมาภายหลังก็พัฒนาเป็นประเทศและชนชาติทั้งหลาย ประเทศและชนชาติทั้งหลายเหล่านี้ประกอบด้วยครอบครัวเล็กๆ และในลักษณะนี้เอง ผู้คนทุกจำพวกได้กระจายออกไปท่ามกลางเผ่าพันธุ์ที่หลากหลายตามความแตกต่างในด้านภาษาและอาณาเขต แท้ที่จริงแล้ว ไม่สำคัญว่าอาจจะมีเผ่าพันธุ์มากมายเพียงใดบนโลกนี้ มนุษยชาติมีบรรพบุรุษเพียงหนึ่งคนเท่านั้น ในปฐมกาล มีมนุษย์อยู่เพียงสองประเภทเท่านั้น และสองประเภทนี้ก็คือชายและหญิง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความก้าวหน้าของพระราชกิจของพระเจ้า ความเคลื่อนไหวของประวัติศาสตร์ และความเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ มนุษย์สองประเภทนี้ได้พัฒนาถึงระดับต่างๆ เป็นมนุษย์จำพวกต่างๆ มากยิ่งขึ้น โดยพื้นฐานแล้ว ไม่ว่าอาจจะมีเผ่าพันธุ์มากมายเพียงใดที่ประกอบขึ้นเป็นมนุษยชาติ แต่มนุษยชาติทั้งหมดยังคงเป็นการทรงสร้างของพระเจ้า ไม่สำคัญว่าผู้คนจะอยู่ในเผ่าพันธุ์ใด พวกเขาล้วนเป็นสรรพสิ่งที่ทรงสร้างของพระองค์ พวกเขาล้วนเป็นลูกหลานของอาดัมและเอวา ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยพระหัตถ์ของพระเจ้า แต่พวกเขาคือลูกหลานของอาดัมและเอวา ผู้ซึ่งพระเจ้าได้ทรงสร้างขึ้นโดยพระองค์เอง ไม่สำคัญว่าผู้คนจะอยู่ในกลุ่มของสิ่งมีชีวิตประเภทใด พวกเขาล้วนเป็นสรรพสิ่งที่ทรงสร้างของพระองค์ เมื่อพวกเขาอยู่ในกลุ่มของมนุษยชาติ ซึ่งพระเจ้าได้ทรงสร้างขึ้น บั้นปลายของพวกเขาก็คือบั้นปลายที่มนุษยชาติควรจะต้องมี และพวกเขาได้ถูกแบ่งแยกออกไปตามกฎเกณฑ์ที่จัดระเบียบมนุษย์ กล่าวคือ คนทำชั่วและคนชอบธรรมท้ายที่สุดแล้วก็ล้วนเป็นสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง สรรพสิ่งที่ทรงสร้างที่กระทำความชั่วจะถูกทำลายไปในที่สุด และสรรพสิ่งที่ทรงสร้างผู้แสดงความประพฤติที่ชอบธรรมจะรอดชีวิต นี่คือการจัดการเตรียมการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสรรพสิ่งที่ทรงสร้างสองประเภทนี้ คนทำชั่วไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าถึงแม้พวกเขาจะเป็นการทรงสร้างของพระเจ้า แต่พวกเขาได้ถูกซาตานจับไว้เนื่องจากความไม่เชื่อฟังของพวกเขา และดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถได้รับการช่วยให้รอดได้ สรรพสิ่งที่ทรงสร้างซึ่งประพฤติตัวเองอย่างชอบธรรมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าพวกเขาถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า และยังได้รับความรอดหลังจากที่ถูกซาตานทำให้เสื่อมทรามแล้ว บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาจะรอดชีวิต คนทำชั่วคือสรรพสิ่งที่ทรงสร้างผู้ซึ่งไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกเขาเป็นสรรพสิ่งทรงสร้างที่ไม่สามารถถูกช่วยให้รอดได้ และได้ถูกซาตานจับไว้โดยทั่วทั้งสิ้นแล้ว ผู้คนซึ่งกระทำความชั่วก็คือผู้คนเช่นเดียวกัน พวกเขาเป็นพวกมนุษย์ผู้ซึ่งถูกทำให้เสื่อมทรามจนถึงที่สุด และเป็นผู้ซึ่งไม่สามารถถูกช่วยให้รอดได้ ในฐานะที่พวกเขาเป็นสรรพสิ่งที่ทรงสร้างเช่นเดียวกันนั้น ผู้คนที่ประพฤติชอบธรรมก็จะถูกทำให้เสื่อมทรามด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาเป็นพวกมนุษย์ผู้ซึ่งเต็มใจที่จะหลุดพ้นจากอุปนิสัยเสื่อมทรามของตนและได้กลับกลายเป็นมีความสามารถที่จะนบนอบต่อพระเจ้าได้ ผู้คนที่ประพฤติชอบธรรมมิได้เปี่ยมล้นด้วยความชอบธรรม แต่ทว่าพวกเขาได้รับความรอดและหลุดพ้นจากอุปนิสัยชั่วร้ายของพวกเขา พวกเขาสามารถนบนอบต่อพระเจ้า พวกเขาจะตั้งมั่นในท้ายที่สุด แต่ทว่านั่นมิใช่การกล่าวว่าพวกเขาไม่เคยถูกซาตานทำให้เสื่อมทราม ภายหลังจากที่พระราชกิจของพระเจ้าจบสิ้นลง ในหมู่สรรพสิ่งที่ทรงสร้างของพระองค์ทั้งหมดนั้น จะมีบรรดาผู้ซึ่งจะถูกทำลายและบรรดาผู้ซึ่งจะรอดชีวิต นี่คือแนวโน้มที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้แห่งงานการบริหารจัดการของพระองค์ ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้ คนทำชั่วทั้งหลายจะไม่ถูกปล่อยให้รอดชีวิต บรรดาผู้ซึ่งนบนอบและติดตามพระเจ้าก็มั่นใจได้ว่าจะรอดชีวิตในท้ายที่สุด เนื่องจากพระราชกิจนี้คือการบริหารจัดการของมนุษยชาติ จึงจะมีบรรดาผู้ซึ่งหลงเหลืออยู่และบรรดาผู้ซึ่งถูกกำจัดไป เหล่านี้คือบทอวสานที่แตกต่างกันสำหรับผู้คนประเภทที่แตกต่างกัน และบทอวสานเหล่านั้นคือการจัดการเตรียมการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสรรพสิ่งที่ทรงสร้างของพระเจ้า การจัดการเตรียมการขั้นสุดท้ายของพระเจ้าสำหรับมวลมนุษย์คือการแบ่งแยกพวกเขาโดยการตัดขาดครอบครัว บดขยี้ชนชาติทั้งหลาย และสลายพรมแดนของชาติในการจัดการเตรียมการที่ไม่มีครอบครัวหรือพรมแดนของชาติ เพราะในที่สุดแล้วพวกมนุษย์นั้นสืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษหนึ่งเดียวและเป็นการทรงสร้างของพระเจ้า สรุปว่า สรรพสิ่งที่ทรงสร้างที่ทำชั่วจะถูกทำลายทั้งหมด และสรรพสิ่งที่ทรงสร้างที่เชื่อฟังพระเจ้าจะรอดชีวิต ในหนทางนี้ จะไม่มีครอบครัว ไม่มีประเทศ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีชนชาติในเวลาของการหยุดพักที่จะมาถึง มนุษยชาติประเภทนี้จะเป็นมนุษยชาติประเภทที่บริสุทธิ์ที่สุด อาดัมและเอวาถูกสร้างขึ้นมาโดยดั้งเดิมเพื่อที่มนุษยชาติจะได้ดูแลทุกสรรพสิ่งบนแผ่นดินโลก โดยดั้งเดิมนั้นพวกมนุษย์เป็นนายแห่งทุกสรรพสิ่ง เจตนารมณ์ของพระยาห์เวห์ในการสร้างพวกมนุษย์นั้นคือเพื่อปล่อยให้พวกเขาดำรงอยู่บนแผ่นดินโลก และเพื่อดูแลเอาใจใส่ทุกสรรพสิ่งบนนั้น เนื่องจากมนุษยชาติมิได้ถูกทำให้เสื่อมทรามและไม่มีความสามารถในการกระทำความชั่วโดยดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกมนุษย์กลายเป็นถูกทำให้เสื่อมทราม พวกเขาก็ไม่ได้เป็นผู้ดูแลเอาใจใส่ทุกสรรพสิ่งอีกต่อไป จุดประสงค์ของความรอดของพระเจ้าคือเพื่อฟื้นคืนหน้าที่นี้ของมนุษยชาติ เพื่อฟื้นคืนเหตุผลดั้งเดิมและการเชื่อฟังดั้งเดิมของมวลมนุษย์ ดังนั้น มนุษยชาติในการหยุดพักจึงจะเป็นตัวแทนที่แท้จริงของผลที่พระเจ้าทรงหวังที่จะบรรลุกับพระราชกิจแห่งความรอดของพระองค์ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นชีวิตดังเช่นชีวิตในสวนเอเดนอีกต่อไป แต่แก่นแท้ของทั้งสองนั้นจะเหมือนกัน มนุษยชาติจะเพียงแค่ไม่ใช่ตัวตนที่ไม่ถูกทำให้เสื่อมทรามเมื่อก่อนนี้อีกแล้วเท่านั้น แต่เป็นมนุษยชาติที่ได้กลายเป็นถูกทำให้เสื่อมทรามและต่อมาได้รับความรอดต่างหาก ผู้คนเหล่านี้ซึ่งได้รับความรอดจะเข้าไปสู่การหยุดพักในท้ายที่สุด (นั่นคือ หลังจากที่พระราชกิจของพระเจ้าได้เสร็จสิ้นแล้ว) ในทำนองเดียวกัน บทอวสานของบรรดาผู้ซึ่งได้ถูกลงโทษก็จะถูกเปิดเผยโดยครบบริบูรณ์ในที่สุดด้วยเช่นกัน และพวกเขาจะถูกทำลายหลังจากที่พระราชกิจของพระเจ้าได้จบสิ้นแล้วเช่นกัน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หลังจากที่พระราชกิจของพระองค์เสร็จสิ้นแล้วนั้น บรรดาคนทำชั่วและบรรดาผู้ซึ่งถูกช่วยให้รอดจะถูกเปิดโปงทั้งหมด ด้วยเพราะพระราชกิจแห่งการเปิดโปงผู้คนประเภทต่างๆ ทั้งหมด (ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนทำชั่วหรืออยู่ในหมู่ผู้ถูกช่วยให้รอด) จะถูกดำเนินการกับทุกคนโดยพร้อมกัน คนทำชั่วจะถูกกำจัด และบรรดาผู้ที่ได้รับอนุญาตให้คงเหลืออยู่ก็จะถูกเปิดเผยโดยพร้อมกัน เพราะฉะนั้น บทอวสานของผู้คนประเภทต่างๆ ทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในเวลาเดียวกัน พระเจ้าจะไม่ทรงอนุญาตให้กลุ่มผู้คนที่ถูกนำมาสู่ความรอดเข้าไปสู่การหยุดพักก่อนที่จะจัดสรรคนทำชั่วทั้งหลาย และพิพากษาหรือลงโทษพวกเขาทีละน้อย ที่จะไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เมื่อคนทำชั่วทั้งหลายถูกทำลายและบรรดาผู้ที่สามารถรอดชีวิตได้เข้าสู่การหยุดพัก พระราชกิจของพระเจ้าทั่วทั้งจักรวาลก็จะครบบริบูรณ์ จะไม่มีลำดับความสำคัญท่ามกลางบรรดาผู้ซึ่งได้รับพระพรและบรรดาผู้ซึ่งทนทุกข์ความโชคร้าย บรรดาผู้ซึ่งได้รับพระพรจะมีชีวิตตลอดไป ในขณะที่บรรดาผู้ซึ่งทนทุกข์ความโชคร้ายก็จะพินาศย่อยยับไปจนตราบชั่วนิรันดร์ สองขั้นตอนเหล่านี้ของพระราชกิจจะถูกทำให้ครบบริบูรณ์โดยพร้อมกัน แน่นอนว่าเป็นเพราะการดำรงอยู่ของผู้คนที่ไม่เชื่อฟัง ทำให้ความชอบธรรมของบรรดาผู้ที่นบนอบจะต้องถูกเปิดเผย และแน่นอนว่าเป็นเพราะมีบรรดาผู้ได้รับพระพร ทำให้ความโชคร้ายที่ประสบกับคนทำชั่วทั้งหลายเนื่องจากพฤติกรรมเลวทรามของพวกเขาจะต้องถูกเปิดเผย หากพระเจ้าไม่ทรงเปิดโปงคนทำชั่วแล้วไซร้ เช่นนั้นแล้วผู้คนที่นบนอบต่อพระเจ้าโดยจริงใจก็คงจะไม่มีวันได้เห็นเดือนเห็นตะวัน หากพระเจ้าไม่ทรงนำบรรดาผู้ซึ่งนบนอบต่อพระองค์ไปยังบั้นปลายที่เหมาะสมแล้วไซร้ เช่นนั้นแล้วผู้คนที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้าก็คงจะไม่สามารถได้รับการลงทัณฑ์อันสาสม นี่คือกระบวนการในพระราชกิจของพระเจ้า หากพระองค์ไม่ทรงดำเนินพระราชกิจแห่งการลงโทษความชั่วและให้บำเหน็จรางวัลความดีแล้วไซร้ เช่นนั้นแล้วสรรพสิ่งที่ทรงสร้างของพระองค์ก็คงจะไม่มีวันมีความสามารถที่จะเข้าไปสู่บั้นปลายแต่ละอย่างของพวกเขาได้ ทันทีที่มวลมนุษย์ได้เข้าสู่การหยุดพัก คนทำชั่วทั้งหลายจะถูกทำลายและมนุษยชาติทั้งหมดจะได้อยู่ในร่องครรลองที่ถูกต้อง ผู้คนประเภทต่างๆ ทั้งหมดจะอยู่กับประเภทของตนเองโดยสอดคล้องกับหน้าที่ที่พวกเขาควรดำเนินการ นี่เท่านั้นจะเป็นวันแห่งการหยุดพักของมนุษยชาติ มันจะเป็นแนวโน้มอันหลีกเลี่ยงมิได้สำหรับพัฒนาการของมนุษยชาติ และเฉพาะเมื่อมนุษยชาติเข้าสู่การหยุดพักแล้วเท่านั้นที่ความสำเร็จลุล่วงที่ยิ่งใหญ่และขั้นสูงสุดของพระเจ้าจะมาถึงซึ่งความครบบริบูรณ์ นี่จะเป็นตอนสุดท้ายแห่งพระราชกิจของพระเจ้า พระราชกิจนี้จะทำให้ชีวิตแห่งเนื้อหนังอันต่ำทรามของมนุษยชาติทั้งหมดจบสิ้นลง รวมทั้งชีวิตของมนุษยชาติที่เสื่อมทราม มนุษย์จะได้เข้าสู่ดินแดนใหม่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่ามนุษย์ทั้งหมดจะดำรงชีวิตในเนื้อหนัง แต่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญระหว่างแก่นแท้ของชีวิตกับชีวิตของมนุษยชาติที่เสื่อมทราม นัยสำคัญแห่งการดำรงอยู่กับนัยสำคัญแห่งการดำรงอยู่ของมนุษยชาติที่เสื่อมทรามก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน แม้ว่านี่จะไม่ใช่ชีวิตของบุคคลประเภทใหม่ แต่สามารถกล่าวได้ว่ามันเป็นชีวิตของมนุษยชาติที่ได้รับความรอด รวมทั้งเป็นชีวิตที่ได้รับสภาวะความเป็นมนุษย์และเหตุผลกลับมาอีกครั้ง เหล่านี้คือผู้คนซึ่งครั้งหนึ่งเคยไม่เชื่อฟังพระเจ้า ผู้ซึ่งถูกพระเจ้าพิชิตแล้วและหลังจากนั้นจึงได้ถูกพระองค์ช่วยให้รอด เหล่านี้คือผู้คนซึ่งไม่ให้เกียรติพระเจ้าและในเวลาต่อมาก็ได้เป็นพยานต่อพระองค์ การดำรงอยู่ของพวกเขาหลังจากก้าวผ่านการทดสอบของพระองค์และรอดชีวิตแล้วนั้น เป็นการดำรงอยู่ที่มีความหมายที่สุด พวกเขาคือผู้คนซึ่งได้เป็นพยานต่อพระเจ้าต่อหน้าซาตาน และเป็นมนุษย์ผู้ซึ่งเหมาะที่จะมีชีวิตอยู่ พวกที่จะถูกทำลายคือผู้ที่ไม่สามารถยืนหยัดเป็นพยานต่อพระเจ้าได้และไม่เหมาะที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ความย่อยยับของพวกเขาจะเป็นผลจากพฤติกรรมที่เลวทรามของพวกเขา และการทำลายล้างเช่นนั้นคือบั้นปลายที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา ในอนาคต เมื่อมนุษยชาติเข้าสู่อาณาจักรที่สวยงามแล้ว จะไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ระหว่างบิดากับบุตรหญิง หรือระหว่างมารดากับบุตรชายที่ผู้คนจินตนาการว่าพวกเขาจะได้พบเลย ในเวลานั้น มนุษย์แต่ละคนจะติดตามประเภทของพวกเขาเอง และครอบครัวทั้งหลายจะได้ถูกทำให้แตกสลายไปแล้ว เมื่อล้มเหลวโดยสิ้นเชิงแล้ว ซาตานก็จะไม่รบกวนมนุษย์อีกเลย และพวกมนุษย์ก็จะไม่มีอุปนิสัยที่เสื่อมทรามแบบซาตานอีกต่อไป บรรดาผู้คนที่ไม่เชื่อฟังจะได้ถูกทำลายไปแล้ว และผู้คนซึ่งนบนอบเท่านั้นที่จะหลงเหลืออยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้ ครอบครัวส่วนน้อยมากที่จะรอดชีวิตโดยครบถ้วน แล้วความสัมพันธ์ทางกายภาพจะสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้อย่างไร? ชีวิตแห่งเนื้อหนังก่อนหน้านี้ของมนุษยชาติจะถูกห้ามโดยสิ้นเชิง แล้วความสัมพันธ์ทางกายภาพจะสามารถมีอยู่ระหว่างผู้คนได้อย่างไร? เมื่อไม่มีอุปนิสัยที่เสื่อมทรามแบบซาตานแล้ว ชีวิตมนุษย์จะไม่เป็นชีวิตแบบเก่าในอดีตอีกต่อไป แต่ทว่าจะเป็นชีวิตใหม่ต่างหาก บิดามารดาจะสูญเสียลูกๆ และลูกๆ จะสูญเสียบิดามารดา สามีจะสูญเสียภรรยา และภรรยาจะสูญเสียสามี ความสัมพันธ์ทางกายภาพมีอยู่ระหว่างผู้คนในปัจจุบัน แต่ความสัมพันธ์เหล่านั้นจะไม่มีอยู่อีกต่อไปทันทีที่ทุกคนได้เข้าสู่การหยุดพัก เฉพาะมนุษยชาติจำพวกนี้เท่านั้นที่จะมีความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ เฉพาะมนุษยชาติจำพวกนี้เท่านั้นที่สามารถนมัสการพระเจ้าได้

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, พระเจ้าและมนุษย์จะเข้าสู่การหยุดพักด้วยกัน

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger