พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: พระราชกิจสามช่วงระยะ | บทตัดตอน 40

วันที่ 07 เดือน 01 ปี 2024

แต่ละเวลาที่พระเจ้าเสด็จมายังแผ่นดินโลก พระองค์ทรงเปลี่ยนพระนามของพระองค์ เพศของพระองค์ พระฉายาของพระองค์ และพระราชกิจของพระองค์ พระองค์มิทรงกระทำซ้ำพระราชกิจของพระองค์ พระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงใหม่อยู่เสมอและไม่มีวันเก่า เมื่อพระองค์เสด็จมาก่อนหน้านี้ พระองค์ทรงได้รับการเรียกขานว่าพระเยซู พระองค์จะยังคงสามารถได้รับการเรียกขานว่าพระเยซูในเวลานี้ที่พระองค์เสด็จมาอีกครั้งได้อย่างไร? เมื่อพระองค์เสด็จมาก่อนหน้านี้ พระองค์ทรงเป็นชาย พระองค์จะทรงสามารถเป็นชายอีกครั้งในครั้งนี้ได้หรือ? พระราชกิจของพระองค์เมื่อพระองค์ได้เสด็จมาในระหว่างยุคพระคุณคือการถูกตอกตรึงกับกางเขน เมื่อพระองค์เสด็จมาอีกครั้ง พระองค์จะยังคงสามารถไถ่มวลมนุษย์จากบาปได้หรือ? พระองค์จะทรงสามารถถูกตอกตรึงกับกางเขนอีกครั้งได้หรือ? นั่นจะมิใช่การทำซ้ำพระราชกิจของพระองค์หรอกหรือ? เจ้าไม่รู้หรือว่าพระเจ้าทรงใหม่อยู่เสมอและไม่มีวันเก่า? มีบรรดาผู้ที่กล่าวว่าพระเจ้ามิอาจทรงเปลี่ยนแปลงได้ การนั้นถูกต้อง แต่มันหมายถึงการมิอาจเปลี่ยนแปลงได้ของพระอุปนิสัยและเนื้อแท้ของพระเจ้า การเปลี่ยนแปลงพระนามและพระราชกิจของพระองค์มิได้พิสูจน์ว่าเนื้อแท้ของพระองค์ได้ปรับเปลี่ยนไปแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่ง พระเจ้าจะยังทรงเป็นพระเจ้าอยู่เสมอ และการนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง หากเจ้ากล่าวว่าพระราชกิจของพระเจ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วไซร้ เช่นนั้นแล้วพระองค์จะทรงสามารถเสร็จสิ้นแผนการบริหารจัดการหกพันปีของพระองค์ได้กระนั้นหรือ? เจ้ารู้เพียงแค่ว่าพระเจ้าทรงไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดไป แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าพระเจ้าทรงใหม่อยู่เสมอและไม่มีวันเก่า? หากพระราชกิจของพระเจ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วไซร้ พระองค์จะทรงสามารถได้นำทางมวลมนุษย์มาตลอดหนทางจนถึงวันปัจจุบันได้กระนั้นหรือ? หากพระเจ้าทรงมิสามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้วไซร้ เหตุใดจึงเป็นไปได้ว่าพระองค์ได้ทรงพระราชกิจของสองยุคแล้ว? พระราชกิจของพระองค์ไม่เคยหยุดเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งเป็นการกล่าวว่า พระอุปนิสัยของพระองค์ถูกเปิดเผยต่อมนุษย์ทีละน้อย และสิ่งที่ถูกเปิดเผยก็คือพระอุปนิสัยโดยธรรมชาติของพระองค์ ในปฐมกาล พระอุปนิสัยของพระเจ้าได้ถูกซ่อนเร้นไว้จากมนุษย์ พระองค์ไม่เคยทรงเปิดเผยพระอุปนิสัยของพระองค์ต่อมนุษย์อย่างเปิดเผย และมนุษย์ก็แค่ไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับพระองค์ เนื่องจากการนี้พระองค์ทรงใช้พระราชกิจของพระองค์เพื่อเปิดเผยพระอุปนิสัยของพระองค์ต่อมนุษย์ทีละน้อย แต่การทรงพระราชกิจในหนทางนี้มิได้หมายความว่าพระอุปนิสัยของพระเจ้าจะเปลี่ยนแปลงไปในทุกยุค มันมิใช่กรณีที่ว่าพระอุปนิสัยของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงอยู่โดยสม่ำเสมอเพราะน้ำพระทัยของพระองค์เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ในทางตรงกันข้าม กล่าวคือ เนื่องจากยุคต่างๆ ของพระราชกิจของพระองค์แตกต่างกัน พระเจ้าทรงใช้พระอุปนิสัยโดยธรรมชาติของพระองค์ในความครบถ้วนบริบูรณ์ของมัน และทรงเปิดเผยมันต่อมนุษย์ ทีละขั้นตอน เพื่อที่มนุษย์อาจจะมีความสามารถรู้จักพระองค์ได้ แต่การนี้มิได้พิสูจน์ว่าพระเจ้าไม่ทรงมีพระอุปนิสัยเฉพาะโดยดั้งเดิม หรือว่าพระอุปนิสัยของพระองค์ได้เปลี่ยนไปทีละน้อยตามการผ่านไปของยุคทั้งหลายแต่อย่างใด—การเข้าใจเช่นนั้นคงจะเป็นการเข้าใจผิด พระเจ้าทรงเปิดเผยให้มนุษย์เห็นพระอุปนิสัยโดยธรรมชาติและโดยเฉพาะของพระองค์—สิ่งที่พระองค์ทรงเป็น—ตามการผ่านไปของยุคทั้งหลาย พระราชกิจของยุคเดียวยุคหนึ่งไม่สามารถแสดงพระอุปนิสัยทั้งหมดทั้งมวลของพระเจ้าได้ และดังนั้น คำว่า "พระเจ้าทรงใหม่อยู่เสมอและไม่มีวันเก่า" อ้างอิงถึงพระราชกิจของพระองค์ และคำว่า "พระเจ้ามิอาจเปลี่ยนแปลงได้" อ้างอิงถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงมีและทรงเป็นโดยธรรมชาติ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าไม่สามารถทำให้พระราชกิจที่ใช้เวลาหกพันปีขึ้นอยู่กับจุดเดียวจุดหนึ่ง หรือจำกัดมันไว้กับคำตายต่างๆ ได้ เช่นนั้นคือความโง่เขลาของมนุษย์ พระเจ้ามิใช่ทรงเรียบง่ายดังเช่นที่มนุษย์จินตนาการ และพระราชกิจของพระองค์ไม่สามารถประวิงอยู่ในยุคหนึ่งยุคใดได้ ดังตัวอย่างเช่น พระยาห์เวห์ไม่สามารถยืนหยัดเป็นพระนามของพระเจ้าได้ตลอดเวลา พระเจ้าทรงสามารถทรงพระราชกิจของพระองค์ภายใต้พระนามของพระเยซูด้วยเช่นกัน นี่คือหมายสำคัญอย่างหนึ่งว่าพระราชกิจของพระเจ้ากำลังก้าวหน้าไปในทิศทางข้างหน้าอยู่เสมอ

พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าอยู่เสมอ และพระองค์จะไม่มีวันทรงกลายเป็นซาตาน ซาตานเป็นซาตานอยู่เสมอ และมันจะไม่มีวันกลายเป็นพระเจ้า พระปรีชาญาณของพระเจ้า ความอัศจรรย์ของพระเจ้า ความชอบธรรมของพระเจ้า และพระบารมีของพระเจ้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เนื้อแท้ของพระองค์และสิ่งที่พระองค์ทรงมีและทรงเป็นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำหรับพระราชกิจของพระองค์นั้น มันกำลังก้าวหน้าไปในทิศทางข้างหน้าอยู่เสมอ มีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นอยู่เสมอ เพราะพระองค์ทรงใหม่อยู่เสมอและไม่มีวันเก่า พระเจ้าทรงรับเอาพระนามใหม่ในทุกยุค พระองค์ทรงพระราชกิจใหม่ในทุกยุค และในทุกยุคพระองค์ทรงอนุญาตให้สรรพสิ่งทรงสร้างของพระองค์มองเห็นน้ำพระทัยใหม่และพระอุปนิสัยใหม่ของพระองค์ หากในยุคใหม่ผู้คนไม่สามารถมองเห็นการแสดงถึงพระอุปนิสัยใหม่ของพระเจ้า พวกเขาจะมิใช่ตอกตรึงพระองค์ไว้กับกางเขนตลอดไปหรอกหรือ? และโดยการทำเช่นนั้น พวกเขาจะมิใช่กำหนดนิยามพระเจ้าหรอกหรือ? หากพระเจ้าเสด็จมาเป็นมนุษย์ในฐานะเพศชายเท่านั้น ผู้คนคงจะกำหนดนิยามพระองค์ว่าทรงเป็นชาย ทรงเป็นพระเจ้าของผู้ชาย และคงจะไม่มีวันเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของผู้หญิง เช่นนั้นแล้วผู้ชายก็คงจะยึดถือว่าพระเจ้าทรงเป็นเพศเดียวกันกับผู้ชาย ว่าพระเจ้าทรงเป็นหัวหน้าของผู้ชาย—แต่ถ้าเช่นนั้นแล้วของผู้หญิงเป็นสิ่งใด? การนี้ไม่ยุติธรรม มันมิใช่การปฏิบัติแบบให้สิทธิพิเศษหรอกหรือ? หากเป็นกรณีนี้แล้วไซร้ พวกเหล่านั้นทั้งหมดที่พระเจ้าได้ทรงช่วยให้รอดคงจะเป็นผู้ชายเหมือนพระองค์ และคงจะไม่มีผู้หญิงได้รับการช่วยให้รอดสักคน เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมวลมนุษย์ พระองค์ทรงสร้างอาดัมและพระองค์ทรงสร้างเอวา พระองค์มิได้ทรงสร้างเพียงอาดัมเท่านั้น แต่ทรงสร้างทั้งเพศชายและเพศหญิงในพระฉายาของพระองค์ พระเจ้ามิใช่ทรงเป็นเพียงพระเจ้าของผู้ชายเท่านั้น—พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของผู้หญิงด้วยเช่นกัน พระเจ้าทรงเข้าสู่ช่วงระยะใหม่ของพระราชกิจในยุคสุดท้าย พระองค์จะทรงเปิดเผยพระอุปนิสัยของพระองค์ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก และมันจะมิใช่ความสงสารและความรักในเวลาของพระเยซู เนื่องจากพระองค์ทรงมีพระราชกิจใหม่ในพระหัตถ์ พระราชกิจใหม่นี้จะมาพร้อมกับพระอุปนิสัยใหม่ ดังนั้น หากพระราชกิจนี้กระทำโดยพระวิญญาณ—หากพระเจ้ามิได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ และพระวิญญาณตรัสโดยตรงโดยผ่านทางฟ้าร้องแทน เพื่อที่มนุษย์จะได้ไม่มีหนทางติดต่อกับพระองค์ มนุษย์ก็คงจะไม่สามารถรู้จักพระอุปนิสัยของพระองค์ได้? หากมีเพียงพระวิญญาณอย่างเดียวเท่านั้นที่ทรงพระราชกิจนี้ เช่นนั้นแล้ว มนุษย์ก็คงจะไม่มีหนทางที่จะได้มารู้จักพระอุปนิสัยของพระเจ้า ผู้คนสามารถมองดูพระอุปนิสัยของพระเจ้าด้วยตาของพวกเขาเองก็ต่อเมื่อพระองค์ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ เมื่อพระวจนะทรงปรากฏเป็นมนุษย์ และพระองค์ทรงแสดงพระอุปนิสัยทั้งหมดทั้งมวลของพระองค์โดยผ่านทางเนื้อหนังเท่านั้น พระเจ้าทรงดำรงพระชนม์ชีพอยู่ท่ามกลางมนุษย์ทั้งหลายจริงๆ และโดยแท้จริง พระองค์ทรงเป็นสิ่งจับต้องได้ มนุษย์สามารถมีส่วนร่วมกับพระอุปนิสัยของพระองค์ มีส่วนร่วมกับสิ่งที่พระองค์ทรงมีและทรงเป็นได้อย่างแท้จริง มีเพียงในหนทางนี้เท่านั้นที่มนุษย์จะสามารถมารู้จักกับพระองค์ได้โดยแท้จริง ในเวลาเดียวกันนั้น พระเจ้าได้ทรงทำให้พระราชกิจที่ว่า "พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของผู้ชายและพระเจ้าของผู้หญิง" ครบบริบูรณ์ และทรงทำให้ความครบถ้วนบริบูรณ์ของพระราชกิจในการเป็นมนุษย์ของพระองค์สำเร็จลุล่วงได้ด้วยเช่นกัน

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, นิมิตแห่งพระราชกิจของพระเจ้า (3)

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger