สามีของจ้าวซินฮุ่ยเป็นศิษยาภิบาลทางศาสนาซึ่งได้รับความเลื่อมใสและสนับสนุนจากเหล่าผู้เชื่อ และเธอกับสามีทั้งคู่ก็เฝ้ารอการทรงกลับมาขององค์พระเยซูเจ้าอย่างกระตือรือร้น วันหนึ่ง จ้าวซินฮุ่ยอ่านพระวจนะของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ซึ่งทำให้เธอรู้ได้ว่าเป็นพระสุรเสียงของพระเจ้าอย่างน่าแปลกใจ ผ่านการแสวงหาและสืบค้น เธอตกลงใจว่าพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์คือการเสด็จมาครั้งที่สองขององค์พระเยซูเจ้า จนมีอารมณ์ท่วมท้น อยากบอกข่าวที่ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกลับมาแล้วแก่สามีของเธออย่างเบิกบานใจ สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือว่าสามีของเธอยึดติดอยุ่กับพระวจนะในพระคัมภีร์อย่างหัวชนฝา และไม่เชื่อเลยสักนิดว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และทรงกลับมาอย่างบุตรมนุษย์ เขากล่าวยืนกรานว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทรงกลับมาในกายจิตวิญญาณ เสด็จลงมาจากหมู่เมฆ ถึงกับแพร่มโนคติอันหลงผิดทางศาสนาและขัดขวางการสืบค้นและการยอมรับหนทางที่แท้จริงของจ้าวซินฮุ่ย หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เกิดทุ่มเถียงกันอยู่เนืองๆ จ้าวซินฮุ่ยสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เป็นได้อย่างไรที่สามีเธอเข้าใจพระคัมภีร์ดีมากแต่ก็ยังไม่ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า? สิ่งที่ทำให้เธอยิ่งแปลกใจก็คือสามีศิษยาภิบาลของเธอ ซึ่งเคยอ่อนโยน คำนึงถึงผู้อื่น และเปี่ยมรักมาก่อนในอดีต กลับพิจารณาการทรงกลับมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่เป็นมิตร ไม่เพียงเขาไม่แสวงหาหรือสืบค้นหนทางที่แท้จริงเท่านั้น เขายังทำทุกวิถีทางในการป้องกันไม่ให้ผู้เชื่อได้ต้อนรับองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วย ถึงกับรายงานเรื่องพี่น้องชายหญิงที่เผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งยุคสุดท้ายกับตำรวจ และทำให้พวกเขาถูกจับ และถึงกับทำรุนแรงกับเธอ เพื่อเผชิญกับการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณเช่นนี้ภายในครอบครัวของเธอ จ้าวซินฮุ่ยจะเลือกอะไร? เธอจะสามารถยืนหยัดในหนทางที่แท้จริงได้หรือไม่?