พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 97

วันที่ 08 เดือน 11 ปี 2023

สิทธิอำนาจของพระผู้สร้างนั้นมิอาจเปลี่ยนแปลงได้และมิอาจล่วงเกินได้

1. พระเจ้าทรงใช้พระวจนะเพื่อสร้างทุกสรรพสิ่ง

ปฐมกาล 1:3-5 พระเจ้าตรัสว่า "จงเกิดความสว่าง" ความสว่างก็เกิดขึ้น พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี และทรงแยกความสว่างออกจากความมืด พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่า วัน และความมืดนั้นว่า คืน มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันแรก

ปฐมกาล 1:6-7 พระเจ้าตรัสว่า "จงมีภาคพื้นในระหว่างน้ำ แยกน้ำออกจากกัน" พระเจ้าทรงสร้างภาคพื้นนั้นขึ้น แล้วทรงแยกน้ำที่อยู่ใต้ภาคพื้นออกจากน้ำที่อยู่เหนือภาคพื้น ก็เป็นดังนั้น

ปฐมกาล 1:9-11 พระเจ้าตรัสว่า "น้ำที่อยู่ใต้ฟ้าจงรวมอยู่ในที่เดียวกัน ที่แห้งจงปรากฏขึ้น" ก็เป็นดังนั้น พระเจ้าจึงทรงเรียกที่แห้งนั้นว่า แผ่นดิน และที่ซึ่งน้ำรวมกันนั้นว่า ทะเล พระเจ้าทรงเห็นว่าดี พระเจ้าตรัสว่า "แผ่นดินจงเกิดพืช คือ ธัญพืชที่ให้เมล็ด และต้นไม้ผลที่ออกผลตามชนิดของมัน และมีเมล็ดในผลบนแผ่นดิน" และก็เป็นดังนั้น

ปฐมกาล 1:14-15 พระเจ้าตรัสว่า "จงมีดวงสว่างต่างๆ ของภาคพื้นฟ้า เพื่อแยกวันออกจากคืน ให้เป็นหมายกำหนดฤดู วัน ปี และให้เป็นดวงสว่างต่างๆ บนภาคพื้นฟ้า เพื่อส่องสว่างเหนือแผ่นดิน" ก็เป็นดังนั้น

ปฐมกาล 1:20-21 พระเจ้าตรัสว่า "น้ำจงอุดมด้วยฝูงสัตว์ที่มีชีวิต และให้นกบินไปมาในภาคพื้นฟ้าเหนือแผ่นดิน" พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ และสัตว์ที่มีชีวิตทุกชนิด ซึ่งแหวกว่ายอยู่ในน้ำเป็นฝูงๆ ตามชนิดของมัน และสัตว์ปีกทุกชนิดตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี

ปฐมกาล 1:24-25 พระเจ้าตรัสว่า "แผ่นดินจงเกิดสัตว์ที่มีชีวิตตามชนิดของมัน คือสัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าตามชนิดของมัน" ก็เป็นดังนั้น พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ป่าตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งานตามชนิดของมัน และสัตว์ต่างๆ ที่เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินตามชนิดของมัน แล้วพระเจ้าทรงเห็นว่าดี

2. พระเจ้าทรงใช้พระวจนะของพระองค์เพื่อตั้งพันธสัญญากับมนุษย์

ปฐมกาล 9:11-13 "เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับพวกเจ้าว่าจะไม่ทำลายมนุษย์และสัตว์ทั้งปวงโดยให้น้ำท่วมอีก และจะไม่ให้มีน้ำมาท่วมทำลายโลกอีกต่อไป" พระเจ้าตรัสว่า "นี่แหละเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญา ซึ่งเราให้ไว้ระหว่างเรากับพวกเจ้า และกับสิ่งมีชีวิตทั้งปวงที่อยู่กับพวกเจ้าสืบไปทุกชั่วอายุ คือเราตั้งรุ้งของเราไว้ที่เมฆ และรุ้งนั้นจะเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับโลก"

3. พระพรของพระเจ้า

ปฐมกาล 17:4-6 นี่คือพันธสัญญาของเรากับเจ้า เจ้าจะเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย ชื่อของเจ้าจะไม่ใช่อับรามอีกต่อไป เจ้าจะมีชื่อใหม่คืออับราฮัม เพราะเราให้เจ้าเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย เราจะทำให้เจ้ามีพงศ์พันธุ์มากมายยิ่ง เราจะทำให้เจ้าเป็นชนหลายชาติ และกษัตริย์หลายองค์จะเกิดมาจากเจ้า

ปฐมกาล 18:18-19 แน่ทีเดียวอับราฮัมจะเป็นประชาชาติใหญ่โตและมีกำลังมาก และประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้รับพรก็เพราะเขา เพราะเราเลือกเขาแล้ว เพื่อเขาจะได้กำชับลูกหลาน และครอบครัวที่สืบต่อมาของเขา ให้รักษาพระมรรคาของพระยาห์เวห์ ให้ทำความชอบธรรมและความยุติธรรม เพื่อพระยาห์เวห์จะประทานแก่อับราฮัม ตามที่พระองค์ตรัสไว้แก่เขา

ปฐมกาล 22:16-18 พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราเองปฏิญาณว่า เพราะเจ้าทำอย่างนี้และไม่ได้หวงบุตรชายของเจ้า คือบุตรชายคนเดียวของเจ้า ดังนั้นเราจะอวยพรเจ้าแน่ เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูทั้งหลายของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์ ประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า เพราะว่าเจ้าเชื่อฟังเรา

โยบ 42:12 และพระยาห์เวห์ทรงอวยพรชีวิตตอนปลายของโยบมากยิ่งกว่าตอนต้นของท่าน และท่านมีแกะ 14,000 ตัว อูฐ 6,000 ตัว วัวผู้ 1,000 คู่ และลาตัวเมีย 1,000 ตัว

พวกเจ้ามองเห็นสิ่งใดในบทคัมภีร์สามส่วนนี้? พวกเจ้ามองเห็นว่ามีหลักธรรมหนึ่งในการที่พระเจ้าทรงใช้สิทธิอำนาจของพระองค์หรือไม่? ยกตัวอย่างเช่น พระเจ้าทรงใช้รุ้งเพื่อตั้งพันธสัญญากับมนุษย์—พระองค์ทรงวางรุ้งไว้ในหมู่เมฆเพื่อบอกกับมนุษย์ว่า พระองค์จะไม่มีวันทรงใช้น้ำท่วมมาทำลายโลกอีก รุ้งที่ผู้คนเห็นอยู่ในวันนี้ยังคงเป็นรุ้งเดียวกันกับที่ตรัสจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าหรือไม่? ธรรมชาติและความหมายของมันได้เปลี่ยนไปแล้วหรือไม่? ไม่ต้องกังขาเลยว่ามันไม่ได้เปลี่ยนไป พระเจ้าได้ทรงใช้สิทธิอำนาจของพระองค์เพื่อดำเนินการกระทำนี้ และพันธสัญญาที่พระเจ้าได้ทรงตั้งไว้กับมนุษย์ก็ดำเนินต่อเนื่องมาจนกระทั่งถึงวันนี้ และเวลาที่พันธสัญญานี้จะถูกปรับเปลี่ยนก็ย่อมจะเป็นการตัดสินพระทัยของพระเจ้าอย่างแน่นอน หลังจากที่พระเจ้าได้ตรัสว่า "ตั้งรุ้งของเราไว้ที่เมฆ" พระเจ้าได้ทรงปฏิบัติตามพันธสัญญานี้อยู่เสมอ เรื่อยมาจนกระทั่งถึงวันนี้ เจ้าเห็นสิ่งใดในการนี้? ถึงแม้ว่าพระเจ้าจะทรงครองสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพ พระองค์ก็ทรงเฉียบขาดและมีหลักธรรมอย่างยิ่งในการกระทำของพระองค์ และทรงดำรงความเที่ยงแท้ต่อพระวจนะของพระองค์ ความเฉียบขาดของพระองค์และหลักธรรมในการกระทำของพระองค์แสดงให้เห็นถึงความมิอาจล่วงเกินได้ของพระผู้สร้างและความไม่สามารถเหนือกว่าได้ของสิทธิอำนาจของพระผู้สร้าง ถึงแม้ว่าพระองค์จะทรงครองสิทธิอำนาจสูงสุด และทุกสรรพสิ่งอยู่ภายใต้อำนาจครอบครองของพระองค์ และถึงแม้ว่าพระองค์จะทรงมีฤทธานุภาพในการปกครองเหนือทุกสรรพสิ่ง แต่พระเจ้าก็ไม่เคยทรงหยุดชะงักหรือทำให้แผนการของพระองค์เองต้องเสียหาย และแต่ละครั้งที่พระองค์ทรงนำสิทธิอำนาจของพระองค์มาใช้ มันก็จะสอดคล้องอย่างเคร่งครัดกับหลักธรรมของพระองค์เอง และปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกตรัสออกไปจากพระโอษฐ์ของพระองค์อย่างเที่ยงตรง และปฏิบัติตามขั้นตอนและวัตถุประสงค์ของแผนการของพระองค์ ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่า ทุกสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงปกครองนั้นก็เชื่อฟังหลักธรรมทั้งหลายในการนำสิทธิอำนาจของพระเจ้ามาใช้ด้วยเช่นกัน และไม่มีมนุษย์หรือสิ่งใดเลยที่ได้รับการยกเว้นจากการจัดการเตรียมการของสิทธิอำนาจของพระองค์ อีกทั้งพวกเหล่านั้นก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนหลักธรรมในการนำสิทธิอำนาจของพระองค์มาใช้เช่นกัน ในสายพระเนตรของพระเจ้านั้น บรรดาผู้ที่ได้รับการอวยพรจะได้รับโชควาสนาที่สิทธิอำนาจของพระองค์ทำให้เกิดขึ้น และพวกที่ถูกสาปแช่งก็ได้รับการลงโทษของพวกเขาเนื่องจากสิทธิอำนาจของพระเจ้า ภายใต้อธิปไตยแห่งสิทธิอำนาจของพระเจ้านั้น ไม่มีมนุษย์หรือสิ่งอันใดที่จะได้รับการยกเว้นจากการนำสิทธิอำนาจของพระองค์มาใช้ อีกทั้งพวกเขาไม่สามารถปรับเปลี่ยนหลักธรรมในการนำสิทธิอำนาจของพระองค์มาใช้ได้ สิทธิอำนาจของพระผู้สร้างไม่ถูกปรับเปลี่ยนโดยการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใด และในทำนองเดียวกันนี้ หลักธรรมในการนำสิทธิอำนาจของพระองค์มาใช้ก็ไม่ปรับเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดเช่นกัน สวรรค์และแผ่นดินโลกอาจก้าวผ่านมหากลียุค แต่สิทธิอำนาจของพระผู้สร้างจะไม่เปลี่ยนแปลง ทุกสรรพสิ่งอาจอันตรธาน แต่สิทธิอำนาจของพระผู้สร้างจะไม่มีวันปลาสนาการไป นี่คือแก่นแท้ของสิทธิอำนาจอันมิอาจเปลี่ยนแปลงได้และมิอาจล่วงเกินได้ของพระผู้สร้าง และนี่คือความทรงเอกลักษณ์ยิ่งของพระผู้สร้าง!

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 1

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger