พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 159
วันที่ 30 เดือน 05 ปี 2021
เมื่อใดก็ตามที่ซาตานทำให้มนุษย์เสื่อมทรามหรือทำให้เกิดอันตรายซึ่งไม่ได้ควบคุมต่อมนุษย์ พระเจ้าไม่ทรงยืนดูอยู่เฉยๆ อีกทั้งพระองค์ก็ไม่ทรงไม่แยแสและไม่ทรงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ต่อบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงเลือกสรร พระเจ้าทรงเข้าใจทั้งหมดที่ซาตานทำอย่างชัดแจ้งบริบูรณ์ ไม่สำคัญว่าซาตานทำอะไร ไม่สำคัญว่ามันทำให้แนวโน้มใดเกิดขึ้น พระเจ้าทรงรู้ทั้งหมดที่ซาตานกำลังพยายามทำ และพระเจ้าไม่ทรงละทิ้งบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงเลือกสรร แทนที่จะเป็นเช่นนั้น โดยที่ไม่เรียกร้องความสนใจใดๆ—อย่างลับๆ อย่างเงียบๆ—พระเจ้าทรงทำทุกสิ่งที่จำเป็น เมื่อพระเจ้าทรงเริ่มพระราชกิจกับใครสักคน เมื่อพระองค์ได้ทรงเลือกใครสักคน พระองค์ไม่ทรงประกาศข่าวนี้แก่ใคร อีกทั้งพระองค์ไม่ทรงประกาศข่าวนี้แก่ซาตาน นับประสาอะไรกับการทรงแสดงท่าทียิ่งใหญ่ใดๆ พระเจ้าแค่ทรงทำสิ่งที่จำเป็นอย่างเงียบมากๆ อย่างเป็นธรรมชาติมากๆ ในขั้นแรก พระองค์ทรงเลือกครอบครัวให้เจ้า ภูมิหลังครอบครัวของเจ้า พ่อแม่ของเจ้า บรรพบุรุษของเจ้า—ทั้งหมดนี้พระเจ้าทรงกำหนดตัดสินล่วงหน้า อีกนัยหนึ่งคือ พระเจ้าไม่ทรงทำการกำหนดตัดสินเหล่านี้จากอารมณ์ชั่ววูบ ในทางตรงกันข้าม พระองค์ได้ทรงเริ่มพระราชกิจนี้นานมาแล้ว ทันทีที่พระเจ้าได้ทรงเลือกครอบครัวให้เจ้า จากนั้นพระองค์จึงทรงเลือกวันที่ซึ่งเจ้าจะถือกำเนิด จากนั้น พระเจ้าทรงเฝ้าดูขณะที่เจ้าถือกำเนิดและมาสู่โลกโดยที่ส่งเสียงร้อง พระองค์ทรงเฝ้าดูการเกิดของเจ้า ทรงเฝ้าดูขณะที่เจ้าเอ่ยคำแรกของเจ้า ทรงเฝ้าดูขณะที่เจ้าเดินสะดุดและเดินเตาะแตะเป็นครั้งแรกเมื่อเจ้าหัดเดิน ในขั้นแรกเจ้าก้าวเดินก้าวแรกและแล้วเจ้าก็ก้าวเดินอีกก้าว…และตอนนี้เจ้าสามารถวิ่ง กระโดด พูดคุย และแสดงความรู้สึกต่างๆ ของเจ้าได้ เมื่อผู้คนเติบโตขึ้น สายตาของซาตานจะจับจ้องไปที่พวกเขาทุกคน เช่นเดียวกับเสือที่จ้องเหยื่อของมัน แต่ในการทรงพระราชกิจของพระองค์ พระเจ้าไม่เคยทรงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดใดๆ ที่เกิดจากผู้คน เหตุการณ์หรือสิ่งต่างๆ จากพื้นที่หรือเวลา พระองค์ทรงทำสิ่งที่พระองค์ควรทรงทำและสิ่งที่พระองค์ต้องทรงทำ ในขณะที่กำลังเติบโต เจ้าอาจเผชิญกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าชอบ เช่น โรคภัยไข้เจ็บและความผิดหวัง แต่ขณะที่เจ้าเดินไปบนเส้นทางนี้ ชีวิตของเจ้าและอนาคตของเจ้าอยู่ภายใต้การดูแลเอาใจใส่ของพระเจ้าอย่างเข้มงวด พระเจ้าทรงมอบเครื่องรับประกันอันจริงแท้ซึ่งจะคงอยู่ตลอดชั่วชีวิตของเจ้าให้แก่เจ้า ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างเจ้าที่นั่นเสมอ ทรงคุ้มกันเจ้าและทรงดูแลเจ้า เจ้าเติบโตขึ้นโดยที่ไม่ตระหนักรู้ถึงการนี้ เจ้าเริ่มมาสัมผัสกับสิ่งใหม่ๆ และเริ่มที่จะรู้จักโลกใบนี้และมวลมนุษย์นี้ ทุกสิ่งนั้นสดและใหม่สำหรับเจ้า เจ้ามีบางสิ่งที่เจ้าชื่นชมที่จะทำ เจ้าดำเนินชีวิตภายในสภาวะความเป็นมนุษย์ของเจ้าเอง เจ้าดำเนินชีวิตภายในพื้นที่ของเจ้าเอง และเจ้าไม่มีความตระหนักเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของพระเจ้าแม้แต่น้อย แต่พระเจ้าทรงเฝ้าดูเจ้าทุกย่างก้าวของหนทางขณะที่เจ้าเติบโตขึ้น และพระองค์ทรงเฝ้าดูเจ้าขณะที่เจ้าก้าวไปข้างหน้าทุกย่างก้าว แม้ในคราที่เจ้ากำลังศึกษาหาความรู้หรือกำลังศึกษาวิทยาศาสตร์ พระเจ้าไม่เคยทรงห่างเจ้าแม้เพียงก้าวเดียว เจ้าก็แค่เป็นเหมือนคนอื่นๆ ในเรื่องที่ว่า ในระหว่างการได้มารู้จักโลกและเชื่อมสัมพันธ์กับมัน เจ้าได้กำหนดอุดมคติของเจ้าเอง เจ้ามีงานอดิเรกของเจ้าเอง ความสนใจของเจ้าเอง และเจ้ายังเก็บงำความทะเยอทะยานอันสูงส่งอีกด้วย เจ้ามักจะใคร่ครวญอนาคตของเจ้าเอง มักจะวาดเค้าโครงเกี่ยวกับว่าอนาคตของเจ้าควรมีรูปร่างอย่างไร แต่ไม่สำคัญว่าอะไรจะปรากฏขึ้นระหว่างทาง พระเจ้าทรงเห็นมันทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างชัดเจน บางทีเจ้าเองอาจได้ลืมอดีตของเจ้าเองไปแล้ว แต่สำหรับพระเจ้า ไม่มีใครที่สามารถเข้าใจเจ้าได้ดีไปกว่าพระองค์ เจ้าดำเนินชีวิตภายใต้สายพระเนตรอันจับจ้องของพระเจ้า เติบโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ในระหว่างช่วงเวลานี้ ภารกิจที่สำคัญที่สุดของพระเจ้าคือบางสิ่งบางอย่างซึ่งไม่มีใครเคยล่วงรู้ บางสิ่งบางอย่างซึ่งไม่มีใครรู้จัก พระเจ้าไม่ทรงบอกใครเกี่ยวกับการนี้อย่างแน่แท้ ดังนั้นแล้วอะไรคือสิ่งสำคัญยิ่งยวดที่สุด? อาจกล่าวได้ว่ามันคือเครื่องรับประกันว่าพระเจ้าจะทรงช่วยบุคคลให้รอด นี่หมายความว่าหากพระเจ้าทรงต้องประสงค์ช่วยบุคคลนี้ให้รอด พระองค์ต้องทรงทำการนี้ ภารกิจนี้สำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งมนุษย์และพระเจ้า พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร? ดูเหมือนว่าพวกเจ้าไม่มีความรู้สึกใดๆ เกี่ยวกับการนี้ หรือมโนทัศน์ใดๆ เกี่ยวกับการนี้ ดังนั้นแล้วเราจะบอกพวกเจ้า ตั้งแต่เวลาที่เจ้าถือกำเนิดต่อเนื่องมาตลอดจนถึงปัจจุบัน พระเจ้าได้ทรงดำเนินพระราชกิจมากมายกับเจ้า แต่พระองค์ไม่ทรงบรรยายทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำแก่เจ้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน พระเจ้าไม่ได้ทรงอนุญาตให้เจ้ารู้การนี้ และพระองค์ไม่ได้ทรงบอกเจ้า อย่างไรก็ดี สำหรับมวลมนุษย์ ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำนั้นสำคัญ ตามพระดำริของพระเจ้านั้น มันคือบางสิ่งบางอย่างที่พระองค์ต้องทรงทำ ในพระทัยของพระองค์มีบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญซึ่งพระองค์ทรงจำเป็นต้องทำเกินสิ่งใดๆ ในบรรดาสิ่งเหล่านี้ไปมาก นั่นคือ ตั้งแต่เวลาที่บุคคลถือกำเนิดมาจนถึงปัจจุบัน พระเจ้าต้องทรงรับประกันความปลอดภัยของพวกเขา เมื่อเจ้าได้ยินพระวจนะเหล่านี้ เจ้าอาจรู้สึกราวกับว่าพวกเจ้าไม่เข้าใจอย่างเต็มเปี่ยม เจ้าอาจถามว่า "ความปลอดภัยนี้สำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ?" ถ้าอย่างนั้น อะไรคือความหมายตามตัวอักษรของ "ความปลอดภัย"? บางทีพวกเจ้าอาจเข้าใจว่ามันหมายถึงสันติสุข หรือบางทีพวกเจ้าอาจเข้าใจว่ามันหมายถึงการไม่เคยผ่านประสบการณ์กับความวิบัติหรือหายนะใดๆ การดำเนินชีวิตอย่างสุขสบาย การดำเนินชีวิตปกติ แต่ในหัวใจของพวกเจ้า เจ้าต้องรู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น ดังนั้น จริงๆ แล้วสิ่งนี้ที่เราได้พูดถึง ที่พระเจ้าต้องทรงทำนั้น คืออะไรกันแน่? ความปลอดภัยหมายถึงอะไรสำหรับพระเจ้า? มันเป็นเครื่องรับประกันความหมายตามปกติของ "ความปลอดภัย" จริงๆ หรือไม่? ไม่ ดังนั้นแล้วอะไรคือสิ่งที่พระเจ้าทรงทำ? "ความปลอดภัย" นี้หมายความว่าเจ้าจะไม่ถูกซาตานกลืนกิน นี่สำคัญหรือ? การไม่ถูกซาตานกลืนกิน—นี่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเจ้าหรือไม่? ใช่แล้ว นี่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยส่วนตัวของเจ้า และไม่สามารถมีอะไรที่สำคัญไปกว่าได้ ทันทีที่เจ้าถูกซาตานกลืนกิน วิญญาณของเจ้าและเนื้อหนังของเจ้าไม่เป็นของพระเจ้าอีกต่อไป พระเจ้าจะไม่ทรงช่วยเจ้าให้รอดอีกต่อไป พระเจ้าทรงละทิ้งบรรดาวิญญาณและผู้คนที่ถูกซาตานกลืนกิน ดังนั้นเราจึงกล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่พระเจ้าต้องทรงทำก็คือการรับประกันความปลอดภัยนี้ของเจ้า เพื่อรับประกันว่าเจ้าจะไม่ถูกซาตานกลืนกิน เรื่องนี้สำคัญมาก ไม่ใช่หรอกหรือ? ดังนั้นแล้วทำไมพวกเจ้าจึงไม่สามารถตอบได้? ดูเหมือนว่าพวกเจ้าไร้ความสามารถที่จะรู้สึกถึงความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้!
—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 6
ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ
วิดีโอประเภทอื่นๆ