พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 158

วันที่ 30 เดือน 05 ปี 2021

ซาตานทำให้มนุษย์เสื่อมทรามโดยผ่านทางแนวโน้มต่างๆ ทางสังคม "แนวโน้มต่างๆ ทางสังคม" รวมถึงหลายสิ่ง ผู้คนบางคนพูดว่า: "มันหมายถึงแฟชั่นล่าสุด เครื่องสำอาง ทรงผม และอาหารรสเลิศใช่ไหม?" สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นแนวโน้มต่างๆ ทางสังคมหรือไม่? พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มต่างๆ ทางสังคม แต่เราจะไม่พูดถึงพวกมัน ณ ที่นี้ เราเพียงปรารถนาที่จะพูดถึงแนวคิดที่แนวโน้มต่างๆ ทางสังคมทำให้เกิดขึ้นในผู้คน หนทางที่สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนประพฤติตนในโลก และเป้าหมายและทัศนคติในชีวิตที่สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดขึ้นในผู้คน เหล่านี้สำคัญมาก สิ่งเหล่านี้สามารถควบคุมและมีอิทธิพลต่อสภาวะจิตใจของมนุษย์ แนวโน้มเหล่านี้เกิดขึ้นทีละอย่าง และพวกมันทั้งหมดล้วนแต่มีอิทธิพลชั่วที่ทำให้มวลมนุษย์ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนสูญเสียมโนธรรม สภาวะความเป็นมนุษย์และเหตุผล ทำให้ศีลธรรมของพวกเขาและคุณภาพของลักษณะนิสัยของพวกเขาย่อหย่อนยิ่งขึ้นไปอีก จนถึงระดับที่เราสามารถกล่าวได้กระทั่งว่าผู้คนส่วนใหญ่ตอนนี้ไม่มีความซื่อตรง ไม่มีสภาวะความเป็นมนุษย์ และพวกเขาไม่มีมโนธรรมใดๆ นับประสาอะไรที่จะมีเหตุผลใดๆ ดังนั้นแล้วแนวโน้มเหล่านี้คืออะไร? พวกมันคือแนวโน้มที่เจ้าไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อแนวโน้มใหม่อย่างหนึ่งแพร่ผ่านไปทั่วโลก บางทีอาจมีผู้คนเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่ล้ำหน้ากว่าผู้อื่น ปฏิบัติตัวดุจดังผู้ที่ก่อให้เกิดกระแสความนิยม พวกเขาเริ่มด้วยการทำสิ่งใหม่บางอย่าง จากนั้นจึงยอมรับแนวคิดบางชนิดหรือมุมมองบางอย่าง อย่างไรก็ดี ผู้คนส่วนใหญ่จะถูกทำให้ติดเชื้อ ถูกทำให้กลมกลืน และถูกดึงดูดใจโดยแนวโน้มประเภทนี้อย่างต่อเนื่องในสภาวะของการไม่ตระหนักรู้ จนกระทั่งพวกเขาทั้งหมดยอมรับมันโดยที่ไม่รู้ตัวและไม่ได้ตั้งใจและกลับกลายเป็นจมอยู่ในมันและถูกมันควบคุม แนวโน้มเช่นนี้ แนวโน้มแล้วแนวโน้มเล่า เป็นเหตุให้ผู้คน—ผู้ที่ไม่ได้มีร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร และไม่สามารถแยกแยะระหว่างสิ่งที่เป็นด้านบวกและด้านลบที่จะยอมรับพวกมันรวมทั้งมุมมองต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตและค่านิยมต่างๆ ที่มาจากซาตานอย่างเป็นสุข พวกเขายอมรับสิ่งที่ซาตานบอกกับพวกเขาเกี่ยวกับวิธีเข้าหาชีวิตและหนทางในการดำเนินชีวิตที่ซาตาน "ประทาน" ให้พวกเขา และพวกเขาไม่มีทั้งพละกำลังและความสามารถ นับประสาอะไรกับการตระหนักรู้ ที่จะต้านทาน ดังนั้นแล้วแนวโน้มเหล่านี้คืออะไรกันแน่? เราได้เลือกตัวอย่างง่ายๆ ที่พวกเจ้าอาจค่อยๆ มาเข้าใจ ตัวอย่างเช่น ผู้คนในอดีตทำธุุรกิจของพวกเขาโดยที่ไม่มีใครถูกโกง พวกเขาขายสิ่งของต่างๆ ในราคาเดียวกันไม่ว่าผู้ที่กำลังซื้ออยู่นั้นจะเป็นใครก็ตาม องค์ประกอบบางอย่างของมโนธรรมและสภาวะความเป็นมนุษย์ที่ดีไม่ได้สื่อให้เห็น ณ ที่นี้หรอกหรือ? เมื่อผู้คนดำเนินธุรกิจเยี่ยงนี้ โดยสุจริต สามารถมองเห็นได้ว่าพวกเขายังคงมีมโนธรรมบางอย่างและสภาวะความเป็นมนุษย์บางอย่าง ณ เวลานั้น แต่ด้วยความต้องการเงินทองที่เพิ่มขึ้นทุกทีของมนุษย์ ผู้คนได้มารักเงินทอง ทรัพย์สมบัติ และความยินดีมากขึ้นทุกทีโดยไม่รู้ตัว สรุปสั้นๆ ผู้คนได้มามองเงินทองว่าสำคัญมากกว่าแต่ก่อน เมื่อผู้คนมองเงินทองว่าสำคัญมากขึ้น พวกเขาก็เริ่มให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของพวกเขา ชื่อเสียงของพวกเขา ชื่ออันดีงามของพวกเขา และความซื่อตรงของพวกเขาน้อยลงโดยไม่รู้ตัวมิใช่หรือ? เมื่อเจ้าดำเนินธุรกิจ เจ้าเห็นคนอื่นๆ ใช้วิถีทางอันหลากหลายเพื่อโกงผู้คนและสร้างความร่ำรวย แม้ว่าเงินทองที่หามาได้จะได้มาโดยไม่สุจริต พวกเขากลับกลายเป็นร่ำรวยยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้พวกเขาอาจดำเนินธุรกิจเดียวกันกับเจ้า ครอบครัวของพวกเขาทั้งหมดก็ชื่นชมกับชีวิตมากกว่าที่เจ้าชื่นชม และเจ้ารู้สึกแย่ โดยกล่าวกับตัวเจ้าเองว่า "ทำไมฉันจึงไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้? ทำไมฉันจึงไม่สามารถหาเงินทองได้มากเท่าที่พวกเขาหาได้? ฉันต้องคิดหาหนทางที่จะได้รับเงินทองมากขึ้น เพื่อทำให้ธุรกิจของฉันรุ่งเรือง" แล้วเจ้าก็ทำจนถึงที่สุดเพื่อใคร่ครวญว่าจะหาเงินจำนวนมากได้อย่างไร ตามวิธีการทำเงินตามปกติ—การจำหน่ายสิ่งของต่างๆ ในราคาเดียวกันให้แก่ลูกค้าทุกคน—กำไรใดๆ ที่เจ้าได้นั้นเกิดขึ้นด้วยมโนธรรมที่ดี อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่หนทางที่จะร่ำรวยได้เร็ว เมื่อถูกผลักดันโดยแรงกระตุ้นที่จะทำกำไร การคิดของเจ้าผ่านการเปลี่ยนสภาพทีละน้อย ช่วงระหว่างการเปลี่ยนสภาพนี้ หลักการในการประพฤติตนของเจ้าก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เมื่อเจ้าโกงใครสักคนเป็นครั้งแรก เจ้ามีข้อสงสัย โดยกล่าวว่า "นี่จะเป็นครั้งเดียวที่ฉันโกงใครสักคน ฉันจะไม่ทำมันอีก ฉันไม่สามารถโกงผู้คนได้ มีผลสืบเนื่องอันร้ายแรงจากการโกง มันจะนำฉันไปสู่ปัญหามากมาย!" เมื่อเจ้าหลอกลวงใครสักคนเป็นครั้งแรก หัวใจของเจ้ามีความกระดากใจบ้าง นี่คือการทำงานของจิตสำนึกของมนุษย์—เพื่อทำให้เจ้ารู้สึกถึงความกระดากใจและเพื่อตำหนิติเตียนเจ้า เพื่อที่จะได้รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติเมื่อเจ้าโกงใครสักคน แต่ภายหลังจากที่เจ้าได้หลอกลวงใครสักคนเป็นผลสำเร็จแล้ว เจ้าเห็นว่าบัดนี้เจ้ามีเงินทองมากกว่าที่เจ้าเคยมีมาก่อน และเจ้าคิดว่าวิธีการนี้สามารถเป็นประโยชน์มากสำหรับเจ้า ทั้งๆ ที่มีความปวดร้าวอันน่าเบื่อในหัวใจของเจ้า เจ้ายังคงรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังแสดงความยินดีกับตัวเองในความสำเร็จของเจ้า และเจ้ารู้สึกค่อนข้างพอใจกับตัวเอง เป็นครั้งแรกที่เจ้ายอมรับพฤติกรรมของเจ้าเอง วิถีทางอันหลอกหลวงของเจ้าเอง ภายหลังจากนั้น ทันทีที่มนุษย์ถูกปนเปื้อนโดยการโกงนี้แล้ว มันก็เป็นเช่นเดียวกับใครบางคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการพนันและแล้วก็กลายเป็นนักพนัน ในการไม่ตระหนักรู้ของเจ้า เจ้าเห็นชอบในพฤติกรรมการโกงของเจ้าเองและยอมรับมัน ในการไม่ตระหนักรู้ เจ้าใช้การโกงเป็นพฤติกรรมทางการค้าซึ่งถูกกฎหมายและวิถีทางที่มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับการอยู่รอดและการดำรงชีพของเจ้า เจ้าคิดว่าโดยการทำการนี้เจ้าสามารถสร้างโชคลาภได้อย่างรวดเร็ว นี่คือกระบวนการหนึ่ง ได้แก่ ในตอนเริ่มต้น ผู้คนไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมประเภทนี้ได้และพวกเขาดูถูกเหยียดหยามพฤติกรรมและการปฏิบัตินี้ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มทดลองพฤติกรรมนี้ด้วยตัวเอง และทดสอบมันด้วยวิธีของพวกเขาเอง และหัวใจของพวกเขาก็เริ่มค่อยๆ แปลงสภาพ นี่คือการเปลี่ยนสภาพประเภทไหนกัน? มันเป็นการเห็นชอบและการยอมรับในแนวโน้มนี้ ในแนวคิดนี้ซึ่งถูกปลูกฝังในตัวเจ้าโดยแนวโน้มทางสังคม โดยไม่ตระหนักรู้ หากเจ้าไม่โกงผู้คนเมื่อทำธุรกิจกับพวกเขา เจ้าก็รู้สึกว่าเจ้าแย่ลง หากเจ้าไม่โกงผู้คน เจ้ารู้สึกราวกับว่าเจ้าได้สูญเสียอะไรบางอย่างไป โดยที่ไม่รู้ตัว การโกงนี้กลายเป็นวิญญาณแท้จริงของเจ้า กระดูกสันหลังของเจ้า และประเภทของพฤติกรรมที่จะขาดเสียไม่ได้ที่เป็นหลักการในชีวิตของเจ้า ภายหลังจากที่มนุษย์ได้ยอมรับพฤติกรรมนี้และการคิดนี้แล้ว นี่ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหัวใจของเขาหรอกหรือ? หัวใจของเจ้าได้เปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นความซื่อตรงของเจ้าก็เปลี่ยนไปเช่นกันหรือไม่? สภาวะความเป็นมนุษย์ของเจ้าเปลี่ยนไปหรือยัง? จิตสำนึกของเจ้าเปลี่ยนไปหรือยัง? (เปลี่ยนไปแล้ว) ใช่ ทุกส่วนของบุคคลนี้ก้าวผ่านการเปลี่ยนเชิงคุณภาพ ตั้งแต่หัวใจของเขาไปจนถึงความคิดของเขา จนถึงระดับที่ว่าพวกเขาได้ถูกแปลงสภาพจากภายในสู่ภายนอก การเปลี่ยนแปลงนี้ดึงเจ้าให้ห่างจากพระเจ้าออกไปยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และเจ้ากลายเป็นมีความคิดสอดคล้องกับซาตานอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้ากลายเป็นเหมือนกับซาตานมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อมองแนวโน้มต่างๆ ทางสังคมเหล่านี้ เจ้าจะพูดได้หรือไม่ว่าพวกมันมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้คน? พวกมันมีผลกระทบที่เป็นอันตรายอย่างลึกซึ้งต่อผู้คนหรือไม่? (มี) พวกมันมีผลกระทบที่เป็นอันตรายอย่างลึกซึ้งมากต่อผู้คน มีอะไรเกี่ยวกับมนุษย์หรือที่ซาตานทำให้เสื่อมทรามโดยใช้แนวโน้มทางสังคมแนวโน้มแล้วแนวโน้มเล่า? (จิตสำนึกของมนุษย์ เหตุผล สภาวะความเป็นมนุษย์ ศีลธรรม และมุมมองเกี่ยวกับชีวิต) พวกมันทำให้เกิดความเสื่อมทีละน้อยในผู้คน ใช่หรือไม่? ซาตานใช้แนวโน้มต่างๆ ทางสังคมเหล่านี้เพื่อล่อลวงผู้คนเข้าสู่รังของบรรดาปีศาจทีละก้าว เพื่อที่ผู้คนที่หมกมุ่นอยู่กับแนวโน้มต่างๆ ทางสังคมสนับสนุนเงินทองและความอยากได้อยากมีทางวัตถุ ความชั่ว และความรุนแรงโดยไม่รู้ตัว ทันทีที่สิ่งเหล่านี้ได้เข้าสู่หัวใจของมนุษย์ แล้วมนุษย์กลายเป็นอะไร? มนุษย์กลายเป็นปีศาจ ซาตาน! ทำไม? เพราะมีความโน้มเอียงทางจิตใจใดอยู่ในหัวใจของมนุษย์หรือ? ทำไมมนุษย์จึงเคารพ? มนุษย์เริ่มที่จะหาความยินดีในความชั่วและความรุนแรง ไม่แสดงความชอบสำหรับความสวยงามหรือความดีงาม ยิ่งน้อยไปกว่านั้นคือสันติสุข ผู้คนไม่เต็มใจที่จะใช้ชีวิตเรียบง่ายของสภาวะความเป็นมนุษย์ที่ปกติ แต่กลับปรารถนาจะชื่นชมกับสถานภาพอันสูงส่งและความมั่งคั่งอันใหญ่หลวง เพื่อเพลิดเพลินในความยินดีในเนื้อหนัง ทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อสนองตอบเนื้อหนังของพวกเขาเอง โดยไม่มีข้อจำกัด ไม่มีพันธะที่จะรั้งพวกเขาไว้ อีกนัยหนึ่งคือ ทำอะไรก็ตามที่พวกเขาอยากทำ ดังนั้นแล้วเมื่อมนุษย์ได้กลายเป็นจมอยู่กับแนวโน้มประเภทเหล่านี้ ความรู้ที่เจ้าได้เรียนรู้จะสามารถช่วยให้เจ้าปลดปล่อยตัวเจ้าเองเป็นอิสระได้หรือไม่? ความเข้าใจของเจ้าเกี่ยวกับวัฒนธรรมดั้งเดิมและความเชื่อเหนือธรรมชาติสามารถช่วยให้เจ้าหลีกหนีจากสถานการณ์ที่ร้ายแรงมากนี้ได้หรือไม่? ศีลธรรมและพิธีกรรมดั้งเดิมที่มนุษย์รู้จักนั้นสามารถช่วยให้ผู้คนใช้ความยับยั้งชั่งใจได้หรือไม่? จงดูตัวอย่างของสามตัวละครคลาสสิก มันสามารถช่วยผู้คนดึงเท้าของพวกเขาออกจากหล่มของแนวโน้มเหล่านี้ได้หรือไม่? (ไม่ มันไม่สามารถทำได้) ด้วยเหตุนี้ มนุษย์กลับกลายเป็นชั่วร้าย โอหัง วางตัวว่าสูงส่งกว่าผู้อื่น เห็นแก่ตัว และมุ่งร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีความความรักระหว่างผู้คนอีกต่อไป ไม่มีความรักใดๆ ระหว่างสมาชิกในครอบครัวอีกต่อไป ไม่มีความเข้าใจใดๆ ท่ามกลางบรรดาญาติและเพื่อนๆ อีกต่อไป สัมพันธภาพของมนุษย์ได้กลับกลายเป็นแสดงลักษณะโดยความรุนแรง บุคคลทุกคนพยายามใช้วิธีการรุนแรงในการดำรงชีวิตท่ามกลางเพื่อนมนุษย์ของพวกเขา พวกเขาฉวยเอาขนมปังในแต่ละวันของพวกเขาโดยใช้ความรุนแรง พวกเขาได้ตำแหน่งหน้าที่และได้รับผลกำไรของพวกเขาโดยใช้ความรุนแรง และพวกเขาใช้วิธีรุนแรงและชั่วร้ายในการทำอะไรก็ตามที่พวกเขาต้องการ มนุษย์คนนี้ไม่น่ากลัวหรอกหรือ? (น่ากลัว) ภายหลังจากที่ได้ยินสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดที่เราเพิ่งจะพูดถึง พวกเจ้าไม่คิดหรือว่ามันน่าหวาดกลัวที่จะใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมนี้ ในโลกนี้ และท่ามกลางผู้คนประเภทเหล่านี้ ซึ่งซาตานใช้ในการทำให้มวลมนุษย์เสื่อมทราม? (น่าหวาดกลัว) ดังนั้นแล้ว พวกเจ้าเคยรู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชหรือไม่? เจ้าจะต้องรู้สึกถึงมันเล็กน้อยในชั่วขณะนี้ ใช่หรือไม่? (ข้าพระองค์รู้สึก) เมื่อได้ยินน้ำเสียงของพวกเจ้า ดูราวกับว่าเจ้ากำลังคิดอยู่ว่า "ซาตานมีวิธีที่แตกต่างกันมากมายยิ่งนักที่จะทำให้มนุษย์เสื่อมทราม มันฉวยโอกาสทุกโอกาสและอยู่ทุกที่ที่เราหันไป มนุษย์ยังคงสามารถได้รับการช่วยให้รอดได้หรือไม่?" มนุษย์ยังคงสามารถได้รับการช่วยให้รอดได้หรือไม่? มนุษย์สามารถช่วยตัวเองให้รอดได้หรือไม่? (ไม่) จักรพรรดิหยกสามารถช่วยมนุษย์ให้รอดได้หรือไม่? ขงจื๊อสามารถช่วยมนุษย์ให้รอดได้หรือไม่? พระโพธิสัตว์กวนอิมสามารถช่วยมนุษย์ให้รอดได้หรือไม่? (ไม่) ดังนั้นใครกันเล่าที่สามารถช่วยมนุษย์ให้รอด? (พระเจ้า) อย่างไรก็ดี บางคนจะตั้งคำถามในหัวใจของพวกเขา อย่างเช่น: "ซาตานทำอันตรายแก่เราอย่างดิบเถื่อนมาก ด้วยความบ้าคลั่งที่วิกลจริตยิ่งนัก จนพวกเราไม่มีความหวังที่จะดำเนินชีวิตและความมั่นใจใดๆ ที่จะดำเนินชีวิต พวกเราทั้งหมดดำเนินชีวิตในท่ามกลางความเสื่อมทราม และถึงอย่างไรบุคคลทุกคนก็ต้านทานพระเจ้า และบัดนี้หัวใจของพวกเราได้จมดิ่งต่ำเท่าที่พวกมันจะไปได้ ดังนั้นแล้วพระเจ้าทรงสถิต ณ ที่ใดในขณะที่ซาตานกำลังทำให้พวกเราเสื่อมทราม? พระเจ้ากำลังทรงทำอะไรอยู่? อะไรก็ตามที่พระเจ้ากำลังทรงทำเพื่อเรานั้น เราไม่เคยรู้สึกถึงมันเลย!" บางคนรู้สึกเศร้าสลดและค่อนข้างท้อแท้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถูกหรือไม่? สำหรับพวกเจ้าแล้ว ความรู้สึกนี้ลึกซึ้งมากเพราะทั้งหมดที่เราได้พูดมานั้นก็เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาเข้าใจอย่างช้าๆ รู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าพวกเขาไร้ซึ่งความหวัง รู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าพวกเขาได้ถูกพระเจ้าละทิ้งแล้ว แต่จงอย่าเป็นกังวล หัวข้อการสามัคคีธรรมของเราสำหรับวันนี้ "ความชั่วของซาตาน" ไม่ใช่ประเด็นหลักที่แท้จริงของเรา อย่างไรก็ดี หากจะพูดถึงแก่นแท้ของความบริสุทธิ์ของพระเจ้า เราจะต้องหารือถึงวิธีที่ซาตานทำให้มนุษย์เสื่อมทรามและความชั่วของซาตานเสียก่อน เพื่อที่จะทำให้ผู้คนเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นว่ามนุษย์อยู่ในสภาพเงื่อนไขประเภทใดในขณะนี้ จุดมุ่งหมายหนึ่งของการพูดถึงการนี้คือการเปิดโอกาสให้ผู้คนรู้จักความชั่วของซาตาน ในขณะที่จุดมุ่งหมายอื่นคือการเปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าความบริสุทธิ์ที่แท้จริงคืออะไร

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 6

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger