พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 88

วันที่ 28 เดือน 07 ปี 2021

ในวันที่หก พระผู้สร้างตรัส และสิ่งทรงสร้างที่มีชีวิตแต่ละประเภทในพระหฤทัยของพระองค์ปรากฏตัวตามลำดับ

พระราชกิจแห่งการทรงสร้างทุกสรรพสิ่งของพระผู้สร้างได้ดำเนินต่อเนื่องไปเป็นเวลาห้าวันโดยไม่อาจรู้สึกได้ ซึ่งทันทีหลังจากนั้น พระผู้สร้างก็ได้ทรงต้อนรับวันที่หกแห่งการสร้างทุกสรรพสิ่งของพระองค์ วันนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง และเป็นวันที่เหนือธรรมดาอีกวันหนึ่ง เช่นนั้นแล้ว แผนการของพระผู้สร้างในค่ำคืนก่อนวันใหม่นี้คืออะไร? พระองค์จะทรงก่อกำเนิด พระองค์จะทรงสร้างสิ่งทรงสร้างใหม่ๆ อันใดขึ้น? ฟังสิ นั่นก็คือพระสุรเสียงของพระผู้สร้าง…

"พระเจ้าตรัสว่า 'แผ่นดินจงเกิดสัตว์ที่มีชีวิตตามชนิดของมัน คือสัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าตามชนิดของมัน' ก็เป็นดังนั้น พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ป่าตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งานตามชนิดของมัน และสัตว์ต่างๆ ที่เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินตามชนิดของมัน แล้วพระเจ้าทรงเห็นว่าดี" (ปฐมกาล 1:24-25) สิ่งทรงสร้างที่มีชีวิตประกอบด้วยอะไรบ้าง? องค์พระคัมภีร์ระบุว่า ปศุสัตว์ และสัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าของแผ่นดินโลกตามประเภทของมัน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ในวันนี้ ไม่เพียงมีสิ่งทรงสร้างที่มีชีวิตทุกประเภทอยู่บนแผ่นดินโลกเท่านั้น แต่พวกมันยังถูกจำแนกชั้นออกไปตามประเภทด้วย และในทำนองเดียวกันนั้น "พระเจ้าทรงเห็นว่าดี"

เช่นเดียวกับในระหว่างห้าวันก่อนหน้านั้น พระผู้สร้างได้ตรัสด้วยพระกระแสเสียงเดียวกันและได้ทรงสั่งให้มีการถือกำเนิดของสิ่งทรงสร้างที่มีชีวิตที่พระองค์ได้ทรงพึงปรารถนา และให้พวกมันปรากฏขึ้นบนแผ่นดินโลก แต่ละอย่างตามประเภทของพวกมัน เมื่อพระผู้สร้างทรงนำสิทธิอำนาจของพระองค์มาใช้ ไม่มีพระวจนะใดของพระองค์ที่ตรัสไปโดยเปล่าประโยชน์ และดังนั้น ในวันที่หก สิ่งทรงสร้างที่มีชีวิตแต่ละอย่างที่พระองค์ได้ตั้งพระทัยที่จะสร้างก็ได้ปรากฏขึ้นในเวลาที่ตั้งไว้ ดังเช่นที่พระผู้สร้างได้ตรัสไว้ว่า "แผ่นดินจงเกิดสัตว์ที่มีชีวิตตามชนิดของมัน" แผ่นดินโลกก็เต็มไปด้วยความทรงพลังทันที และบนแผ่นดินก็พลันบังเกิดลมหายใจของสิ่งทรงสร้างที่มีชีวิตทุกประเภท…ในถิ่นธุรกันดารที่มีหญ้าขึ้นเขียวชอุ่ม วัวอ้วนพีที่กำลังแกว่งหางไปมาปรากฏขึ้นตัวแล้วตัวเล่า แกะที่ส่งเสียงร้องแบ๊ะๆ รวมตัวกันเป็นฝูง และม้าที่ส่งเสียงร้องฮี้ๆ ก็เริ่มวิ่งควบ…ในชั่วอึดใจเดียว ทุ่งหญ้าเงียบสงัดอันกว้างใหญ่ไพศาลก็เกิดความทรงพลังขึ้นในทันทีทันใด…การปรากฏปศุสัตว์ต่างๆ นานาเหล่านี้คือภาพที่สวยงามบนทุ่งหญ้าอันเงียบสงบ และนำมาซึ่งความทรงพลังอันไร้ขอบเขต…พวกมันจะเป็นมิตรสหายของทุ่งหญ้า และเป็นนายของทุ่งหญ้า ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ดังนั้น เช่นเดียวกัน พวกมันก็จะกลายเป็นผู้คุ้มกันและผู้รักษาแผ่นดินเหล่านี้ซึ่งจะเป็นที่อยู่อาศัยถาวรของพวกมัน และซึ่งจะจัดเตรียมสิ่งที่พวกมันทั้งหมดจำเป็นต้องมีให้แก่พวกมัน เป็นแหล่งที่มาของการบำรุงเลี้ยงชั่วนิรันดร์ให้แก่การดำรงอยู่ของพวกมัน…

ในวันเดียวกันกับที่ปศุสัตว์สารพันเหล่านี้ได้เริ่มมีขึ้นมาด้วยพระวจนะของพระผู้สร้างนั้น แมลงมากมายเหลือคณาก็ได้ปรากฏขึ้น ตัวแล้วตัวเล่า ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นสิ่งทรงสร้างที่มีชีวิตที่เล็กที่สุดท่ามกลางสิ่งทรงสร้างทั้งปวง แต่พลังชีวิตของพวกมันก็ยังคงเป็นการทรงสร้างอันเปี่ยมปาฏิหาริย์ของพระผู้สร้าง และพวกมันก็มิได้มาถึงช้าเกินไป…บางตัวกระพือปีกเล็กๆ ของพวกมัน ในขณะที่ตัวอื่นๆ คืบคลานอย่างช้าๆ บางตัวกระโดดกระเด้ง ตัวอื่นๆ เดินตุปัดตุเป๋ บางตัวกระโจนไปข้างหน้า ในขณะที่ตัวอื่นๆ ถอยกรูดอย่างรวดเร็ว บางตัวขยับไปด้านข้าง ตัวอื่นๆ ก็กระโดดขึ้นลงสูงๆ ต่ำๆ…ทั้งหมดนั้นยุ่งอยู่กับการพยายามหาบ้านให้ตัวพวกมันเอง กล่าวคือ บ้างก็ดั้นด้นไปในพงหญ้า บ้างก็เริ่มที่จะขุดรูบนพื้น บ้างก็บินขึ้นไปบนต้นไม้ ซ่อนตัวในผืนป่า…ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่พวกมันก็ไม่เต็มใจที่จะทนฝ่าความทรมานจากท้องไส้ที่ว่างเปล่า และหลังจากหาบ้านให้ตัวเองได้แล้ว พวกมันก็เร่งรีบแสวงหาอาหารเพื่อเลี้ยงตัวเอง บ้างก็ปีนป่ายไปบนต้นหญ้าเพื่อกินยอดอ่อนของมัน บ้างก็งับฝุ่นดินเต็มปากแล้วกลืนลงท้องไป กินด้วยความเอร็ดอร่อยและยินดีอย่างมาก (สำหรับพวกมันนั้น แม้แต่ฝุ่นดินก็เป็นอาหารเลี้ยงฟรีที่อร่อยเลิศรสแล้ว) บ้างก็ซ่อนอยู่ในป่า แต่พวกมันก็ไม่ได้หยุดพัก เพราะความที่น้ำเลี้ยงภายในใบไม้สีเขียวเข้มเป็นมันนั้น ได้จัดเตรียมอาหารมื้ออร่อยชุ่มลิ้นไว้ให้…หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว พวกแมลงยังคงไม่หยุดกิจกรรมของพวกมัน ถึงแม้ว่าจะมีรูปร่างขนาดเล็ก แต่พวกมันมีพลังงานมหาศาลและความร่าเริงทรงพลังอันไร้ขีดจำกัด และดังนั้น พวกมันจึงแคล่วคล่องว่องไวมากที่สุดและขยันขันแข็งมากที่สุดในบรรดาสิ่งทรงสร้างทั้งปวง พวกมันไม่เคยขี้เกียจ และไม่เคยตามใจตัวเองไปกับการหยุดพัก ทันทีที่ความอยากอาหารของพวกมันได้อิ่มเอมแล้ว พวกมันยังคงลำบากตรากตรำใช้แรงงานเพื่อประโยชน์ของอนาคตของพวกมัน โดยทำงานยุ่งและรีบเร่งเพื่อวันพรุ่งนี้ของพวกมัน เพื่อการอยู่รอดของพวกมัน…พวกมันฮัมเพลงในท่วงทำนองและจังหวะต่างๆ อย่างแผ่วเบาเพื่อหนุนใจและเร่งเร้าตัวพวกมันเองต่อไป พวกมันยังได้เพิ่มความชื่นบานให้กับต้นหญ้า ต้นไม้ และผืนดินทุกตารางนิ้ว ทำให้แต่ละวันและแต่ละปีมีเอกลักษณ์…พวกมันส่งต่อข้อมูลข่าวสารไปยังสิ่งมีชีวิตทั้งมวลบนแผ่นดินด้วยภาษาของพวกมันเองและด้วยวิธีของพวกมันเอง พวกมันได้ทำเครื่องหมายกับทุกสรรพสิ่ง บนที่ซึ่งพวกมันได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้โดยใช้ครรลองของการดำรงชีวิตแบบพิเศษของพวกมันเอง…พวกมันใกล้ชิดสนิทสนมกับดิน ต้นหญ้า และผืนป่า และพวกมันนำความกระปรี้กระเปร่าและความทรงพลังมาให้แก่ดิน ต้นหญ้า และผืนป่า พวกมันได้นำการเตือนสติและคำทักทายจากพระผู้สร้างมาสู่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง…

สายพระเนตรอันจับจ้องของพระเจ้ากวาดมองไปทั่วทุกสรรพสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ และ ณ ชั่วขณะนี้เอง พระเนตรของพระองค์ก็หยุดชะงักอยู่ที่ผืนป่าและภูเขา พระหฤทัยของพระองค์ก็เปลี่ยนไป เมื่อพระวจนะของพระองค์ถูกดำรัสออกไป ก็ได้ปรากฏสรรพสิ่งทรงสร้างชนิดหนึ่งที่ไม่เหมือนกับชนิดใดที่เคยมาก่อนหน้านั้นในผืนป่าอันหนาทึบ กล่าวคือ พวกมันคือสัตว์ป่าที่พระโอษฐ์ของพระเจ้าได้ตรัสไป นานเกินกำหนดแล้วที่พวกมันส่ายศีรษะและสะบัดหาง แต่ละตัวมีใบหน้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง บ้างก็มีเสื้อคลุมเป็นขนยาว บ้างก็หุ้มเกราะ บ้างก็แยกเขี้ยวยิงฟัน บ้างก็แสยะยิ้ม บ้างก็คอยาว บ้างก็หางสั้น บ้างก็ตาเบิกโพลง บ้างก็มีดวงตาถมึงทึง บ้างก็ก้มกินหญ้า บ้างก็มีเลือดติดรอบปาก บ้างก็กระเด้งไปบนขาสองข้าง บ้างก็เหยาะย่างบนกีบเท้าทั้งสี่ บ้างก็มองไปบนยอดไม้ไกลลิบ บ้างก็นอนรออยู่ในป่า บ้างก็ค้นหาถ้ำเพื่อหยุดพัก บ้างก็วิ่งกระโดดโลดเต้นบนที่ราบ บ้างก็ตระเวนไปทั่วป่า…บ้างก็ส่งเสียงคำราม บ้างก็ส่งเสียงหอน บ้างก็เห่า บ้างก็ส่งเสียงร้อง…บ้างก็มีเสียงแหลมสูง บ้างก็มีเสียงทุ้ม บ้างก็มีเสียงเต็มหลอดคอ บ้างก็มีเสียงใสและเป็นท่วงทำนอง…บ้างก็หน้าตาบูดบึ้ง บ้างก็สวยงาม บ้างก็น่าขยะแขยง บ้างก็น่าชม บ้างก็น่าหวาดผวา บ้างก็ไร้เดียงสาอย่างมีเสน่ห์…พวกมันทยอยออกกันมาทีละตัว ดูเอาเถิดว่า พวกมันอยู่สูงและมีพละกำลังเพียงใด มีจิตวิญญาณอิสระ ไม่แยแสต่อกันและกันอย่างหน้าตาเฉย ไม่ยอมลำบากที่จะสละสายตาชำเลืองมองกัน…พวกมันปรากฏขึ้นในป่าและบนภูเขา โดยแต่ละตัวมีชีวิตในแบบเฉพาะที่พระผู้สร้างได้ประทานให้แก่พวกมัน และมีความป่าเถื่อนและความโหดเหี้ยมของพวกมันเอง จองหองพองขนกว่าสิ่งใดทั้งหมด บ้าอำนาจอย่างเต็มที่—ผู้ใดเล่าที่ได้ทำให้พวกมันเป็นนายที่แท้จริงแห่งภูเขาและผืนป่า? จากชั่วขณะที่พระผู้สร้างได้ทรงลิขิตการปรากฏของพวกมัน พวกมันก็ "อ้างสิทธิ์" กับป่าและกับภูเขา เพราะพระผู้สร้างได้ทรงประทับตราอาณาเขตของพวกมันและได้ทรงกำหนดวงเขตการดำรงอยู่ของพวกมันไว้แล้ว เฉพาะพวกมันเท่านั้นที่เป็นเจ้านายที่แท้จริงแห่งภูเขาและผืนป่า และนั่นคือเหตุผลที่พวกมันป่าเถื่อนยิ่งนัก จองหองพองขนยิ่งนัก พวกมันถูกเรียกว่า "สัตว์ป่า" ก็เพียงเพราะในบรรดาสรรพสิ่งที่ทรงสร้างทั้งปวงนั้น พวกมันเป็นบรรดาสิ่งที่ป่าเถื่อน โหดเหี้ยมและเลี้ยงไม่เชื่องอย่างแท้จริง พวกมันไม่อาจทำให้เชื่องได้ ดังนั้นพวกมันจึงไม่อาจถูกชุบเลี้ยงได้ และไม่อาจดำรงชีพอย่างกลมกลืนไปกับมวลมนุษย์และใช้แรงงานแทนมวลมนุษย์ได้ เป็นเพราะพวกมันไม่อาจถูกชุบเลี้ยงได้ ไม่อาจทำงานให้มวลมนุษย์ได้ พวกมันจึงต้องดำรงชีพอยู่ในที่ห่างไกลจากมวลมนุษย์ และมนุษย์ไม่อาจเข้าหาพวกมันได้ ในทางกลับกัน เป็นเพราะพวกมันดำรงชีพอยู่ในที่ห่างไกลจากมวลมนุษย์ และมนุษย์ไม่อาจเข้าหาพวกมันได้ พวกมันจึงสามารถลุล่วงความรับผิดชอบที่พระผู้สร้างได้ประทานให้พวกมันได้ นั่นก็คือ การคุ้มกันภูเขาและผืนป่า ความป่าเถื่อนของพวกมันอารักขาภูเขาและคุ้มกันผืนป่า และเป็นการอารักขาและการรับประกันที่ดีที่สุดแห่งการดำรงอยู่และการแพร่พันธุ์ของพวกมัน ในเวลาเดียวกันนั้น ความป่าเถื่อนของพวกมันได้ธำรงรักษาและรับประกันความสมดุลท่ามกลางทุกสรรพสิ่ง การมาถึงของพวกมันได้นำแรงหนุนและสิ่งยึดเหนี่ยวมาสู่ภูเขาและผืนป่า การมาถึงของพวกมันได้สูบฉีดความกระปรี้กระเปร่าและความทรงพลังให้แก่ภูเขาและผืนป่าที่แน่นิ่งและว่างเปล่า จากจุดนี้เป็นต้นมา ภูเขาและผืนป่ากลายเป็นที่อยู่อาศัยถาวรของพวกมัน และพวกมันก็คงจะไม่มีวันสูญเสียบ้านของพวกมันไป เพราะภูเขาและผืนป่าได้ปรากฏและดำรงอยู่เพื่อพวกมันนั่นเอง สัตว์ป่าจะทำหน้าที่ของพวกมันให้ลุล่วง และทำทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันสามารถทำได้เพื่อคุ้มกันสิ่งเหล่านั้น ดังนั้น สัตว์ป่าก็จะยึดปฏิบัติตามการเตือนสติของพระผู้สร้างอย่างเคร่งครัด ที่ให้ยึดมั่นกับดินแดนของพวกมัน และใช้ธรรมชาติเยี่ยงสัตว์ร้ายของพวกมันต่อไปเพื่อคงไว้ซึ่งสมดุลของทุกสรรพสิ่งที่พระผู้สร้างได้ทรงสถาปนาขึ้น และแสดงออกไปให้เห็นถึงสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพของพระผู้สร้าง!

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 1

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger