พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 83

วันที่ 06 เดือน 11 ปี 2023

พระเจ้าทรงใช้พระวจนะเพื่อสร้างทุกสรรพสิ่ง (บทตอนที่คัดมา)

ปฐมกาล 1:3-5 พระเจ้าตรัสว่า "จงเกิดความสว่าง" ความสว่างก็เกิดขึ้น พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี และทรงแยกความสว่างออกจากความมืด พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่า วัน และความมืดนั้นว่า คืน มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันแรก

ปฐมกาล 1:6-7 พระเจ้าตรัสว่า "จงมีภาคพื้นในระหว่างน้ำ แยกน้ำออกจากกัน" พระเจ้าทรงสร้างภาคพื้นนั้นขึ้น แล้วทรงแยกน้ำที่อยู่ใต้ภาคพื้นออกจากน้ำที่อยู่เหนือภาคพื้น ก็เป็นดังนั้น

ปฐมกาล 1:9-11 พระเจ้าตรัสว่า "น้ำที่อยู่ใต้ฟ้าจงรวมอยู่ในที่เดียวกัน ที่แห้งจงปรากฏขึ้น" ก็เป็นดังนั้น พระเจ้าจึงทรงเรียกที่แห้งนั้นว่า แผ่นดิน และที่ซึ่งน้ำรวมกันนั้นว่า ทะเล พระเจ้าทรงเห็นว่าดี พระเจ้าตรัสว่า "แผ่นดินจงเกิดพืช คือ ธัญพืชที่ให้เมล็ด และต้นไม้ผลที่ออกผลตามชนิดของมัน และมีเมล็ดในผลบนแผ่นดิน" และก็เป็นดังนั้น

ปฐมกาล 1:14-15 พระเจ้าตรัสว่า "จงมีดวงสว่างต่างๆ ของภาคพื้นฟ้า เพื่อแยกวันออกจากคืน ให้เป็นหมายกำหนดฤดู วัน ปี และให้เป็นดวงสว่างต่างๆ บนภาคพื้นฟ้า เพื่อส่องสว่างเหนือแผ่นดิน" ก็เป็นดังนั้น

ปฐมกาล 1:20-21 พระเจ้าตรัสว่า "น้ำจงอุดมด้วยฝูงสัตว์ที่มีชีวิต และให้นกบินไปมาในภาคพื้นฟ้าเหนือแผ่นดิน" พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ และสัตว์ที่มีชีวิตทุกชนิด ซึ่งแหวกว่ายอยู่ในน้ำเป็นฝูงๆ ตามชนิดของมัน และสัตว์ปีกทุกชนิดตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี

ปฐมกาล 1:24-25 พระเจ้าตรัสว่า "แผ่นดินจงเกิดสัตว์ที่มีชีวิตตามชนิดของมัน คือสัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าตามชนิดของมัน" ก็เป็นดังนั้น พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ป่าตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งานตามชนิดของมัน และสัตว์ต่างๆ ที่เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินตามชนิดของมัน แล้วพระเจ้าทรงเห็นว่าดี

ในวันแรก กลางวันและกลางคืนของมวลมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นและยืนหยัดมั่นคงเนื่องจากสิทธิอำนาจของพระเจ้า

พวกเรามาดูบทตอนแรกกันเถิด ความว่า "พระเจ้าตรัสว่า 'จงเกิดความสว่าง' ความสว่างก็เกิดขึ้น พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี และทรงแยกความสว่างออกจากความมืดพระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่า วัน และความมืดนั้นว่า คืน มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันแรก" (ปฐมกาล 1:3-5) บทตอนนี้พรรณนาถึงปฏิบัติการแรกของพระเจ้าในปฐมกาลแห่งการทรงสร้าง และวันแรกที่พระเจ้าได้ทรงผ่านซึ่งมีเวลาเย็นและเวลาเช้า แต่มันเป็นวันที่เหนือธรรมดา กล่าวคือ พระเจ้าได้ทรงเริ่มตระเตรียมความสว่างให้แก่ทุกสรรพสิ่ง และยิ่งไปกว่านั้น ได้ทรงแยกความสว่างออกจากความมืด ในวันนี้ พระเจ้าได้ทรงเริ่มตรัส และพระวจนะและสิทธิอำนาจของพระองค์ดำรงอยู่เคียงข้างกัน สิทธิอำนาจของพระองค์ได้เริ่มแสดงออกไปท่ามกลางทุกสรรพสิ่ง และฤทธานุภาพของพระองค์ได้แผ่กระจายท่ามกลางทุกสรรพสิ่งโดยเป็นผลมาจากพระวจนะของพระองค์ จากวันนี้เป็นต้นมา ทุกสรรพสิ่งได้ก่อร่างขึ้นและยืนหยัดมั่นคงเพราะพระวจนะของพระเจ้า สิทธิอำนาจของพระเจ้า และฤทธานุภาพของพระเจ้า และพวกมันได้เริ่มต้นทำหน้าที่โดยเนื่องมาจากพระวจนะของพระเจ้า สิทธิอำนาจของพระเจ้า และฤทธานุภาพของพระเจ้า เมื่อพระเจ้าได้ตรัสพระวจนะที่ว่า "จงเกิดความสว่าง" ดังนั้นความสว่างก็มีขึ้น พระเจ้ามิได้ทรงเริ่มต้นโครงการใดๆ ของพระราชกิจ ความสว่างได้ปรากฏขึ้นโดยเป็นผลมาจากพระวจนะของพระองค์ นี่คือความสว่างที่พระเจ้าทรงเรียกว่ากลางวัน และเป็นสิ่งที่มนุษย์ยังคงพึ่งพาอาศัยเพื่อการดำรงอยู่ของเขาในวันนี้ ด้วยการทรงบัญชาของพระเจ้า แก่นแท้และคุณค่าของมันไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป และมันไม่เคยอันตรธานหายไปไหน การดำรงอยู่ของมันแสดงออกไปให้เห็นถึงสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพของพระเจ้า และกล่าวประกาศถึงการดำรงอยู่ของพระผู้สร้าง มันยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าถึงพระอัตลักษณ์และพระสถานะของพระผู้สร้าง มันไม่ใช่สิ่งที่มิอาจจับต้องได้หรือสิ่งลวงตา หากแต่เป็นความสว่างจริงที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ จากเวลานั้นเป็นต้นมา ในโลกว่างเปล่าใบนี้ซึ่ง "แผ่นดินก็ร้างและว่างเปล่า ความมืดอยู่เหนือน้ำ" ก็ได้มีสิ่งที่เป็นวัตถุสิ่งแรกก่อกำเนิดขึ้น สิ่งนี้มาจากพระวจนะจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า และได้ปรากฏขึ้นในปฏิบัติการแรกแห่งการทรงสร้างทุกสรรพสิ่งเนื่องจากสิทธิอำนาจและถ้อยดำรัสของพระเจ้า ไม่นานหลังจากนั้น พระเจ้าได้ทรงสั่งให้ความสว่างและความมืดแยกออกจากกัน…ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไปและถูกทำให้ครบบริบูรณ์เนื่องจากพระวจนะของพระเจ้า…พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนี้ว่า "กลางวัน" และความมืดนั้นพระองค์ทรงเรียกว่า "กลางคืน" ณ เวลานั้น เวลาเย็นแรกและเวลาเช้าแรกได้ก่อกำเนิดขึ้นในโลกที่พระเจ้าตั้งพระทัยที่จะสร้างขึ้น และพระเจ้าได้ตรัสว่า นี่คือวันแรก วันนั้นคือวันแรกแห่งการทรงสร้างทุกสรรพสิ่งของพระผู้สร้าง และเป็นปฐมกาลแห่งการทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง และเป็นครั้งแรกที่สิทธิอำนาจและฤทธานุภาพของพระผู้สร้างได้รับการแสดงออกไปในโลกใบนี้ที่พระเจ้าได้ทรงสร้างขึ้น

มนุษย์สามารถมองเห็นสิทธิอำนาจของพระเจ้าและพระวจนะของพระเจ้า ตลอดจนฤทธานุภาพของพระเจ้าได้โดยผ่านทางพระวจนะเหล่านี้ เพราะมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงครองฤทธานุภาพเช่นนั้น ดังนั้นจึงมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงมีสิทธิอำนาจเช่นนั้น เพราะพระเจ้าทรงสิทธิอำนาจเช่นนั้น จึงมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงมีฤทธานุภาพเช่นนั้น มนุษย์คนใดหรือวัตถุใดสามารถมีสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพเช่นนี้ได้หรือไม่? มีคำตอบในหัวใจของพวกเจ้าหรือไม่? นอกจากพระเจ้าแล้ว มีสิ่งมีชีวิตทรงสร้างหรือสิ่งมีชีวิตที่มิได้ทรงสร้างใดที่มีสิทธิอำนาจเช่นนั้นหรือไม่? พวกเจ้าเคยเห็นตัวอย่างของสิ่งเช่นนั้นในหนังสือหรือสิ่งตีพิมพ์ใดหรือไม่? มีบันทึกใดๆ ที่ว่า ใครบางคนได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกและทุกสรรพสิ่งบ้างหรือไม่? ไม่ปรากฏว่ามีในหนังสือหรือบันทึกอื่นใดเลย แน่นอนว่าเหล่านี้คือพระวจนะเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพเกี่ยวกับการทรงสร้างโลกอันสง่างามของพระเจ้า ซึ่งถูกบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์ พระวจนะเหล่านี้ตรัสเพื่อสิทธิอำนาจและพระอัตลักษณ์อันทรงเอกลักษณ์ของพระเจ้า สามารถกล่าวได้หรือไม่ว่าสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพเช่นนั้นเป็นสัญลักษณ์ของพระอัตลักษณ์อันทรงเอกลักษณ์ของพระเจ้า? สามารถกล่าวได้หรือไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นถูกครองโดยพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น? ไม่ต้องกังขาเลยว่า มีเพียงพระเจ้าพระองค์เองเท่านั้นที่ทรงครองสิทธิอำนาจและฤทธานุภาพเช่นนั้น! สิทธิอำนาจและฤทธานุภาพนี้ไม่สามารถถูกครองหรือแทนที่ได้โดยสิ่งมีชีวิตทรงสร้างหรือสิ่งชีวิตที่มิได้ทรงสร้างใดๆ! นี่คือหนึ่งในพระลักษณะเฉพาะของพระเจ้าผู้ทรงเอกลักษณ์พระองค์เองใช่หรือไม่? พวกเจ้าเคยเป็นพยานให้กับพระลักษณะนั้นหรือไม่? พระวจนะเหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้าใจข้อเท็จจริงได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนว่า พระเจ้าทรงครองสิทธิอำนาจที่เป็นเอกลักษณ์ และฤทธานุภาพที่เป็นเอกลักษณ์ ทรงถือครองพระอัตลักษณ์และพระสถานะสูงสุด จากการสามัคคีธรรมข้างต้นนี้ พวกเจ้าสามารถกล่าวได้หรือไม่ว่า พระเจ้าที่พวกเจ้าเชื่อนั้น ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเอกลักษณ์พระองค์เอง?

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 1

Scripture quotations are from The Holy Bible-Thai Standard Version, copyright © 2014 by Thailand Bible Society. Used by permission. All rights reserved.

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger