พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 66
วันที่ 21 เดือน 02 ปี 2024
"แต่เราบอกท่านว่าที่เป็นใหญ่กว่าพระวิหารอยู่ที่นี่ ถ้าพวกท่านเข้าใจความหมายของพระคัมภีร์ ที่ว่า 'เราประสงค์ความเมตตา ไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา' พวกท่านก็คงจะไม่ตัดสินลงโทษพวกที่ไม่มีความผิด เพราะว่าบุตรมนุษย์เป็นเจ้าเป็นนายเหนือวันสะบาโต" (มัทธิว 12:6-8) คำว่า "พระวิหาร" อ้างอิงถึงสิ่งใดในที่นี้? กล่าวอย่างง่ายๆ คือ คำนี้หมายถึงอาคารที่สูงส่งสง่างาม และในยุคธรรมบัญญัติ พระวิหารคือสถานที่ที่นักบวชมานมัสการพระเจ้า เมื่อองค์พระเยซูเจ้าตรัสว่า "ที่เป็นใหญ่กว่าพระวิหารอยู่ที่นี่" คำว่า "ที่" อ้างอิงถึงผู้ใด? คำว่า "ที่" นี้หมายถึงองค์พระเยซูเจ้าในเนื้อหนังอย่างชัดเจน เพราะมีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ยิ่งใหญ่กว่าพระวิหาร พระวจนะเหล่านั้นบอกผู้คนว่าอย่างไร? พระวจนะเหล่านั้นบอกผู้คนให้ออกมาจากพระวิหาร—พระเจ้าทรงออกมาจากพระวิหารแล้วและไม่ได้ทรงพระราชกิจในนั้นอีกต่อไป ดังนั้น ผู้คนจึงควรแสวงหาย่างพระบาทของพระเจ้านอกพระวิหาร และติดตามย่างก้าวของพระองค์ในพระราชกิจใหม่ของพระองค์ มีข้อสนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังพระวจนะขององค์พระเยซูเจ้าเมื่อพระองค์ตรัสเช่นนี้ นั่นคือ ภายใต้ธรรมบัญญัติ ผู้คนได้มามองเห็นพระวิหารว่าเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้าพระองค์เอง นั่นคือ ผู้คนนมัสการพระวิหารแทนที่จะนมัสการพระเจ้า ดังนั้นองค์พระเยซูเจ้าจึงทรงเตือนพวกเขาให้อย่านมัสการรูปเคารพ แต่นมัสการพระเจ้าแทน เพราะพระองค์ทรงอำนาจสูงสุด ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงตรัสว่า "เราประสงค์ความเมตตา ไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา" เห็นได้ชัดเจนว่าในพระเนตรขององค์พระเยซูเจ้า ผู้คนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตภายใต้ธรรมบัญญัติไม่ได้นมัสการพระยาห์เวห์อีกต่อไป แต่เพียงแค่พลีอุทิศไปอย่างพอเป็นพิธี และองค์พระเยซูเจ้าตกลงพระทัยว่านี่ถือเป็นการนมัสการรูปเคารพ ผู้นมัสการรูปเคารพเหล่านี้เห็นว่าพระวิหารเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่และสูงส่งกว่าพระเจ้า ในหัวใจของพวกเขามีเพียงพระวิหาร ไม่ใช่พระเจ้า และหากพวกเขาสูญเสียพระวิหารไป เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็จะสูญเสียที่อาศัยของพวกเขา หากปราศจากพระวิหาร พวกเขาก็ไม่มีที่ใดให้นมัสการ และไม่สามารถทำการพลีอุทิศของพวกเขาได้ สิ่งที่เรียกว่า "ที่อาศัย" ของพวกเขานั้นคือสถานที่ที่พวกเขาใช้การกล่าวอ้างเท็จถึงการนมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าเพื่อให้อยู่ในพระวิหารต่อไปและทำกิจการงานต่างๆ ของพวกเขาเอง สิ่งที่เรียกว่า "การพลีอุทิศ" ของพวกเขานั้นเป็นแค่การที่พวกเขากระทำการอันน่าอับอายส่วนตัวของตนเองภายใต้การแสร้งทำเป็นปรนนิบัติในพระวิหาร นี่คือเหตุผลที่ผู้คน ณ ขณะนั้นมองเห็นว่าพระวิหารยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า องค์พระเยซูเจ้าตรัสพระวจนะเหล่านี้เพื่อเป็นคำเตือนให้กับผู้คน เพราะพวกเขากำลังใช้พระวิหารเป็นฉากหน้า และใช้การพลีอุทิศเป็นฉากบังการคดโกงผู้คนและการคดโกงพระเจ้า หากเจ้านำพระวจนะเหล่านี้มาปฏิบัติกับปัจจุบัน พระวจนะเหล่านี้ยังคงใช้ได้เท่าเดิมและตรงประเด็นเท่าเดิม ถึงแม้ว่าผู้คนในวันนี้จะได้รับประสบการณ์กับพระราชกิจของพระเจ้าที่แตกต่างจากที่ผู้คนในยุคธรรมบัญญัติได้รับประสบการณ์ แต่เนื้อแท้ของธรรมชาติของพระราชกิจเหล่านั้นเหมือนกัน ในบริบทของพระราชกิจในวันนี้นั้น ผู้คนยังคงทำสิ่งต่างๆ ในประเภทเดียวกับที่ถูกแสดงแทนด้วยคำว่า "พระวิหารยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า" ตัวอย่างเช่น ผู้คนมองเห็นว่าการทำหน้าที่ของตนให้ลุล่วงคืองานของตน พวกเขามองเห็นว่าการเป็นพยานต่อพระเจ้าและการต่อสู้กับพญานาคใหญ่สีแดงคือการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อปกป้องสิทธิมนุษย์ เพื่อประชาธิปไตยและอิสรภาพ พวกเขาเปลี่ยนหน้าที่ของพวกเขาเป็นการใช้ทักษะของพวกเขาในอาชีพการงาน แต่พวกเขาปฏิบัติต่อการยำเกรงพระเจ้าและการหลบเลี่ยงความชั่วเสมือนไม่ใช่สิ่งใดนอกจากคำสอนศาสนาชิ้นหนึ่งที่ควรทำตาม เป็นต้น โดยพื้นฐานแล้วพฤติกรรมเหล่านี้ไม่เหมือนกับคำว่า "พระวิหารยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า" หรอกหรือ? ความแตกต่างคือ เมื่อสองพันปีก่อน ผู้คนทำกิจธุระส่วนตัวของตนในพระวิหารทางกายภาพ แต่วันนี้ ผู้คนทำกิจธุระส่วนตัวของตนในพระวิหารที่ไม่อาจจับต้องได้ ผู้คนที่ให้คุณค่ากับกฎเหล่านั้นมองเห็นว่ากฎยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า ผู้คนที่รักสถานะเหล่านั้นมองเห็นว่าสถานะยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า ผู้คนที่รักอาชีพการงานของตนเหล่านั้นมองเห็นว่าอาชีพการงานยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า และอื่นๆ อีกมากมาย—การแสดงออกของพวกเขาทั้งหมดทำให้เรากล่าวว่า: "ผู้คนสรรเสริญพระเจ้าว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดโดยผ่านทางคำพูดของพวกเขา แต่ในสายตาของพวกเขา ทุกสิ่งยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า" นี่เป็นเพราะว่าทันทีที่ผู้คนพบโอกาสที่จะแสดงพรสวรรค์ของตนเอง หรือทำกิจธุระของตนเองหรือประกอบอาชีพการงานของตนเองตามเส้นทางในการติดตามพระเจ้าของตน พวกเขาเว้นระยะห่างตัวพวกเขาเองจากพระเจ้า และทุ่มเทตนเองในอาชีพการงานที่ตนรัก ส่วนสิ่งที่พระเจ้าได้มอบความไว้วางพระทัยให้กับพวกเขาและน้ำพระทัยของพระองค์นั้น สิ่งเหล่านั้นได้ถูกละทิ้งไปนานแล้ว สภาวะของผู้คนเหล่านี้กับบรรดาผู้ที่ทำกิจธุระของตนในพระวิหารเมื่อสองพันปีก่อนมีความแตกต่างกันอย่างไร?
—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 3
ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ
วิดีโอประเภทอื่นๆ