พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเปิดโปงความเสื่อมทรามของมวลมนุษย์ | บทตัดตอน 350

วันที่ 06 เดือน 10 ปี 2020

เราจะพิชิตมวลมนุษย์เพราะผู้คนถูกเราสร้าง และยิ่งไปกว่านั้น ได้ชื่นชมวัตถุอันอุดมสมบูรณ์ทั้งหมดที่เป็นสรรพสิ่งทรงสร้างของเรา แต่ผู้คนยังได้ปฏิเสธเราเช่นกัน เราหายไปจากหัวใจของพวกเขา และพวกเขามองเราว่าเป็นภาระบนการดำรงอยู่ของพวกเขา จนถึงจุดที่ เมื่อได้เห็นเราอย่างแท้จริงแล้ว พวกเขายังคงปฏิเสธเรา และเค้นสมองของพวกเขาในการคิดหาทางที่เป็นไปได้ทุกทางที่จะทำให้เราพ่ายแพ้ ผู้คนไม่ยอมให้เราปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างจริงจังหรือทำการเรียกร้องที่เข้มงวดกับพวกเขา อีกทั้งพวกเขาไม่อนุญาตให้เราพิพากษาหรือตีสอนความไม่ชอบธรรมของพวกเขา แทนที่จะพบว่าเรื่องนี้น่าสนใจ พวกเขากลับพบว่ามันน่ารำคาญ และดังนั้นงานของเราก็คือการรับมวลมนุษย์ซึ่งกิน ดื่ม และสนุกสนานมากกับเรา แต่ไม่รู้จักเรา และทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ เราจะปลดอาวุธมนุษยชาติ และจากนั้น เราจะกลับไปยังสถานที่พักอาศัยของเรา โดยนำเหล่าทูตสวรรค์ของเรา โดยนำพระสิริของเราไปด้วย เพราะการกระทำต่างๆ ของผู้คนได้ทำให้หัวใจเราแตกสลายและทำให้งานของเราแตกเป็นชิ้นๆ มานานแล้ว เราจึงเจตนาที่จะกลับเข้าครอบครองพระสิริซึ่งมารร้ายได้ฉวยเอาไปก่อนที่เราจะเดินจากไปอย่างมีความสุข ยอมให้มวลมนุษย์ใช้ชีวิตของพวกเขาต่อไป "ดำเนินชีวิตและทำงานด้วยความสงบสุขและความพอใจ" ต่อไป "ดำเนินการเพาะปลูกบนไร่นาของพวกเขาเอง" ต่อไป และเราจะไม่แทรกแซงชีวิตของพวกเขาอีกต่อไป แต่บัดนี้เราตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะกลับเข้าครอบครองพระสิริจากมือของมารร้าย นำพระสิริทั้งหมดทั้งมวลซึ่งเราได้ก่อขึ้นในตัวมนุษย์ ณ เวลาที่สร้างโลกกลับคืนมา เราจะไม่มีวันประทานพระสิริของเราให้แก่เผ่าพันธุ์มนุษย์บนแผ่นดินโลกอีกเลย เพราะผู้คนไม่ได้เพียงแค่ล้มเหลวในการสงวนรักษาพระสิริของเราเท่านั้น แต่พวกเขายังได้แลกเปลี่ยนให้เป็นรูปลักษณ์ของซาตานอีกด้วย ผู้คนไม่หวงแหนความล้ำค่าของการมาของเรา อีกทั้งพวกเขาไม่ได้นิยมวันแห่งพระสิริของเรา พวกเขาไม่ยินดีที่จะได้รับการตีสอนของเรา นับประสาอะไรที่พวกเขาจะเต็มใจคืนพระสิริของเรามาให้เรา อีกทั้งพวกเขาไม่เต็มใจที่จะละทิ้งพิษของมารร้าย มนุษยชาติยังคงหลอกลวงเราด้วยวิธีเดิมๆ ต่อไป ผู้คนยังคงมีรอยยิ้มที่สดใสและใบหน้าอันมีความสุขด้วยวิธีเดิมๆ พวกเขาไม่ตระหนักรู้ถึงความลึกของความมืดมัวซึ่งจะเคลื่อนลงมาสู่มวลมนุษย์หลังจากที่พระสิริของเราจากพวกเขาไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาไม่ตระหนักรู้ว่าเมื่อวันของเรามาที่มวลมนุษย์ทั้งปวง มันจะยิ่งยากกับพวกเขามากกว่ากับผู้คนในยุคของโนอาห์ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าอิสราเอลได้กลายเป็นมืดมนเพียงใดเมื่อพระสิริของเราได้จากไป เพราะมนุษย์ลืมเมื่อถึงยามรุ่งอรุณว่าการผ่านค่ำคืนที่มืดสนิทไปให้ได้นั้นยากเย็นเพียงใด เมื่อดวงอาทิตย์กลับไปซ่อนตัวอีกครั้งและความมืดลงมาสู่มนุษย์ เขาจะคร่ำครวญและขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของเขาในความมืดอีกครั้ง พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือว่ามันลำบากยากเย็นเพียงใดที่ชาวอิสราเอลได้สู้ทนวันแห่งความทุกข์เหล่านั้น เมื่อพระสิริของเราได้ไปจากประเทศอิสราเอล? บัดนี้เป็นเวลาที่พวกเจ้าจะได้เห็นพระสิริของเรา และยังเป็นเวลาที่พวกเจ้าจะได้แบ่งปันวันแห่งพระสิริของเราร่วมกันอีกด้วย มนุษย์จะคร่ำครวญท่ามกลางความมืดเมื่อพระสิริของเราไปจากแผ่นดินที่โสมม บัดนี้เป็นวันแห่งพระสิริเมื่อเราทำงานของเรา และเป็นวันที่เราละเว้นมวลมนุษย์จากความทุกข์ เพราะเราจะไม่แบ่งปันช่วงเวลาของความทรมานและความทุกข์ลำบากร่วมกับพวกเขา เราต้องประสงค์เพียงพิชิตมวลมนุษย์อย่างครบบริบูรณ์ และทำให้มารร้ายของมนุษยชาติพ่ายแพ้อย่างครบบริบูรณ์เท่านั้น

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, การเป็นมนุษย์ที่แท้จริงหมายถึงอะไร

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger