พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเข้าสู่ชีวิต | บทตัดตอน 542

วันที่ 22 เดือน 01 ปี 2024

ยิ่งเจ้าใส่ใจต่อน้ำพระทัยของพระเจ้ามากขึ้นเท่าใด เจ้าก็ยิ่งแบกภาระยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น และยิ่งภาระที่เจ้าแบกยิ่งใหญ่ขึ้นเท่าใด ประสบการณ์ของเจ้าก็จะยิ่งมั่งคั่งขึ้นเท่านั้น เมื่อเจ้าใส่ใจต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า พระเจ้าก็จะทรงวางภาระลงบนตัวเจ้า และเช่นนั้นแล้ว ก็จะทรงให้ความรู้แจ้งแก่เจ้าเกี่ยวกับภารกิจซึ่งพระองค์วางพระทัยมอบหมายให้เจ้า เมื่อพระเจ้าทรงมอบภาระนี้แก่เจ้า เจ้าก็จะให้ความสนใจต่อความจริงที่เกี่ยวข้องทั้งหมดขณะที่กำลังกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้า หากเจ้ามีภาระต่อสภาวะของชีวิตพี่น้องชายหญิงของเจ้า เช่นนั้นแล้ว นี่ก็จะเป็นภาระที่พระเจ้าได้วางพระทัยมอบหมายให้เจ้า และเจ้าก็จะแบกภาระนี้ไว้กับเจ้าในการอธิษฐานประจำวันของเจ้าเสมอ เจ้าได้แบกสิ่งที่พระเจ้าทรงทำไว้แล้ว และเจ้าเต็มใจทำสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงต้องประสงค์ที่จะทำ นี่คือความหมายของการแบกภาระของพระเจ้าให้เป็นของเจ้าเอง ณ จุดนี้ ในการกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้าของเจ้า เจ้าจะมุ่งเน้นที่ชนิดของปัญหาเหล่านี้ และเจ้าจะแปลกใจว่า ฉันจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร? ฉันจะสามารถทำให้พี่น้องชายหญิงของฉันสามารถสัมฤทธิ์ผลของการปลดปล่อยให้เป็นอิสระและพบความชื่นชมยินดีฝ่ายวิญญาณได้อย่างไร? เจ้าจะมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยขณะที่กำลังสามัคคีธรรม และเมื่อกำลังกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้า เจ้าจะมุ่งเน้นที่การกินและดื่มพระวจนะที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเหล่านี้ เจ้าจะแบกภาระด้วยเช่นกันขณะที่เจ้ากำลังกินและดื่มพระวจนะของพระองค์ ทันทีที่เจ้าได้เข้าใจข้อพึงพระสงค์ทั้งหลายของพระเจ้าแล้ว เจ้าก็จะมีแนวคิดชัดเจนมากขึ้นว่าจะใช้เส้นทางไหน นี่คือความรู้แจ้งและความกระจ่างแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ภาระของเจ้าได้นำมา และนี่ก็ยังเป็นการทรงนำของพระเจ้าที่ได้รับการประทานแก่เจ้าอีกด้วย เหตุใดเราจึงพูดการนี้? หากเจ้าไม่มีภาระ เช่นนั้นแล้วเจ้าก็จะไม่เอาใจใส่ขณะที่กำลังกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้า กล่าวคือ เมื่อเจ้ากินและดื่มพระวจนะของพระเจ้าขณะที่กำลังแบกภาระ เจ้าก็จะสามารถจับความเข้าใจในแก่นแท้ของพระวจนะเหล่านั้น ค้นพบหนทางของเจ้า และใส่ใจต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าได้ ดังนั้น ในการอธิษฐานของเจ้า เจ้าควรปรารถนาให้พระเจ้าทรงวางภาระบนตัวเจ้ามากขึ้น และวางพระทัยมอบหมายกิจการที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีกให้เจ้า เพื่อที่เจ้าอาจจะมีเส้นทางที่เจ้าจะได้ปฏิบัติมากขึ้นเบื้องหน้าเจ้า เพื่อที่การกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้าจะเกิดผลที่ยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อที่เจ้าจะสามารถจับความเข้าใจในแก่นแท้ของพระวจนะของพระองค์ได้เพิ่มมากขึ้น และเพื่อที่เจ้าจะกลับกลายเป็นสามารถถูกขับเคลื่อนโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้มากขึ้น

การกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้า การฝึกฝนปฏิบัติการอธิษฐาน การยอมรับพระภาระของพระเจ้า และการยอมรับภารกิจที่พระองค์วางพระทัยมอบหมายให้เจ้า—ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อที่จะได้มีเส้นทางอยู่เบื้องหน้าเจ้า ยิ่งพระภาระแห่งการวางพระทัยมอบหมายของพระเจ้าทำให้เจ้าเป็นกังวลมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งง่ายมากขึ้นเท่านั้นที่เจ้าจะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระองค์ บางคนไม่เต็มใจร่วมมือกับผู้อื่นในการปรนนิบัติพระเจ้า แม้กระทั่งเมื่อพวกเขาได้รับการทรงเรียก เหล่านี้เป็นผู้คนที่เกียจคร้านผู้ปรารถนาเพียงแค่ได้เริงร่าในสิ่งชูใจเท่านั้น ยิ่งเจ้าถูกขอให้ปรนนิบัติในการประสานงานกับผู้อื่นมากขึ้นเท่าใด เจ้าก็จะยิ่งได้รับประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น เจ้าจะได้รับโอกาสที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมมากยิ่งขึ้น เพราะเจ้ามีภาระและประสบการณ์มากขึ้น ดังนั้น หากเจ้าสามารถปรนนิบัติพระเจ้าด้วยความจริงใจ เช่นนั้นแล้ว เจ้าก็จะใส่ใจต่อพระภาระของพระเจ้า เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็จะมีโอกาสเหมาะมากขึ้นที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า เป็นผู้คนเช่นนี้เพียงกลุ่มเดียวที่กำลังได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมในปัจจุบัน ยิ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์สัมผัสเจ้ามากขึ้นเท่าใด เจ้าก็จะยิ่งมีเวลาอุทิศให้แก่การใส่ใจต่อพระภาระของพระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น เจ้าจะยิ่งได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น และเจ้าจะยิ่งได้รับการทรงรับไว้โดยพระองค์มากขึ้นเท่านั้น—จนกระทั่ง ในที่สุดเจ้าจะกลายเป็นบุคคลผู้ที่พระเจ้าทรงใช้ ในปัจจุบัน มีบางคนที่ไม่แบกภาระให้กับคริสตจักร ผู้คนเหล่านี้ย่อหย่อนและเหลวไหล และสนใจแต่เนื้อหนังของพวกเขาเองเท่านั้น คนเช่นนี้เห็นแก่ตัวอย่างสุดขั้ว และพวกเขายังตาบอดอีกด้วย หากเจ้าไม่สามารถมองเห็นเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน เจ้าจะไม่แบกภาระใดๆ เลย ยิ่งเจ้าใส่ใจต่อน้ำพระทัยของพระเจ้ามากขึ้นเท่าใด พระภาระที่พระเจ้าจะวางพระทัยมอบหมายให้เจ้าก็จะยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น ผู้ที่เห็นแก่ตัวไม่เต็มใจที่จะทนทุกข์กับสิ่งต่างๆ ดังกล่าว พวกเขาไม่เต็มใจชดใช้ และเนื่องจากผลนั้น พวกเขาจะพลาดโอกาสเหมาะที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า พวกเขามิได้กำลังทำอันตรายตัวพวกเขาเองอยู่หรอกหรือ? หากเจ้าเป็นใครบางคนที่ใส่ใจต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า เช่นนั้นแล้วเจ้าก็จะทำให้ภาระแท้จริงเพื่อคริสตจักรเป็นรูปร่างขึ้น อันที่จริง แทนที่จะเรียกการนี้ว่าภาระที่เจ้าแบกให้กับคริสตจักร คงจะดีกว่าหากจะเรียกมันว่าภาระที่เจ้าแบกเพื่อประโยชน์ต่อชีวิตของตัวเจ้าเอง ทั้งนี้เพราะจุดประสงค์ของภาระนี้ที่เจ้าทำให้เป็นรูปร่างขึ้นเพื่อคริสตจักรคือการให้เจ้าใช้ประสบการณ์เช่นนี้เพื่อได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า ดังนั้น ใครก็ตามที่แบกภาระยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อคริสตจักร ใครก็ตามที่แบกภาระเพื่อการเข้าสู่ชีวิต—พวกเขาก็จะเป็นผู้ที่ได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า เจ้าได้มองเห็นการนี้อย่างชัดเจนหรือไม่? หากคริสตจักรที่เจ้าอยู่ด้วยกระจัดกระจายเหมือนทราย แต่เจ้ากลับไม่เป็นห่วงหรือวิตกกังวล และเจ้าถึงกับแสร้งทำเป็นไม่เห็นเมื่อพี่น้องชายหญิงของเจ้าไม่กินและดื่มพระวจนะของพระเจ้าอย่างเป็นปกติ เช่นนั้นแล้ว เจ้าก็ไม่ได้กำลังแบกภาระใดๆ อยู่ ผู้คนเช่นนี้ไม่ใช่คนประเภทที่พระเจ้าทรงปีติยินดี คนประเภทที่พระเจ้าทรงปีติยินดีหิวกระหายความชอบธรรมและใส่ใจต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้ เจ้าควรกลายเป็นผู้ใส่ใจต่อพระภาระของพระเจ้า ณ ที่นี่และในตอนนี้ เจ้าไม่ควรรอให้พระเจ้าเปิดเผยพระอุปนิสัยอันชอบธรรมของพระองค์ต่อมนุษยชาติทั้งปวงก่อนที่จะใส่ใจต่อพระภาระของพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลานั้น มันจะไม่สายเกินไปหรอกหรือ? บัดนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า หากเจ้าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เจ้าก็จะเสียใจไปจนตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของเจ้า เช่นเดียวกับที่โมเสสไม่สามารถเข้าสู่แผ่นดินอันดีแห่งดินแดนคานาอันได้ และเสียใจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา ตายไปด้วยความสำนึกผิด ทันทีที่พระเจ้าได้เปิดเผยพระอุปนิสัยอันชอบธรรมของพระองค์ต่อผู้คนทั้งปวงแล้ว เจ้าก็จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียใจ ต่อให้พระเจ้ามิได้ทรงตีสอนเจ้า เจ้าก็จะตีสอนตัวเจ้าเอง เพราะความสำนึกผิดของเจ้าเอง บางคนไม่เชื่อในเรื่องนี้ แต่หากเจ้าไม่เชื่อ ก็เพียงแค่รอดู มีผู้คนบางคนผู้ซึ่งจุดประสงค์เดียวของพวกเขาคือการทำให้วจนะเหล่านี้ลุล่วง เจ้าเต็มใจพลีอุทิศตัวเจ้าเองเพื่อประโยชน์ของวจนะเหล่านี้หรือไม่?

หากเจ้าไม่เสาะแสวงโอกาสเหมาะที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า และหากเจ้าไม่เพียรพยายามที่จะล้ำหน้าผู้อื่นในกลุ่มในการแสวงหาความเพียบพร้อมของเจ้า เช่นนั้นแล้ว ในท้ายที่สุด เจ้าก็จะเต็มไปด้วยความสำนึกผิด โอกาสที่เหมาะที่สุดที่จะบรรลุถึงความเพียบพร้อมคือปัจจุบัน บัดนี้คือเวลาที่เหมาะสมอย่างสุดขั้ว หากเจ้าไม่พยายามอย่างจริงจังจริงใจที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า ทันทีที่พระราชกิจของพระองค์ได้สรุปปิดตัว มันก็จะสายเกินไป—เจ้าจะพลาดโอกาสไปแล้ว ไม่สำคัญว่าความทะเยอทะยานของเจ้าจะยิ่งใหญ่เพียงใด หากพระเจ้าไม่ทรงปฏิบัติพระราชกิจอีกต่อไป เช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะใช้ความพยายามใดก็ตาม เจ้าจะไม่มีวันมีความสามารถที่จะบรรลุถึงความเพียบพร้อมได้เลย เจ้าต้องชิงโอกาสนี้มาและร่วมมือในขณะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงพระราชกิจอย่างใหญ่หลวงของพระองค์ หากเจ้าพลาดโอกาสนี้ เจ้าก็จะไม่ได้รับโอกาสอีก ไม่สำคัญว่าเจ้าจะทำความพยายามใด พวกเจ้าบางคนร้องว่า "ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์เต็มใจที่จะใส่ใจต่อพระภาระของพระองค์ และข้าพระองค์เต็มใจที่จะทำให้สมดังน้ำพระทัยของพระองค์!" อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่มีเส้นทางที่จะปฏิบัติ ดังนั้นเอง ภาระของเจ้าก็จะไม่คงอยู่ถาวร หากเจ้ามีเส้นทางอยู่เบื้องหน้า เช่นนั้นแล้ว เจ้าก็จะได้รับประสบการณ์ทีละย่างก้าว และประสบการณ์ของเจ้าจะได้รับการก่อให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นและจัดตั้งขึ้น ภายหลังจากที่ภาระหนึ่งได้ครบบริบูรณ์แล้ว เจ้าก็จะได้รับมอบอีกภาระหนึ่ง ขณะที่ประสบการณ์ชีวิตของเจ้าลึกซึ้งขึ้น ภาระของเจ้าก็จะลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน ผู้คนบางคนแบกภาระต่อเมื่อได้รับการสัมผัสจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น หลังจากระยะเวลาหนึ่ง ทันทีที่พวกเขาไม่มีเส้นทางให้ปฏิบัติอีกต่อไป พวกเขาก็หยุดแบกภาระใดๆ เสีย เจ้าไม่สามารถทำให้ภาระทั้งหลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นโดยเพียงการกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้าเท่านั้น จากการเข้าใจความจริงมากหลาย เจ้าก็จะได้รับการหยั่งรู้ ได้เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาโดยการใช้ความจริง และได้รับความเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้าและน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างถ่องแท้มากยิ่งขึ้น ด้วยสิ่งเหล่านี้ เจ้าก็จะทำให้ภาระทั้งหลายที่จะแบกรับเป็นรูปเป็นร่างขึ้น และเมื่อถึงตอนนั้นเท่านั้นเจ้าจึงจะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม หากเจ้ามีภาระหนึ่ง แต่ไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจนต่อความจริง เช่นนั้นแล้ว นั่นก็จะไม่ได้ประโยชน์อันใดเช่นกัน เจ้าต้องมีประสบการณ์กับพระวจนะของพระเจ้าเป็นการส่วนตัว และรู้วิธีปฏิบัติพระวจนะเหล่านั้น หลังจากที่เจ้าได้เข้าสู่ความเป็นจริงด้วยตัวเจ้าเองแล้วเท่านั้น เจ้าจึงจะมีความสามารถที่จะจัดเตรียมให้กับผู้อื่นได้ นำทางผู้อื่นได้ และได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าได้

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, จงใส่ใจในน้ำพระทัยของพระเจ้าเพื่อบรรลุความเพียบพร้อม

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger