พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระราชกิจของพระเจ้า | บทตัดตอน 207

วันที่ 24 เดือน 12 ปี 2023

วันนี้ มีพวกที่ยังคงไม่เข้าใจว่าอะไรคือพระราชกิจใหม่ที่พระเจ้าได้ทรงเริ่มทำ ท่ามกลางชนต่างชาติ พระเจ้าได้ทรงนำมาซึ่งการเริ่มต้นใหม่ พระองค์ได้เริ่มยุคสมัยใหม่และริเริ่มพระราชกิจใหม่—และพระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกิจนี้กับพงศ์พันธุ์ของโมอับ นี่ไม่ใช่พระราชกิจใหม่ที่สุดของพระองค์หรอกหรือ? ไม่มีใครเลยสักคนทั่วทั้งประวัติศาสตร์ได้เคยมีประสบการณ์กับพระราชกิจนี้มาก่อน ไม่มีใครเคยได้ยินเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ และนับประสาอะไรที่จะได้ซาบซึ้งกับมัน พระปรีชาญาณของพระเจ้า การอัศจรรย์ของพระเจ้า ความไม่อาจหยั่งถึงได้ของพระเจ้า ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า และความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ล้วนถูกสำแดงให้ปรากฏผ่านช่วงระยะนี้ของพระราชกิจ พระราชกิจแห่งยุคสุดท้าย นี่ไม่ใช่พระราชกิจใหม่ พระราชกิจซึ่งพังทลายมโนคติที่หลงผิดของมนุษย์หรอกหรือ? มีพวกที่คิดดังนี้: "ในเมื่อพระเจ้าทรงสาปแช่งโมอับและได้ตรัสไว้ว่าพระองค์จะละทิ้งพงศ์พันธุ์ของโมอับ แล้วในตอนนี้ พระองค์จะสามารถช่วยพวกเขาให้รอดได้อย่างไร?" เหล่านี้คือพวกคนต่างชาติที่ถูกพระเจ้าทรงสาปแช่งและขับออกจากประเทศอิสราเอล คนอิสราเอลเรียกพวกเขาว่า "สุนัขต่างชาติ" ในมุมมองของทุกคน พวกเขาไม่เพียงเป็นสุนัขต่างชาติเท่านั้น แต่ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือ ยังเป็นบุตรแห่งการทำลายล้าง ซึ่งกล่าวได้ว่า พวกเขาไม่ใช่ผู้คนที่พระเจ้าทรงเลือกสรร พวกเขาอาจเกิดมาภายในเขตแดนของประเทศอิสราเอล แต่พวกเขาไม่ได้เป็นของประชาชนอิสราเอล และถูกขับไล่ไปยังชนต่างชาติ พวกเขาต่ำต้อยที่สุดในบรรดาผู้คนทั้งหมด แท้จริงแล้วมันเป็นเพราะพวกเขาต่ำต้อยที่สุดท่ามกลางมนุษยชาติที่พระเจ้าทรงดำเนินพระราชกิจของพระองค์ในการเปิดตัวยุคใหม่ท่ามกลางพวกเขา เนื่องจากพวกเขาเป็นตัวแทนของมนุษยชาติที่เสื่อมทราม พระราชกิจของพระเจ้านั้นมีการคัดสรรและตั้งเป้าเอาไว้ พระราชกิจที่พระองค์ทรงทำในผู้คนเหล่านี้ในวันนี้ก็เป็นพระราชกิจที่ทรงปฏิบัติต่อสรรพสิ่งทรงสร้างเช่นกัน โนอาห์เป็นสิ่งทรงสร้างของพระเจ้า เช่นเดียวกับพงศ์พันธุ์ของเขา ผู้ใดในพิภพที่มีเนื้อและเลือดคือสิ่งทรงสร้างของพระเจ้า พระราชกิจของพระเจ้าชี้ตรงไปที่สรรพสิ่งทรงสร้างทั้งหมด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครบางคนถูกสาปแช่งหลังจากที่พวกเขาถูกทรงสร้างขึ้นหรือไม่ พระราชกิจการบริหารจัดการของพระองค์นั้นชี้ตรงไปที่สรรพสิ่งทรงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่ผู้คนที่ทรงเลือกสรรซึ่งยังไม่ถูกสาปแช่ง เนื่องจากพระเจ้าทรงปรารถนาที่จะทรงดำเนินพระราชกิจของพระองค์ให้เสร็จสิ้นท่ามกลางสรรพสิ่งทรงสร้างของพระองค์ พระองค์ย่อมจะทรงดำเนินการจนสำเร็จบริบูรณ์อย่างแน่นอน และพระองค์จะทรงพระราชกิจท่ามกลางผู้คนเหล่านั้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพระราชกิจของพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงทรงสลายธรรมเนียมปฏิบัติทั้งหมดลงเมื่อพระองค์ทรงพระราชกิจท่ามกลางผู้คน สำหรับพระองค์แล้ว คำว่า "ถูกสาปแช่ง" "ถูกตีสอน" และ "ได้รับการอวยพร" นั้นไร้ความหมาย! พวกยิวนั้นก็ดี เช่นเดียวกับประชาชนอิสราเอลที่ทรงเลือกสรร พวกเขาเป็นคนที่มีขีดความสามารถดีและความเป็นมนุษย์ที่ดี ในช่วงเริ่มต้นนั้น พระยาห์เวห์ได้เปิดตัวพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางพวกเขา และทรงพระราชกิจแรกสุดของพระองค์—แต่การปฏิบัติพระราชกิจแห่งการพิชิตชัยพวกเขาในวันนี้ย่อมไร้ความหมาย พวกเขาอาจเป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งทรงสร้างด้วยเช่นกัน และอาจมีหลายสิ่งที่เป็นบวกเกี่ยวกับพวกเขา แต่การดำเนินการช่วงระยะนี้ของพระราชกิจท่ามกลางพวกเขาย่อมไร้ความหมาย พระเจ้าจะไม่ทรงสามารถพิชิตผู้คนและจะไม่ทรงสามารถโน้มน้าวใจสรรพสิ่งทรงสร้างได้ทั้งหมด ซึ่งแท้จริงแล้วคือเหตุผลของการสับเปลี่ยนพระราชกิจของพระองค์มายังผู้คนเหล่านี้ในประเทศของพญานาคใหญ่สีแดง ที่มีนัยสำคัญยิ่งใหญ่ที่สุดในที่นี้คือการที่พระองค์ทรงเปิดตัวยุคสมัย การที่พระองค์ทรงพังทลายกฎเกณฑ์ทั้งหมดและมโนคติที่หลงผิดของมนุษย์ทั้งหมด และการที่พระองค์ทรงสิ้นสุดพระราชกิจของยุคพระคุณทั้งหมด หากพระราชกิจปัจจุบันของพระองค์ถูกดำเนินการเสร็จสิ้นท่ามกลางคนอิสราเอล เมื่อถึงเวลาที่แผนการบริหารจัดการหกพันปีของพระองค์ปิดตัวลง ทุกคนก็จะเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของคนอิสราเอลเท่านั้น เชื่อว่าคนอิสราเอลเท่านั้นที่เป็นประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรร เชื่อว่าชาวอิสราเอลเท่านั้นที่สมควรได้รับพระพรและพระสัญญาของพระเจ้าเป็นมรดก การจุติเป็นมนุษย์ของพระเจ้าในช่วงระหว่างยุคสุดท้ายในชนต่างชาติของประเทศแห่งพญานาคใหญ่สีแดงทำให้พระราชกิจของพระเจ้าในฐานะพระเจ้าแห่งสรรพสิ่งทรงสร้างทั้งปวงนั้นสำเร็จลุล่วงลง พระองค์ทรงเสร็จสิ้นพระราชกิจการบริหารจัดการของพระองค์ครบถ้วนทั้งหมดและพระองค์ก็จบพระราชกิจส่วนกลางของพระองค์ในชนชาติของพญานาคใหญ่สีแดง หัวใจสำคัญของพระราชกิจทั้งสามช่วงระยะนี้คือความรอดของมนุษย์—กล่าวคือ การทำให้สรรพสิ่งทรงสร้างทั้งปวงนมัสการพระผู้สร้าง ดังนั้น จึงมีความหมายยิ่งใหญ่ต่อแต่ละช่วงระยะของพระราชกิจ พระเจ้าไม่ทรงทำสิ่งใดที่ปราศจากความหมายหรือคุณค่า ในด้านหนึ่งนั้น ช่วงระยะนี้ของพระราชกิจนำมาซึ่งยุคสมัยใหม่และยุติสองยุคสมัยก่อนหน้า ในอีกด้านหนึ่งนั้น มันพังทลายมโนคติที่หลงผิดของมนุษย์ทั้งหมดและหนทางอันเก่าแก่ทั้งหมดของความเชื่อและความรู้ของมนุษย์ พระราชกิจของสองยุคก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการไปตามมโนคติที่หลงผิดต่างๆ นานาของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ช่วงระยะนี้ขจัดมโนคติที่หลงผิดของมนุษย์ออกไปจนหมดสิ้น ส่งผลให้พิชิตมนุษยชาติได้อย่างถึงที่สุด พระเจ้าจะทรงพิชิตผู้คนทั้งหมดทั่วจักรวาล ด้วยการพิชิตพงศ์พันธุ์ของโมอับผ่านพระราชกิจที่ทรงดำเนินการท่ามกลางพงศ์พันธุ์ของโมอับ นี่คือนัยสำคัญลึกสุดของช่วงระยะนี้ของพระราชกิจของพระองค์ และเป็นแง่มุมที่มีค่าที่สุดของช่วงระยะนี้แห่งพระราชกิจของพระองค์ ต่อให้ตอนนี้เจ้ารู้แล้วว่าสถานะของตัวเจ้านั้นต่ำต้อยและเจ้ามีค่าต่ำ เจ้าจะยังคงรู้สึกว่าเจ้าได้พบกับสิ่งที่น่าชื่นบานที่สุด: เจ้าได้รับพระพรอันยิ่งใหญ่เป็นมรดก ได้รับพระสัญญาอันยิ่งใหญ่ และเจ้าสามารถช่วยให้พระราชกิจยิ่งใหญ่ของพระเจ้านี้สำเร็จลุล่วงไปได้ เจ้าได้เห็นโฉมพระพักตร์ที่แท้จริงของพระเจ้า เจ้ารู้จักพระอุปนิสัยโดยธรรมชาติของพระเจ้าและเจ้าทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า สองช่วงระยะก่อนหน้าของพระราชกิจของพระเจ้าทรงดำเนินการในประเทศอิสราเอล หากช่วงระยะนี้ของพระราชกิจของพระองค์ในยุคสุดท้ายดำเนินการไปจนเสร็จสิ้นท่ามกลางคนอิสราเอลอีกเช่นกันแล้วไซร้ ไม่เพียงแต่สรรพสิ่งทรงสร้างทั้งปวงจะเชื่อว่ามีเพียงคนอิสราเอลเท่านั้นที่เป็นประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรร แต่แผนการบริหารจัดการทั้งสิ้นของพระเจ้าจะพลาดจากการบรรลุผลที่ทรงพึงปรารถนา ในระหว่างช่วงเวลาที่สองช่วงระยะของพระราชกิจของพระองค์ได้ทรงดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วในประเทศอิสราเอล ไม่มีทั้งพระราชกิจใหม่—และพระราชกิจใดๆ แห่งการเปิดตัวยุคสมัยใหม่—ได้ทรงดำเนินการเสร็จสิ้นไปท่ามกลางชนต่างชาติ ช่วงระยะในวันนี้ของพระราชกิจ—พระราชกิจแห่งการเปิดตัวยุคสมัยใหม่—ทรงดำเนินการท่ามกลางชนต่างชาติก่อน และยิ่งไปกว่านั้น ทรงดำเนินการเริ่มแรก ท่ามกลางพงศ์พันธุ์ของโมอับ ดังนั้นจึงเป็นการเปิดตัวทั้งยุคสมัย พระเจ้าได้ทรงพังทลายความรู้ใดๆ ที่ถูกบรรจุอยู่ในมโนคติที่หลงผิดของมนุษย์ โดยไม่ทรงยอมให้หลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย ในพระราชกิจแห่งการพิชิตชัยของพระองค์ พระองค์ได้ทรงพังทลายมโนคติที่หลงผิดของมนุษย์ บรรดาวิถีอันเก่าแก่แห่งความรู้ของมนุษย์ก่อนหน้านี้ พระองค์ทรงให้ผู้คนมองเห็นว่ากับพระเจ้าแล้ว ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีอะไรเก่าแก่เกี่ยวกับพระเจ้า มองเห็นว่าพระราชกิจที่พระองค์ทรงทำนั้นล้วนมีเสรีภาพทั้งสิ้น ล้วนเป็นอิสระทั้งสิ้นและมองเห็นว่าพระองค์ทรงถูกต้องในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำ เจ้าต้องนบนอบอย่างสุดใจต่อพระราชกิจใดก็ตามที่พระองค์ทรงทำท่ามกลางสรรพสิ่งทรงสร้าง พระราชกิจทั้งหมดที่พระองค์ทรงทำมีความหมายและทรงดำเนินการเสร็จสิ้นโดยสอดคล้องกับน้ำพระทัยและพระปรีชาญาณของพระองค์เอง และไม่ได้เป็นไปตามตัวเลือกและมโนคติที่หลงผิด ทั้งหลายของมนุษย์ หากมีบางสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพระราชกิจของพระองค์ พระองค์ย่อมทรงทำ และถ้ามีบางสิ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อพระราชกิจของพระองค์ พระองค์ก็ย่อมทรงไม่ทำ ไม่ว่ามันจะดีเพียงใด! พระองค์ทรงพระราชกิจและทรงคัดสรรผู้รับและที่ตั้งของพระราชกิจของพระองค์โดยสอดคล้องกับความหมายและจุดประสงค์ของพระราชกิจของพระองค์ พระองค์ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ในอดีตในยามที่พระองค์ทรงพระราชกิจ และพระองค์ไม่ทรงทำตามสูตรเก่าๆ อีกด้วย แต่พระองค์กลับทรงวางแผนพระราชกิจของพระองค์โดยสอดคล้องกับนัยสำคัญของพระราชกิจแทน ในท้ายที่สุด พระองค์จะบรรลุประสิทธิผลอันแท้จริงและเป้าหมายที่มุ่งหวังไว้ หากเจ้าไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ในวันนี้ พระราชกิจนี้จะไม่เกิดประสิทธิผลในตัวเจ้าเลย

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, พระเจ้าทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสรรพสิ่งทรงสร้างทั้งปวง

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger