พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 187

วันที่ 03 เดือน 08 ปี 2021

สำหรับโลกทางวัตถุนั้น เมื่อใดก็ตามที่ผู้คนไม่เข้าใจบางสิ่งหรือปรากฏการณ์บางอย่าง พวกเขาสามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือใช้ช่องทางทั้งหลายเพื่อหาต้นกำเนิดและภูมิหลังของสิ่งเหล่านั้น แต่เมื่อกล่าวถึงอีกโลกหนึ่งที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่วันนี้—โลกฝ่ายวิญญาณ ซึ่งมีอยู่ภายนอกโลกทางวัตถุ—ผู้คนไม่มีวิธีการหรือช่องทางใดๆ ที่จะใช้เรียนรู้เกี่ยวกับมันอย่างสิ้นเชิง เหตุใดเราจึงกล่าวเช่นนี้? เรากล่าวไปเพราะ ในโลกของมวลมนุษย์นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างของโลกทางวัตถุแยกกันไม่ได้จากการดำรงอยู่ทางร่างกายของมนุษย์ และเพราะผู้คนรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างของโลกทางวัตถุนั้นแยกกันไม่ได้จากการดำรงชีวิตทางกายภาพและชีวิตทางกายภาพของพวกเขา ผู้คนส่วนใหญ่เพียงมองเห็นหรือตระหนักถึงสิ่งทั้งหลายทางวัตถุที่อยู่ต่อหน้าต่อตาของพวกเขาที่พวกเขาสามารถมองเห็นได้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึงโลกฝ่ายวิญญาณ—ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของอีกโลกหนึ่งนั้น—มันคงจะเป็นการสมควรที่จะกล่าวว่าผู้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อ เนื่องจากผู้คนไม่สามารถมองเห็นมันได้ และเชื่อว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจมันหรือที่จะต้องรู้สิ่งใดๆ เกี่ยวกับมัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าโลกฝ่ายวิญญาณเป็นโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากโลกทางวัตถุอย่างไร และเป็นโลกเปิดเมื่อมองจากมุมมองของพระเจ้า อย่างไร—ถึงแม้ว่าสำหรับมนุษย์แล้วมันเป็นความลับและเป็นโลกที่ปิดอยู่ก็ตาม—เพราะฉะนั้นผู้คนจึงค้นหาเส้นทางเพื่อที่จะเข้าใจแง่มุมทั้งหลายของโลกนี้อย่างยากลำบากยิ่ง แง่มุมที่แตกต่างของโลกฝ่ายวิญญาณที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เพียงเกี่ยวข้องกับการบริหารและอธิปไตยของพระเจ้าเท่านั้น เรามิใช่กำลังจะเผยความล้ำลึกอันใด และเรามิใช่กำลังจะบอกพวกเจ้าถึงความลับอันใดที่พวกเจ้าปรารถนาจะเรียนรู้ เนื่องจากการนี้เกี่ยวข้องกับอธิปไตยของพระเจ้า การบริหารของพระเจ้า และการจัดเตรียมของพระเจ้า เพราะฉะนั้นเราจึงจะเพียงพูดถึงส่วนที่พวกเจ้าจำเป็นต้องรู้เท่านั้น

ก่อนอื่น เราขอถามคำถามหนึ่งกับพวกเจ้า นั่นคือ ในความรู้สึกนึกคิดของพวกเจ้านั้น โลกฝ่ายวิญญาณคืออะไร? พูดโดยกว้างๆ แล้วนั้น มันคือโลกที่อยู่นอกโลกทางวัตถุ โลกที่ไม่ปรากฏแก่ตาและไม่อาจจับต้องได้สำหรับผู้คน ถึงกระนั้น ในจินตนาการของพวกเจ้า โลกฝ่ายวิญญาณควรจะเป็นโลกแบบใด? บางที ผลจากการที่ไม่สามารถมองเห็นมันได้นี้ พวกเจ้าจึงไม่สามารถคิดเกี่ยวกับมันได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเจ้าได้ยินตำนานบางอย่าง พวกเจ้ายังคงกำลังคิดถึงมันอยู่ และพวกเจ้าไม่สามารถหยุดคิดถึงมันได้ เหตุใดเราจึงกล่าวเช่นนี้? มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับผู้คนมากมายเมื่อพวกเขายังเยาว์วัย นั่นคือ เมื่อใครบางคนบอกเล่าเรื่องที่น่ากลัวแก่พวกเขา—เกี่ยวกับผี หรือดวงจิต—พวกเขารู้สึกกลัวจนขนหัวลุก พวกเขาหวาดกลัวเพราะเหตุใดกันแน่? นั่นเป็นเพราะพวกเขากำลังจินตนาการถึงสิ่งเหล่านั้นนั่นเอง ถึงแม้พวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นพวกมัน แต่พวกเขารู้สึกว่าพวกมันอยู่ทั่วห้องของพวกเขา อยู่ในที่ซ่อนเร้นหรือมุมมืดบางแห่ง และพวกเขาเกรงกลัวจนพวกเขาไม่กล้าเข้านอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามกลางคืน พวกเขารู้สึกกลัวเกินไปที่จะอยู่ตามลำพังในห้องของพวกเขาหรือที่จะเสี่ยงออกไปในลานบ้านของพวกเขาตามลำพัง นั่นคือโลกฝ่ายวิญญาณจากจินตนาการของพวกเจ้า และมันเป็นโลกที่มนุษย์คิดว่าน่ากลัว ข้อเท็จจริงก็คือทุกคนจินตนาการถึงมันถึงบางระดับเท่านั้น และทุกคนสามารถรู้สึกถึงมันได้นิดหน่อย

เรามาเริ่มพูดคุยถึงโลกฝ่ายวิญญาณกันเถิด มันคืออะไร? เราขอให้คำอธิบายสั้นๆ และเรียบง่ายแก่เจ้าว่า โลกฝ่ายวิญญาณคือสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง สถานที่ซึ่งแตกต่างจากโลกวัตถุ เหตุใดเราจึงกล่าวว่ามันสำคัญ? พวกเรากำลังจะหารือเรื่องนี้กันอย่างละเอียด การมีอยู่ของโลกฝ่ายวิญญาณเชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่นกับโลกวัตถุของมวลมนุษย์ มันมีบทบาทสำคัญในวัฏจักรแห่งชีวิตและความตายของมนุษย์ในอำนาจครอบครองเหนือสรรพสิ่งของพระเจ้า นี่คือบทบาทของมัน และนี่คือหนึ่งในเหตุผลทั้งหลายที่ทำให้การมีอยู่ของมันมีความสำคัญ เนื่องจากมันเป็นสถานที่ซึ่งสัมผัสทั้งห้าไม่สามารถหยั่งรู้ได้ จึงไม่มีใครสามารถตัดสินได้อย่างแน่ชัดว่าโลกฝ่ายวิญญาณมีอยู่หรือไม่มี พลวัตทั้งหลายของมันเชื่อมต่อกับการดำรงอยู่ของมนุษย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีผลทำให้ระเบียบชีวิตของมวลมนุษย์ได้รับอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงจากโลกฝ่ายวิญญาณด้วย การนี้เกี่ยวข้องกับอธิปไตยของพระเจ้าหรือไม่? มันเกี่ยวข้อง เมื่อเรากล่าวเช่นนี้ พวกเจ้าเข้าใจว่าเหตุใดเราจึงกำลังหารือถึงหัวข้อนี้ กล่าวคือ เป็นเพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับอธิปไตยของพระเจ้า รวมถึงการบริหารของพระองค์นั่นเอง ในโลกอย่างเช่นโลกนี้—โลกที่ไม่ปรากฏแก่ตาผู้คน—ทุกประกาศิตจากสวรรค์ ทุกประกาศกฤษฎีกา และทุกระบบบริหารของมันนั้นเหนือกว่ากฎหมายและระบบทั้งหลายของชาติใดในโลกวัตถุเป็นอย่างมาก และไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่ดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้จะกล้าขัดหรือฝ่าฝืนสิ่งเหล่านั้น การนี้เกี่ยวข้องกับอธิปไตยและการบริหารของพระเจ้าหรือไม่? ในโลกฝ่ายวิญญาณนั้น มีประกาศกฤษฎีการบริหารที่ชัดเจน ประกาศิตจากสวรรค์ที่ชัดเจน และบทบัญญัติที่ชัดเจน บรรดาผู้ดูแลในระดับแตกต่างกันและในพื้นที่ต่างๆ ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนและรักษากฎและข้อบังคับทั้งหลายอย่างเคร่งครัด เพราะพวกเขารู้ว่าผลพวงของการฝ่าฝืนประกาศิตจากสวรรค์คืออะไร พวกเขาตระหนักอย่างชัดเจนว่าพระเจ้าทรงลงโทษคนชั่วและประทานรางวัลแก่คนดีอย่างไร และว่าพระองค์ทรงบริหารและปกครองเหนือทุกสรรพสิ่งอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามองเห็นอย่างชัดเจนว่าพระองค์ทรงดำเนินการตามประกาศิตจากสวรรค์และบทบัญญัติของพระองค์อย่างไร สิ่งเหล่านี้แตกต่างจากโลกวัตถุที่มวลมนุษย์อาศัยอยู่หรือไม่? สิ่งเหล่านี้แตกต่างกันอย่างมหาศาลจริงๆ โลกฝ่ายวิญญาณเป็นโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับโลกวัตถุ ในเมื่อมีประกาศิตจากสวรรค์และบทบัญญัติเหล่านี้ เรื่องนี้จึงเกี่ยวข้องกับอธิปไตย การบริหารของพระเจ้า และยิ่งไปกว่านั้น พระอุปนิสัยของพระองค์ รวมถึงสิ่งที่พระองค์ทรงมีและทรงเป็น เมื่อได้ฟังเรื่องนี้ พวกเจ้าไม่รู้สึกว่ามันจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเราที่จะต้องพูดถึงหัวข้อนี้หรอกหรือ? พวกเจ้าไม่ปรารถนาที่จะเรียนรู้ความลับทั้งหลายภายในของโลกฝ่ายวิญญาณหรอกหรือ? (ใช่แล้ว พวกเราปรารถนา) เช่นนี้คือมโนทัศน์ของโลกฝ่ายวิญญาณ ถึงแม้ว่ามันจะดำรงอยู่ร่วมกันกับโลกวัตถุ และอยู่ภายใต้การบริหารและอำนาจปกครองสูงสุดของพระเจ้าไปพร้อมกัน แต่การบริหารและอธิปไตยในโลกนี้ของพระเจ้านั้นเข้มงวดกว่าการบริหารและอธิปไตยในโลกวัตถุเป็นอย่างมาก

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 10

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger