พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 162

วันที่ 30 เดือน 05 ปี 2024

การเข้าใจความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าผ่านทางสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อมนุษย์ (บทตอนที่คัดมา)

การหารือที่เราเพิ่งได้จัดขึ้นเกี่ยวกับความชั่วของซาตาน ทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่า มนุษย์ใช้ชีวิตท่ามกลางความทุกข์ใจอันใหญ่หลวง และรู้สึกว่าชีวิตของมนุษย์ถูกรุมเร้าด้วยโชคร้าย แต่บัดนี้เมื่อเรากำลังพูดถึงความบริสุทธิ์ของพระเจ้าและพระราชกิจที่พระองค์ทรงปฏิบัติกับมนุษย์ นั่นทำให้พวกเจ้ารู้สึกอย่างไร? (มีความสุขมาก) เราสามารถเห็นได้ตอนนี้ว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงทำ ทั้งหมดที่พระองค์ทรงจัดการเตรียมการให้มนุษย์อย่างอุตสาหะนั้น ไม่มีจุดด่างพร้อย ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงทำนั้นปราศจากความผิดพลาด ซึ่งหมายความว่ามันไม่มีข้อบกพร่อง ไม่จำเป็นต้องมีใครมาแก้ไข แนะนำ หรือทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับมัน ทั้งหมดที่พระเจ้าทรงทำเพื่อบุคคลทุกคนนั้นไม่ต้องสงสัยเลย พระองค์ทรงนำทางทุกคนโดยการจูงมือ ทรงดูแลเจ้าในทุกชั่วขณะที่กำลังผ่านไป และไม่เคยทรงห่างเจ้าแม้สักครั้ง เมื่อผู้คนเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมแบบนี้และด้วยภูมิหลังแบบนี้ เราจะกล่าวได้หรือไม่ว่าในข้อเท็จจริงแล้วผู้คนเติบโตขึ้นในอุ้งพระหัตถ์ของพระเจ้า? (ได้) ดังนั้นแล้วตอนนี้พวกเจ้ายังคงรู้สึกถึงสำนึกรับรู้ของการสูญเสียหรือไม่? มีใครบ้างไหมที่ยังคงรู้สึกท้อแท้? มีใครบ้างไหมที่รู้สึกว่าพระเจ้าได้ทรงละทิ้งมวลมนุษย์? (ไม่) ถ้าเช่นนั้นแล้วจริงๆ แล้วพระเจ้าได้ทรงทำอะไรกันแน่? (พระองค์ได้ทรงเฝ้าดูมวลมนุษย์) ความคิดและการดูแลเอาใจใส่อันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงใส่ไว้ในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำนั้นไม่ต้องสงสัยเลย ที่มากไปกว่านั้นคือ ในการดำเนินพระราชกิจของพระองค์ พระองค์ได้ทรงทำเช่นนั้นโดยไม่มีเงื่อนไขเสมอมา พระองค์ไม่เคยทรงพึงประสงค์ให้เจ้าคนใดต้องรู้ราคาที่พระองค์ทรงจ่ายเพื่อเจ้าเพื่อทำให้เจ้ารู้สึกสำนึกในพระคุณของพระองค์อย่างลึกซึ้ง พระเจ้าได้ทรงเคยพึงประสงค์การนี้จากเจ้าหรือไม่? (ไม่) ในช่วงระยะเวลาอันยาวนานของชีวิตมนุษย์ แทบจะทุกคนได้เคยเผชิญกับสถานการณ์อันตรายมากมายและเผชิญหน้ากับการทดลองมากมาย นี่เป็นเพราะซาตานกำลังยืนข้างเจ้า ดวงตาของมันจับจ้องที่เจ้าตลอดเวลา เมื่อความวิบัติถล่มเจ้า ซาตานเพลิดเพลินในการนี้ เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้นกับเจ้า เมื่อไม่มีอะไรเลยที่ถูกต้องสำหรับเจ้า เมื่อเจ้ากลายเป็นติดพันในใยของซาตาน ซาตานมีความสุขสำราญใหญ่หลวงจากสิ่งเหล่านี้ ในส่วนของสิ่งที่พระเจ้ากำลังทรงทำอยู่นั้น พระองค์กำลังทรงปกป้องเจ้ากับทุกชั่วขณะที่กำลังผ่านไป ทรงนำทางเจ้าให้ห่างจากโชคร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าและจากความวิบัติครั้งแล้วครั้งเล่า นี่คือเหตุผลที่เรากล่าวว่าทุกอย่างที่มนุษย์มี—สันติสุขและความชื่นบานยินดี พระพรและความปลอดภัยส่วนบุคคล—ในข้อเท็จจริงแล้วทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า พระองค์ทรงนำและทรงกำหนดตัดสินชะตากรรมของแต่ละคน แต่พระเจ้าทรงมีมโนคติที่หลงผิดมากเกินปกติเกี่ยวกับพระฐานะของพระองค์ อย่างที่ผู้คนบางคนพูดกันหรือไม่? พระเจ้าทรงประกาศกับเจ้าหรือไม่ว่า "เราคือผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากสิ่งทั้งปวง เป็นเรานั่นเองที่ควบคุมดูแลพวกเจ้า พวกเจ้าต้องร้องขอความปรานีจากเรา และการไม่เชื่อฟังจะถูกลงโทษด้วยความตาย"? พระเจ้าทรงเคยข่มขู่มวลมนุษย์ด้วยวิธีนี้หรือ? (ไม่) พระองค์เคยตรัสหรือไม่ว่า "มวลมนุษย์นั้นเสื่อมทราม ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าเราปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร และพวกเขาอาจได้รับการปฏิบัติในวิธีใดก็ได้ เราไม่จำเป็นต้องทำการจัดการเตรียมการอันสมบูรณ์สำหรับพวกเขา"? พระเจ้าทรงพระดำริในหนทางนี้หรือ? พระเจ้าได้ทรงปฏิบัติพระองค์ในหนทางนี้หรือ? (ไม่) ในทางตรงกันข้าม การปฏิบัติของพระเจ้าต่อแต่ละบุคคลนั้นเป็นไปอย่างจริงจังจริงใจ และด้วยความรับผิดชอบ พระองค์ทรงปฏิบัติกับเจ้าอย่างรับผิดชอบมากกว่าที่เจ้าปฏิบัติกับตัวเอง นี่ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกหรือ? พระเจ้าไม่ตรัสอย่างหาสาระไม่ได้ อีกทั้งพระองค์ก็ไม่ทรงโอ้อวดพระฐานะอันสูงส่งของพระองค์หรือหลอกลวงผู้คนอย่างตลกคะนอง แทนที่จะเป็นเช่นนั้นพระองค์ทรงทำสิ่งต่างๆ ที่พระองค์เองทรงจำเป็นต้องทำอย่างสุจริตใจและอย่างเงียบๆ สิ่งเหล่านี้นำพระพร สันติสุข และความชื่นบานยินดีมาสู่มนุษย์ พวกมันนำพามนุษย์ไปสู่ สายพระเนตรของพระเจ้าและไปสู่ครอบครัวของพระองค์อย่างสงบสุขและอย่างเป็นสุข แล้วพวกเขาจึงดำเนินชีวิตเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าและยอมรับความรอดของพระเจ้าด้วยเหตุผลและการคิดที่ปกติ ดังนั้นแล้วพระเจ้าได้ทรงเคยตีสองหน้ากับมนุษย์ในพระราชกิจของพระองค์หรือไม่? พระองค์ได้ทรงเคยแสดงความเมตตาเทียมเท็จ โดยก่อนอื่นหลอกลวงมนุษย์ด้วยการล้อเล่นไม่กี่อย่างแล้วจึงทรงหันหลังไปหรือไม่? (ไม่) พระเจ้าได้เคยตรัสอย่างหนึ่งแล้วจึงทรงทำอีกอย่างหรือไม่? พระเจ้าได้ทรงเคยทำสัญญาที่ทำไม่ได้และอวดตัวแต่แล้วก็ทรงหายไปหรือไม่ โดยทรงบอกผู้คนว่าพระองค์สามารถทำการนี้เพื่อพวกเขาได้หรือช่วยทำการนั้นเพื่อพวกเขาได้? (ไม่) ไม่มีการหลอกลวงในพระเจ้า ไม่มีความเทียมเท็จ พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ และพระองค์ทรงจริงแท้ในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำ พระองค์ทรงเป็นองค์หนึ่งเดียวเท่านั้นที่ผู้คนสามารถเชื่อใจได้ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ซึ่งผู้คนสามารถมอบความไว้วางใจในชีวิตของพวกเขาและทุกสิ่งที่พวกเขามีได้ เนื่องจากไม่มีการหลอกลวงในพระเจ้า พวกเราสามารถกล่าวได้หรือไม่ว่าพระเจ้าทรงจริงใจที่สุด? (ได้) แน่นอนว่าพวกเราสามารถกล่าวได้! แม้คำว่า "จริงใจ" นั้นอ่อนด้อยเกินไป มีความเป็นมนุษย์มากเกินไปเมื่อนำไปใช้กับพระเจ้า มีคำอื่นใดให้เราใช้หรือไม่? เช่นนั้นคือขีดจำกัดของภาษาของมนุษย์ แม้ว่าจะค่อนข้างไม่เหมาะสมที่จะเรียกพระเจ้าว่า "จริงใจ" กระนั้นก็ตามพวกเราจะใช้คำนี้สำหรับตอนนี้ พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อและจริงใจ ดังนั้นแล้วเมื่อเราพูดถึงแง่มุมเหล่านี้ เรากำลังอ้างอิงถึงอะไร? เรากำลังอ้างอิงถึงความแตกต่างระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์และความแตกต่างระหว่างพระเจ้ากับซาตานหรือไม่? ใช่ เราอาจกล่าวเช่นนั้นได้ นี่เป็นเพราะมนุษย์ไม่สามารถเห็นร่องรอยหนึ่งของอุปนิสัยอันเสื่อมทรามของซาตานในพระเจ้าได้ เราพูดถูกหรือไม่ในเรื่องนี้? อาเมน? (อาเมน!) เราไม่เห็นความชั่วของซาตานที่เปิดเผยให้เห็นในพระเจ้าเลย ทั้งหมดที่พระเจ้าทรงทำและทรงเปิดเผยให้เห็นนั้นเป็นประโยชน์และช่วยมนุษย์ทั้งสิ้น ทำอย่างเต็มที่เพื่อจัดเตรียมให้มนุษย์ เต็มเปี่ยมด้วยชีวิตและให้มนุษย์มีถนนที่จะติดตามและมีทิศทางที่จะใช้ พระเจ้าไม่ทรงเสื่อมทราม และยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เมื่อดูทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงทำ เราสามารถพูดได้หรือไม่ว่าพระเจ้าทรงบริสุทธิ์? (ได้) เนื่องจากพระเจ้าไม่ทรงมีความเสื่อมทรามของมวลมนุษย์อีกทั้งอุปนิสัยอันเสื่อมทรามอย่างเดียวกันใดๆ ของมวลมนุษย์หรือแก่นแท้ของซาตาน และไม่มีอะไรเลยเกี่ยวกับพระเจ้าที่มีความคล้ายคลึงใดๆ กับสิ่งเหล่านี้ จากมุมมองนี้เราสามารถกล่าวได้ว่าพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ พระเจ้าไม่ทรงแสดงความเสื่อมทรามใดๆ และการเปิดเผยแก่นแท้ของพระองค์เองในพระราชกิจของพระองค์ทั้งหมดล้วนแต่เป็นการยืนยันว่าพระเจ้าพระองค์เองทรงบริสุทธิ์ พวกเจ้าเห็นการนี้หรือไม่? เพื่อที่จะรู้จักแก่นแท้อันบริสุทธิ์ของพระเจ้า ตอนนี้เรามาดูสองแง่มุมนี้กัน: 1) ไม่มีร่องรอยของอุปนิสัยอันเสื่อมทรามในพระเจ้า 2) แก่นแท้ของพระราชกิจต่อมนุษย์ของพระเจ้าเปิดโอกาสให้มนุษย์ได้เห็นแก่นแท้ของพระเจ้าเอง และแก่นแท้นี้เป็นด้านบวกทั้งสิ้น เนื่องจากสิ่งต่างๆ ที่พระราชกิจทุกส่วนของพระเจ้านำมาสู่มนุษย์นั้นล้วนเป็นด้านบวก ก่อนอื่น พระเจ้าทรงพึงประสงค์ให้มนุษย์นั้นซื่อสัตย์—นี่ไม่ใช่เรื่องด้านบวกหรอกหรือ? พระเจ้าทรงมอบปัญญาแก่มนุษย์—นี่ไม่ใช่ด้านบวกหรอกหรือ? พระเจ้าทรงทำให้มนุษย์สามารถหยั่งรู้ได้ระหว่างความดีและความชั่ว—นี่ไม่ใช่ด้านบวกหรอกหรือ? พระองค์ทรงเปิดโอกาสให้มนุษย์เข้าใจความหมายและคุณค่าของชีวิตมนุษย์—นี่ไม่ใช่ด้านบวกหรอกหรือ? พระองค์ทรงเปิดโอกาสให้มนุษย์มองเห็นเข้าไปข้างในแก่นแท้ของผู้คน เหตุการณ์ต่างๆ และสิ่งต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับความจริง—นี่ไม่ใช่ด้านบวกหรอกหรือ? (ใช่ มันเป็นด้านบวก) และผลลัพธ์ของทั้งหมดนี้ก็คือว่า มนุษย์ไม่ถูกซาตานหลอกอีกต่อไป จะไม่ถูกซาตานทำอันตรายหรือควบคุมต่อเนื่องอีกต่อไป อีกนัยหนึ่ง สิ่งเหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้คนปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระจากความเสื่อมทรามของซาตานโดยสิ้นเชิง และดังนั้นจึงค่อยๆ เดินไปบนเส้นทางแห่งการยำเกรงพระเจ้าและการหลบเลี่ยงความชั่ว

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 6

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

วิดีโอประเภทอื่นๆ

การอ่าน “พระวจนะฯ เล่ม 1: การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า” การอ่านพระวจนะของพระเจ้าประจำวัน การอ่าน “พระวจนะฯ เล่ม 2: ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า” การอ่าน “พระวจนะฯ เล่ม 3: บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย” การอ่าน “พระวจนะฯ เล่ม 5: หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน” การอ่าน “พระวจนะฯ เล่ม 6: ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง” ภาพยนตร์ข่าวประเสริฐ ชุดคำเทศนา: การแสวงหาความเชื่อที่แท้จริง คำพยานแห่งชีวิตคริสตจักร ภาพยนตร์เกี่ยวกับคำพยานถึงประสบการณ์ชีวิต ภาพยนตร์การข่มเหงทางศาสนา การเต้นรำขับร้องเพลงประสานเสียง ซีรีย์วิดีโอการขับร้องเพลงประสานเสียง ชีวิตของคริสตจักร—ซีรีส์รายการวาไรตี้ มิวสิกวีดีโอ วิดีโอเพลงสรรเสริญ การเปิดเผยความจริง ส่วนที่ตัดตอนมาจากภาพยนตร์เรื่องยาว

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger