พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 156

วันที่ 30 เดือน 05 ปี 2021

ซาตานใช้นามของวิทยาศาสตร์เพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ความอยากของมนุษย์ที่จะสำรวจวิทยาศาสตร์และสืบสาวราวเรื่องความล้ำลึกต่างๆ ในนามของวิทยาศาสตร์ ซาตานตอบสนองความต้องการด้านวัตถุของมนุษย์และข้อเรียกร้องของมนุษย์เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นด้วยข้ออ้างนี้เองที่ซาตานใช้วิทยาศาสตร์เพื่อทำให้มนุษย์เสื่อมทราม มันเป็นเพียงการคิดของมนุษย์หรือจิตใจของมนุษย์เท่านั้นหรือที่ซาตานทำให้เสื่อมทรามโดยใช้วิทยาศาสตร์ด้วยวิธีนี้? ในบรรดาผู้คน เหตุการณ์ต่างๆ และสิ่งต่างๆ ในสิ่งรอบตัวของเราที่เราสามารถเห็นได้และที่เราได้มาสัมผัสด้วย มีอะไรอีกบ้างในบรรดาสิ่งเหล่านี้ที่ซาตานทำให้เสื่อมทรามด้วยวิทยาศาสตร์? (สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ) ถูกต้อง ดูเหมือนว่าพวกเจ้าได้รับอันตรายจากการนี้อย่างล้ำลึก และได้รับผลกระทบอย่างล้ำลึก นอกเหนือจากการใช้ผลของการสืบค้นและข้อสรุปต่างๆ ของวิทยาศาสตร์เพื่อหลอกลวงมนุษย์แล้ว ซาตานยังใช้วิทยาศาสตร์เป็นวิถีทางเพื่อดำเนินการทำลายล้างอันโหดร้าย และการแสวงหาผลประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมในการดำรงชีวิตซึ่งพระเจ้าได้ประทานแก่มนุษย์อีกด้วย มันทำการนี้ภายใต้ข้ออ้างว่า หากมนุษย์ดำเนินการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เช่นนั้นแล้วสิ่งแวดล้อมในการดำรงชีวิตและคุณภาพของชีวิตของมนุษย์ย่อมจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยิ่งไปกว่านั้นก็คือว่า จุดประสงค์ของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์นั้นก็เพื่อตอบสนองความต้องการด้านวัตถุที่เพิ่มขึ้นรายวันของผู้คนและความต้องการของพวกเขาที่จะทำให้คุณภาพของชีวิตของพวกเขาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่คือพื้นฐานทางทฤษฎีของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของซาตาน อย่างไรก็ดี วิทยาศาสตร์ได้นำสิ่งใดมาสู่มนุษยชาติ? สิ่งแวดล้อมซึ่งเราเชื่อมโยงถึงนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง? อากาศที่มวลมนุษย์หายใจไม่ได้กลายเป็นมีมลพิษหรอกหรือ? น้ำที่เราดื่มยังคงบริสุทธิ์อย่างแท้จริงหรือไม่? (ไม่) อาหารที่เราบริโภคเป็นธรรมชาติหรือไม่? ส่วนใหญ่ของมันเติบโตโดยใช้ปุ๋ยเคมีและเพาะปลูกโดยใช้การดัดแปลงพันธุกรรม และยังมีการกลายพันธุ์ที่เกิดจากการใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์หลากหลายวิธีเช่นกัน แม้กระทั่งผักและผลไม้ที่เรากินก็ไม่เป็นธรรมชาติอีกต่อไป แม้กระทั่งไข่ตามธรรมชาติก็ไม่ง่ายที่จะพบได้อีกต่อไป และไข่ก็ไม่มีรสชาติเหมือนที่เคยมีอีกต่อไป เมื่อได้ถูกแปรสภาพโดยสิ่งที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์ของซาตานไปแล้ว ดูที่ภาพใหญ่ บรรยากาศทั้งหมดทั้งมวลได้ถูกทำลายและทำให้เป็นมลพิษ ภูเขา ทะเลสาบ ป่าไม้ แม่น้ำ มหาสมุทร และทุกสิ่งเหนือและใต้ผืนดินทั้งหมดได้ถูกทำให้พินาศโดยสิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ สรุปสั้นๆ สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติทั้งมวล สิ่งแวดล้อมในการดำรงชีวิตซึ่งพระเจ้าได้ทรงมอบแก่มนุษยชาติ ได้ถูกทำลายและถูกทำให้พินาศโดยสิ่งที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์ แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากที่ได้รับสิ่งที่พวกเขาหวังอยู่ตลอดเวลาในด้านคุณภาพของชีวิตที่พวกเขาแสวงหา ตอบสนองทั้งความอยากได้อยากมีของพวกเขาและเนื้อหนังของพวกเขา สิ่งแวดล้อมที่มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่นั้นโดยสาระสำคัญแล้วได้ถูกทำลายและทำให้พินาศโดย "ความสำเร็จ" หลากหลายซึ่งนำมาโดยวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ เราไม่มีสิทธิที่จะหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปสักเฮือกหนึ่งอีกต่อไป นี่ไม่ใช่ความโศกเศร้าของมวลมนุษย์หรอกหรือ? มีความสุขใดหลงเหลืออยู่ให้พูดถึงสำหรับมนุษย์หรือไม่ เมื่อเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่แบบนี้? พื้นที่และสิ่งแวดล้อมในการดำเนินชีวิตซึ่งมนุษย์ใช้ชีวิตอยู่นี้ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าเพื่อมนุษย์ตั้งแต่แรกเริ่ม น้ำที่ผู้คนดื่ม อากาศที่ผู้คนหายใจเข้าไป อาหารที่ผู้คนกิน พืช ต้นไม้ และมหาสมุทร—ทุกส่วนของสิ่งแวดล้อมในการดำรงชีวิตนี้พระเจ้าได้ทรงมอบแก่มนุษย์ มันเป็นธรรมชาติ ดำเนินการโดยสอดคล้องกับกฎธรรมชาติซึ่งบัญญัติขึ้นโดยพระเจ้า หากไม่มีวิทยาศาสตร์ ผู้คนคงจะมีความสุขและน่าจะได้ชื่นชมไปกับทุกสิ่งในสภาวะดั้งเดิมที่สุดของมัน โดยสอดคล้องกับหนทางแห่งพระเจ้าและสอดคล้องกับสิ่งที่พระเจ้าได้ประทานแก่พวกเขาเพื่อที่จะชื่นชม อย่างไรก็ดี ตอนนี้ ทั้งหมดนี้ได้ถูกซาตานทำลายและทำให้พินาศแล้ว พื้นที่อยู่อาศัยพื้นฐานของมนุษย์ไม่ได้อยู่ในสภาวะดั้งเดิมอีกต่อไป แต่ไม่มีใครสามารถระลึกรู้ได้ว่าอะไรทำให้เกิดการนี้หรือการนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร และมีผู้คนอีกมากที่เข้าหาวิทยาศาสตร์และเข้าใจมันโดยผ่านทางแนวคิดที่ซาตานปลูกฝังในตัวพวกเขา นี่ไม่น่ารังเกียจหรือน่าเวทนาอย่างยิ่งหรอกหรือ? ด้วยซาตานที่ตอนนี้ได้ครอบครองพื้นที่ซึ่งผู้คนดำรงอยู่แล้ว รวมถึงสิ่งแวดล้อมในการดำรงชีวิตของพวกเขา และทำให้พวกเขาเสื่อมทรามอยู่ในสภาวะนี้แล้ว และด้วยมนุษยชาติที่ยังคงพัฒนาต่อไปในหนทางนี้ มีความจำเป็นใดสำหรับพระเจ้าที่จะต้องทำลายผู้คนเหล่านี้ด้วยพระองค์เองหรือไม่? หากผู้คนยังคงพัฒนาต่อไปในหนทางนี้ พวกเขาจะใช้ทิศทางใด? (พวกเขาจะถูกถอนรากถอนโคน) พวกเขาจะถูกถอนรากถอนโคนอย่างไรเล่า? นอกเหนือจากการค้นหาชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติอันละโมบของผู้คนแล้ว พวกเขายังดำเนินการการสำรวจทางวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่องและดำดิ่งลึกเข้าไปในการค้นคว้าวิจัย แล้วยังกระทำการอย่างไม่หยุดหย่อนในแบบที่เป็นการตอบสนองความต้องการด้านวัตถุและความอยากได้อยากมีของพวกเขาเอง เช่นนั้นแล้วอะไรคือผลสืบเนื่องสำหรับมนุษย์? ก่อนอื่น ความสมดุลของระบบนิเวศถูกทำลายลง และเมื่อการนี้เกิดขึ้น ร่างกายของผู้คน อวัยวะภายในของพวกเขา ถูกปนเปื้อนและได้รับความเสียหายจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่สมดุลนี้ และโรคติดต่อและโรคระบาดหลากหลายชนิดก็แพร่กระจายไปทั่วโลก มันไม่จริงหรือที่ตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่มนุษย์ไม่มีการควบคุมได้เลย? มาถึงตอนนี้ที่พวกเจ้าเข้าใจการนี้แล้ว หากมนุษยชาติไม่ติดตามพระเจ้า แต่ติดตามซาตานในหนทางนี้อยู่เสมอ—การใช้ความรู้เพื่อทำให้ตัวพวกเขาเองบริบูรณ์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง การใช้วิทยาศาสตร์เพื่อสำรวจอนาคตของชีวิตมนุษย์อย่างไม่หยุดหย่อน การใช้วิธีการแบบนี้เพื่อดำรงชีวิตต่อไป—เจ้าสามารถระลึกรู้ได้หรือไม่ว่าการนี้จะจบลงอย่างไรสำหรับมนุษยชาติ? (มันจะหมายถึงการสูญพันธุ์) ใช่แล้ว มันจะจบลงด้วยการสูญพันธุ์: มนุษยชาติเข้าใกล้การสูญพันธุ์ของตัวเองขึ้นทุกที ทีละก้าวๆ! ตอนนี้ดูราวกับว่าวิทยาศาสตร์เป็นยาวิเศษชนิดหนึ่งที่ซาตานได้ตระเตรียมสำหรับมนุษย์ เพื่อที่เมื่อพวกเจ้าพยายามที่จะหยั่งรู้สิ่งต่างๆ พวกเจ้าจะทำเช่นนั้นในหมอกหนาทึบ ไม่สำคัญว่าเจ้าจะมองอย่างตั้งใจเพียงใด เจ้าไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน และไม่สำคัญว่าเจ้าจะพยายามอย่างตั้งใจเพียงใด เจ้าไม่สามารถเข้าใจสิ่งเหล่านั้นได้ อย่างไรก็ดี ซาตานใช้นามของวิทยาศาสตร์เพื่อกระตุ้นความอยากของเจ้าและจูงจมูกเจ้า โดยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ไปสู่หุบเหวลึกและความตาย

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 6

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger