พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 138

วันที่ 04 เดือน 07 ปี 2021

พระบัญชาที่พระยาห์เวห์พระเจ้ามีต่อมนุษย์

ปฐมกาล 2:15-17 พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงให้มนุษย์นั้นอาศัยอยู่ในสวนเอเดน ให้ทำและดูแลสวน พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงตรัสสั่งมนุษย์นั้นว่า "ผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้ เจ้ากินได้ตามใจชอบ แต่ผลของต้นไม้แห่งการรู้ถึงความดีและความชั่วนั้น ห้ามเจ้ากิน เพราะในวันใดที่เจ้ากิน เจ้าจะต้องตายแน่"

การล่อลวงหญิงนั้นของงู

ปฐมกาล 3:1-5 ในบรรดาสัตว์ป่าทั้งหมด ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงสร้างนั้น งูฉลาดกว่าทั้งหมด มันถามหญิงนั้นว่า "จริงหรือ? ที่พระเจ้าตรัสว่า 'ห้ามพวกเจ้ากินผลจากต้นไม้ทุกต้นในสวนนี้'" หญิงนั้นจึงตอบงูว่า "ผลของต้นไม้ในสวนนี้ เรากินได้ เว้นแต่ผลของต้นไม้ที่อยู่กลางสวนนั้น พระเจ้าตรัสว่า 'ห้ามพวกเจ้ากินและแตะต้องมัน มิฉะนั้นพวกเจ้าจะตาย'" งูจึงพูดกับหญิงนั้นว่า "พวกเจ้าไม่ใช่ว่าจะต้องตายแน่ เพราะพระเจ้าทรงทราบอยู่ว่า พวกเจ้ากินผลจากต้นไม้นั้นวันใด ตาของพวกเจ้าจะสว่างขึ้นในวันนั้น แล้วพวกเจ้าจะเป็นเหมือนอย่างพระเจ้า คือรู้ความดีและความชั่ว"

สองบทตอนนี้คัดมาจากหนังสือปฐมกาลในพระคัมภีร์ พวกเจ้าทุกคนคุ้นเคยกับสองบทตอนนี้หรือไม่? สองบทตอนนี้เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในปฐมกาล เมื่อครั้งที่มวลมนุษย์ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องจริง ก่อนอื่น พวกเรามาดูว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าได้มีพระบัญชาประเภทใดกับอาดัมและเอวา เนื้อหาของพระบัญชานี้สำคัญสำหรับหัวข้อของพวกเราในวันนี้มาก "พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงตรัสสั่งมนุษย์นั้นว่า 'ผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้ เจ้ากินได้ตามใจชอบ แต่ผลของต้นไม้แห่งการรู้ถึงความดีและความชั่วนั้น ห้ามเจ้ากิน เพราะในวันใดที่เจ้ากิน เจ้าจะต้องตายแน่'" อะไรคือสิ่งสำคัญในพระบัญชาที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ในบทตอนนี้? ประการแรก พระเจ้าตรัสบอกมนุษย์ว่าสิ่งใดที่เขาสามารถกินได้ ซึ่งก็คือ ผลไม้จากต้นไม้หลายชนิด ทั้งหมดนั้นไม่มีอันตรายและไม่มีพิษ สามารถกินได้และกินได้โดยอิสระตามที่มนุษย์ปรารถนา โดยไม่ต้องกังวลและสงสัยเลย นี่คือส่วนหนึ่งของพระบัญชาของพระเจ้า อีกส่วนหนึ่งเป็นคำเตือน ในคำเตือนนี้ พระเจ้าตรัสบอกมนุษย์ว่าเขาต้องไม่กินผลไม้จากต้นไม้แห่งความรู้เกี่ยวกับความดีและความชั่ว จะเกิดสิ่งใดขึ้นหรือหากเขากินผลจากต้นไม้นี้? พระเจ้าได้ตรัสบอกมนุษย์ว่า หากเจ้ากินผลจากมัน เจ้าจะตายอย่างแน่นอน พระวจนะเหล่านี้ตรงไปตรงมาไม่ใช่หรือ? หากพระเจ้าตรัสบอกเจ้าอย่างนี้ แต่เจ้าไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด เจ้าจะปฏิบัติต่อพระวจนะของพระองค์เสมือนเป็นกฎเกณฑ์หรือคำสั่งที่ต้องเชื่อฟังหรือไม่? พระวจนะดังกล่าวควรได้รับการเชื่อฟังมิใช่หรือ? แต่ไม่ว่ามนุษย์จะสามารถเชื่อฟังหรือไม่ พระวจนะของพระเจ้าก็ไม่อ้อมค้อม พระเจ้าได้ตรัสบอกมนุษย์อย่างชัดเจนยิ่งนักว่าสิ่งใดที่เขาอาจกินได้และสิ่งใดที่เขาไม่อาจกินได้ และจะเกิดอะไรขึ้นหากเขากินสิ่งที่เขาไม่อาจกินได้ ในพระวจนะสั้นๆ ที่พระเจ้าตรัสนี้ เจ้าสามารถเห็นสิ่งใดเกี่ยวกับพระอุปนิสัยของพระเจ้าหรือไม่? พระวจนะเหล่านี้ของพระเจ้าเที่ยงแท้หรือไม่? มีการหลอกลวงใดๆ หรือไม่? มีความเท็จใดๆ หรือไม่? มีการข่มขู่ใดๆ หรือไม่? (ไม่มี) พระเจ้าได้ตรัสบอกมนุษย์อย่างซื่อสัตย์ ตามความจริง และอย่างจริงใจถึงสิ่งที่เขาอาจกินได้และสิ่งที่เขาไม่อาจกินได้ พระเจ้าได้ตรัสอย่างชัดเจนและตรงๆ มีความหมายซ่อนเร้นใดๆ อยู่ในพระวจนะเหล่านี้หรือไม่? พระวจนะเหล่านี้ไม่ตรงไปตรงมาหรอกหรือ? มีความจำเป็นต้องคาดคะเนหรือไม่? (ไม่) ไม่มีความจำเป็นต้องคาดเดาเลย ความหมายของพระวจนะเหล่านี้ชัดแจ้งในทันทีที่มอง เมื่อได้อ่านพระวจนะเหล่านี้ คนเรารู้สึกเข้าใจชัดเจนอย่างครบถ้วนถึงความหมายของมัน นั่นคือ สิ่งที่พระเจ้าทรงต้องประสงค์ที่จะตรัสและสิ่งที่พระองค์ทรงต้องประสงค์ที่จะแสดงออกนั้นมาจากพระทัยของพระองค์ สิ่งทั้งหลายที่พระเจ้าทรงแสดงนั้นสะอาด ตรงไปตรงมา และชัดเจน ไม่มีสิ่งจูงใจแอบแฝง อีกทั้งไม่มีความหมายซ่อนเร้นใดๆ พระองค์ตรัสกับมนุษย์โดยตรง ทรงบอกเขาถึงสิ่งที่เขาอาจกินได้และสิ่งที่เขาไม่อาจกินได้ กล่าวคือ โดยผ่านทางพระวจนะเหล่านี้ของพระเจ้า มนุษย์สามารถมองเห็นได้ว่าพระทัยของพระเจ้านั้นโปร่งใสและเที่ยงแท้ ไม่มีร่องรอยของความเท็จในที่นี้ นั่นไม่ใช่กรณีของการบอกเจ้าว่าเจ้าไม่อาจกินสิ่งที่กินได้ หรือการบอกเจ้าว่า "จงกินแล้วดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น" กับสิ่งทั้งหลายที่เจ้าไม่สามารถกินได้ พระเจ้าไม่ได้ทรงหมายถึงการนี้ ไม่ว่าพระเจ้าดำริสิ่งใดในพระทัยของพระองค์ นั่นคือสิ่งที่พระองค์ตรัส หากเราพูดว่าพระเจ้าทรงบริสุทธิ์เพราะพระองค์ทรงแสดงและเปิดเผยพระองค์เองภายในพระวจนะเหล่านี้ในหนทางนี้ เจ้าก็อาจรู้สึกว่าเราทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ หรือว่าเราได้ขยายประเด็นออกไปค่อนข้างไกลเกิน หากเป็นเช่นนั้น จงอย่ากังวลเลย พวกเรายังไม่แล้วเสร็จ

ตอนนี้พวกเรามาพูดคุยกันเกี่ยวกับ "การล่อลวงหญิงนั้นของงู" กันเถิด ผู้ใดคืองูนั้น? (ซาตาน) ซาตานเล่นบทตัวประกอบเสริมความเด่นในแผนการบริหารจัดการหกพันปีของพระเจ้า และนั่นเป็นบทบาทที่พวกเราต้องกล่าวถึงเมื่อพวกเราสามัคคีธรรมเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของพระเจ้า เหตุใดเราจึงกล่าวเช่นนี้? หากเจ้าไม่รู้จักความชั่วและความเสื่อมทรามของซาตาน หากเจ้าไม่รู้จักธรรมชาติของซาตาน เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ไม่มีทางที่จะรับรู้ความบริสุทธิ์ และเจ้าไม่สามารถรู้ว่าจริงๆ แล้วความบริสุทธิ์คือสิ่งใด ผู้คนเชื่อด้วยความสับสนว่าสิ่งที่ซาตานทำนั้นถูกต้อง เพราะพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ภายในอุปนิสัยที่เสื่อมทรามประเภทนี้ เมื่อไม่มีตัวประกอบเสริมความเด่น ไม่มีจุดเปรียบเทียบ เจ้าก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าความบริสุทธิ์คือสิ่งใด นั่นคือเหตุผลที่ซาตานต้องถูกกล่าวพาดพิงในที่นี้ การกล่าวพาดพิงดังกล่าวไม่ใช่การพูดคุยที่ว่างเปล่า พวกเราจะมองเห็นโดยผ่านทางคำพูดและความประพฤติซาตานว่าซาตานกระทำการอย่างไร ซาตานทำให้มวลมนุษย์เสื่อมทรามอย่างไร และสิ่งใดคือธรรมชาติและโฉมหน้าของซาตาน ดังนั้นแล้ว หญิงนั้นได้กล่าวสิ่งใดกับงูหรือ? หญิงนั้นได้เล่าให้งูฟังว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าได้ตรัสสิ่งใดแก่นาง เมื่อนางได้กล่าวคำพูดเหล่านี้ นางมั่นใจหรือไม่ว่าสิ่งที่พระเจ้าได้ตรัสกับนางนั้นเที่ยงแท้? นางไม่สามารถแน่ใจได้ ใช่หรือไม่? ในฐานะใครบางคนที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นใหม่ๆ นางไม่มีความสามารถที่จะแยกแยะความดีออกจากความชั่ว และนางไม่มีความคิดอ่านใดๆ เกี่ยวกับสิ่งใดรอบตัวนางเลย เมื่อตัดสินจากคำพูดที่นางพูดกับงู นางไม่แน่ใจในหัวใจของนางว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นถูกต้อง ท่าทีของนางเป็นเช่นนั้น ดังนั้น เมื่องูมองเห็นว่าหญิงนั้นมีท่าทีของความไม่มั่นใจต่อพระวจนะของพระเจ้า มันจึงได้กล่าวว่า "พวกเจ้าไม่ใช่ว่าจะต้องตายแน่ เพราะพระเจ้าทรงทราบอยู่ว่า พวกเจ้ากินผลจากต้นไม้นั้นวันใด ตาของพวกเจ้าจะสว่างขึ้นในวันนั้น แล้วพวกเจ้าจะเป็นเหมือนอย่างพระเจ้า คือรู้ความดีและความชั่ว" มีสิ่งใดเป็นปัญหาในคำพูดเหล่านี้หรือไม่? เมื่อพวกเจ้าอ่านประโยคนี้ พวกเจ้ามีสำนึกรับรู้เกี่ยวกับเจตนาของงูหรือไม่? เจตนาเหล่านั้นคือสิ่งใด? (เพื่อทดลองมนุษย์ เพื่อชักจูงเขาให้ทำบาป) มันต้องการที่จะทดลองหญิงผู้นี้ ต้องการให้นางเลิกใส่ใจพระวจนะของพระเจ้า แต่มันไม่ได้พูดสิ่งเหล่านี้โดยตรง ด้วยเหตุนี้ พวกเราสามารถกล่าวได้ว่ามันฉลาดแกมโกงมาก มันแสดงจุดมุ่งหมายของมันออกมาในหนทางที่กลับกลอกและหลบหลีกเพื่อที่จะเข้าถึงวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ของมัน ซึ่งมันปกปิดไว้ภายในใจของมัน ซ่อนเร้นจากมนุษย์—เช่นนั้นคือความฉลาดแกมโกงของงู นี่คือหนทางของการพูดและการกระทำของซาตานตลอดมา มันพูดว่า "ไม่แน่" โดยไม่ได้ยืนยันทางหนึ่งทางใด แต่เมื่อได้ยินดังนี้ หัวใจของหญิงที่ไม่รู้เท่าทันคนนี้ก็หวั่นไหว งูนั้นจึงยินดี เพราะคำพูดของมันมีผลตามที่อยากได้แล้ว—เช่นนั้นคือเจตนาที่ฉลาดแกมโกงของงูนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการสัญญาถึงผลสุดท้ายที่ดูเหมือนน่าพึงปรารถนาสำหรับมนุษย์ มันได้ล่อลวงนางโดยกล่าวว่า "พวกเจ้ากินผลจากต้นไม้นั้นวันใด ตาของพวกเจ้าจะสว่างขึ้นในวันนั้น" ดังนั้นนางจึงครุ่นคิดว่า "การที่ตาของฉันสว่างขึ้นย่อมเป็นสิ่งที่ดี!" และเมื่อนั้นมันจึงได้พูดบางอย่างที่เป็นการชักนำมากขึ้นไปอีก เป็นคำพูดที่มนุษย์ไม่เคยรู้จักมาก่อน คำพูดที่มีอำนาจทดลองอันใหญ่หลวงเหนือบรรดาผู้ที่ได้ยิน นั่นคือ "พวกเจ้าจะเป็นเหมือนอย่างพระเจ้า คือรู้ความดีและความชั่ว" คำพูดเหล่านี้ไม่เป็นการล่อลวงมนุษย์อย่างทรงพลังหรอกหรือ? มันเป็นเหมือนการที่ใครบางคนพูดกับเจ้าว่า "ใบหน้าของเธอมีรูปทรงที่น่าอัศจรรย์ เสียแต่ว่าดั้งจมูกของเธอสั้นไปนิด หากเธอแก้ไขตรงนั้น เช่นนั้นแล้วเธอก็จะสวยระดับโลกไปเลย!" คำพูดเหล่านี้จะขับเคลื่อนหัวใจของใครบางคนที่ไม่เคยมีความอยากที่จะทำศัลยกรรมความงามมาก่อนเลยหรือไม่? คำพูดเหล่านี้ไม่เป็นการล่อลวงหรอกหรือ? การล่อลวงนี้ไม่ใช่กำลังทดลองเจ้าหรอกหรือ? และนี่ไม่ใช่การทดลองหรอกหรือ? (ใช่) พระเจ้าตรัสสิ่งทั้งหลายอย่างนี้หรือไม่? มีเค้าอันใดของการนี้ในพระวจนะของพระเจ้าที่พวกเราเพิ่งได้อ่านไปอย่างละเอียดเมื่อครู่หรือไม่? (ไม่มี) พระเจ้าตรัสสิ่งที่พระองค์ดำริในพระทัยของพระองค์หรือไม่? มนุษย์สามารถมองเห็นพระทัยของพระเจ้าโดยผ่านทางพระวจนะของพระองค์ได้หรือไม่? (เห็นได้) แต่เมื่องูกล่าวคำพูดเหล่านั้นกับหญิงนั้น เจ้าสามารถมองเห็นหัวใจของมันได้หรือไม่? (ไม่เห็น) และเนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของมนุษย์ มนุษย์จึงถูกคำพูดของงูล่อลวงโดยง่าย แล้วก็ติดเบ็ดอย่างง่ายดาย ดังนั้นแล้ว เจ้าสามารถมองเห็นเจตนาของซาตานหรือไม่? เจ้าสามารถมองเห็นจุดประสงค์เบื้องหลังสิ่งที่ซาตานพูดหรือไม่? เจ้าสามารถมองเห็นแผนร้ายและเล่ห์กระเท่ห์ของซาตานได้หรือไม่? (ไม่เห็น) วิธีพูดของซาตานเป็นตัวแทนของอุปนิสัยประเภทใด? เจ้าได้เห็นเนื้อแท้ประเภทใดในตัวซาตานโดยผ่านทางคำพูดเหล่านี้? มันไม่แฝงเล่ห์ร้ายหรอกหรือ? บางทีทางเปลือกนอกมันยิ้มให้เจ้า หรือบางทีมันไม่เผยการแสดงออกใดๆ ก็ตามทางสีหน้าเลย แต่ในหัวใจของมันนั้น มันกำลังคิดคำนวณอยู่ว่าจะได้มาซึ่งวัตถุประสงค์ของมันอย่างไร และเป็นวัตถุประสงค์นี้นี่เองที่เจ้าไม่สามารถมองเห็นได้ สัญญาทั้งหมดที่มันทำกับเจ้า ข้อได้เปรียบทั้งหมดที่มันพรรณนานั้นคือหน้ากากที่อำพรางการล่อลวงของมัน เจ้ามองเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งดี ดังนั้น เจ้าจึงรู้สึกว่าสิ่งที่มันพูดมีประโยชน์มากกว่า มีสาระสำคัญมากกว่าสิ่งที่พระเจ้าตรัส เมื่อการนี้เกิดขึ้น มนุษย์จะไม่กลายเป็นนักโทษผู้นบนอบหรอกหรือ? กลยุทธ์ที่ซาตานใช้ไม่เลวทรามต่ำช้าหรอกหรือ? เจ้ายอมให้ตัวเจ้าเองจมลงสู่ความเสื่อม เจ้ากลายเป็นมีความสุขที่จะติดตามซาตานไป ทำตามซาตาน โดยที่ซาตานไม่ต้องกระดิกนิ้ว แต่แค่พูดสองประโยคนี้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ซาตานจึงบรรลุวัตถุประสงค์ เจตนานี้ไม่ได้ชั่วร้ายเลวทรามหรอกหรือ? นี่ไม่ใช่โฉมหน้าดั้งเดิมที่สุดของซาตานหรอกหรือ? จากคำพูดของซาตาน มนุษย์สามารถมองเห็นแรงจูงใจอันชั่วร้ายเลวทรามของมัน มองเห็นโฉมหน้าอันน่าเกลียดน่ากลัวของมันและมองเห็นเนื้อแท้ของมัน นั่นไม่เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ? หากเปรียบเทียบประโยคเหล่านี้โดยไม่วิเคราะห์ บางทีเจ้าอาจรู้สึกราวกับว่าพระวจนะของพระยาห์เวห์พระเจ้านั้นจืดชืด ไม่น่าสนใจ และไม่มีความแปลกใหม่ รู้สึกว่าพระวจนะเหล่านั้นไม่ควรแก่การบรรยายอย่างกระตือรือร้นเพื่อสรรเสริญความซื่อสัตย์ของพระเจ้าในที่นี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเราเข้าใจคำพูดของซาตานและโฉมหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวของซาตานในฐานะตัวประกอบเสริมความเด่น พระวจนะเหล่านี้ของพระเจ้าไม่มีความหมายต่อผู้คนในวันนี้อย่างมีนัยสำคัญหรอกหรือ? (มี) มนุษย์สามารถสำนึกรับรู้ความไร้ตำหนิอันพิสุทธิ์ของพระเจ้าโดยผ่านทางการเปรียบเทียบนี้ ทุกคำที่ซาตานพูด ตลอดจนแรงจูงใจ เจตนา และวิธีพูดของซาตาน—ทั้งหมดนั้นล้วนมีสิ่งเจือปน ลักษณะสำคัญหลักๆ ในวิธีการพูดของซาตานคือสิ่งใด? ซาตานใช้การพูดอ้อมค้อมเพื่อล่อลวงเจ้า โดยไม่ปล่อยให้เจ้ามองทะลุการตีสองหน้าของมัน อีกทั้งไม่ยอมให้เจ้าหยั่งรู้วัตถุประสงค์ของมัน ซาตานปล่อยเจ้าฮุบเหยื่อ แต่แล้วเจ้ายังต้องสรรเสริญและร้องขับขานคุณความดีของมันอีกด้วย ลูกเล่นนี้ไม่ใช่วิธีการที่ซาตานเลือกทำจนเป็นนิสัยหรอกหรือ? (ใช่)

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 4

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger