พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 98

วันที่ 24 เดือน 10 ปี 2023

การทรงบัญชาของพระเจ้าที่มีต่อซาตาน

โยบ 2:6 และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า "ดูเถิด เขาอยู่ในมือเจ้า จงไว้ชีวิตเขาเท่านั้น"

ซาตานไม่เคยกล้าฝ่าฝืนสิทธิอำนาจของพระผู้สร้าง และเป็นเพราะการนี้ ทุกสรรพสิ่งจึงดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นระเบียบ

นี่คือบทตัดตอนจากหนังสือโยบ และ "เขา" ในพระวจนะเหล่านี้อ้างอิงถึงโยบ ถึงแม้จะพอสังเขป แต่ประโยคนี้ขยายความได้หลายประเด็น มันพรรณนาถึงการแลกเปลี่ยนเฉพาะระหว่างพระเจ้ากับซาตานในโลกฝ่ายวิญญาณ และบอกกับพวกเราว่า เป้าหมายของพระวจนะของพระเจ้าก็คือซาตาน มันยังบันทึกสิ่งที่พระเจ้าได้ตรัสไว้อย่างเฉพาะเจาะจงอีกด้วย พระวจนะของพระเจ้าคือการทรงบัญชาและคำสั่งต่อซาตาน รายละเอียดเฉพาะของคำสั่งนี้เกี่ยวข้องกับการไว้ชีวิตโยบและเส้นที่พระองค์ได้ทรงขีดไว้ให้ซาตานปฏิบัติต่อโยบ—นั่นคือซาตานต้องไว้ชีวิตโยบ สิ่งแรกที่พวกเราเรียนรู้จากประโยคนี้ก็คือว่า พระวจนะเหล่านี้คือพระวจนะที่พระเจ้าตรัสต่อซาตาน ตามตัวบทเดิมของหนังสือโยบนั้น บอกให้พวกเรารู้ถึงภูมิหลังของพระวจนะดังกล่าว นั่นคือ ซาตานได้ปรารถนาที่จะกล่าวหาโยบ และดังนั้นมันจึงต้องได้รับความเห็นด้วยจากพระเจ้าก่อนที่มันจะสามารถทดลองเขาได้ เมื่อทรงยินยอมต่อข้อเรียกร้องของซาตานที่จะทดลองโยบแล้ว พระเจ้าก็ได้ทรงวางเงื่อนไขดังต่อไปนี้แก่ซาตาน กล่าวคือ "โยบอยู่ในมือเจ้า จงไว้ชีวิตเขาเท่านั้น" อะไรคือธรรมชาติของพระวจนะเหล่านี้? พระวจนะเหล่านี้เป็นการทรงบัญชา เป็นคำสั่งอย่างชัดเจน เมื่อได้เข้าใจธรรมชาติของพระวจนะเหล่านี้แล้ว แน่นอนว่า เจ้าก็ควรจะจับความเข้าใจด้วยว่า องค์หนึ่งเดียวผู้ซึ่งได้ทรงออกคำสั่งนี้คือพระเจ้า และว่าผู้ที่ได้รับคำสั่งนี้ และเชื่อฟังคำสั่งนี้ก็คือซาตาน ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องกล่าวว่า สัมพันธภาพระหว่างพระเจ้ากับซาตานในคำสั่งนี้นั้น เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อทุกคนที่อ่านพระวจนะเหล่านี้ แน่นอนว่า นี่ยังเป็นสัมพันธภาพระหว่างพระเจ้ากับซาตานในโลกฝ่ายวิญญาณ และเป็นความแตกต่างระหว่างพระอัตลักษณ์และพระสถานะของพระเจ้ากับซาตานตามที่ถูกจัดเตรียมไว้ในบันทึกทั้งหลายเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนระหว่างพระเจ้ากับซาตานในองค์พระคัมภีร์เหล่านี้ และเป็นความแตกต่างที่โดดเด่นชัดเจนระหว่างพระอัตลักษณ์และพระสถานะของพระเจ้ากับซาตานที่มนุษย์ในปัจจุบันสามารถเรียนรู้ได้ในบันทึกที่เป็นตัวบทและตัวอย่างเฉพาะนี้ ณ จุดนี้ เราต้องกล่าวว่า บันทึกพระวจนะเหล่านี้เป็นเอกสารสำคัญชิ้นหนึ่งในความรู้ของมวลมนุษย์เกี่ยวกับพระอัตลักษณ์และพระสถานะของพระเจ้า และมันจัดเตรียมข้อมูลที่สำคัญให้แก่ความรู้ของมวลมนุษย์ในเรื่องพระเจ้า มนุษย์สามารถเข้าใจแง่มุมเฉพาะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแง่มุมในด้านสิทธิอำนาจของพระผู้สร้างโดยผ่านทางการแลกเปลี่ยนนี้ระหว่างพระผู้สร้างกับซาตานในโลกฝ่ายวิญญาณ พระวจนะเหล่านี้คืออีกหนึ่งคำพยานต่อสิทธิอำนาจอันทรงเอกลักษณ์ของพระผู้สร้าง

จากภายนอกนั้น พระยาห์เวห์พระเจ้ากำลังทรงร่วมบทสนทนากับซาตาน ในแง่ของแก่นแท้นั้น ท่าทีที่พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสกับซาตาน และตำแหน่งที่พระองค์ทรงยืนอยู่นั้นสูงกว่าซาตาน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พระยาห์เวห์พระเจ้ากำลังทรงบัญชาแก่ซาตานด้วยพระกระแสเสียงที่เป็นคำสั่ง และกำลังทรงบอกกับซาตานว่ามันควรทำและไม่ควรทำสิ่งใด ว่าโยบนั้นอยู่ในมือของมันแล้ว และว่ามันมีอิสระในการจะปฏิบัติต่อโยบอย่างไรก็ตามที่มันปรารถนา—แต่ว่ามันต้องไม่เอาชีวิตของโยบ ตัวบทย่อยก็คือว่า ถึงแม้โยบจะถูกวางไว้ในมือของซาตาน แต่ชีวิตของเขาไม่ได้ถูกส่งมอบให้แก่ซาตาน ไม่มีผู้ใดสามารถเอาชีวิตของโยบไปจากพระหัตถ์ของพระเจ้าได้ เว้นแต่พระเจ้าทรงอนุญาต ท่าทีของพระเจ้าได้แสดงไว้อย่างชัดเจนในการทรงบัญชาต่อซาตานครั้งนี้ และการทรงบัญชานี้ยังสำแดงและเปิดเผยว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงสนทนากับซาตานจากตำแหน่งใด ในการนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าไม่เพียงแต่ทรงถือครองพระสถานะของพระเจ้าผู้ทรงสร้างความสว่าง และอากาศ และทุกสรรพสิ่ง และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย พระสถานะของพระเจ้าผู้ทรงถือครองอธิปไตยเหนือทุกสรรพสิ่งและสิ่งมีชีวิตทั้งหลายเท่านั้น แต่ยังทรงถือครองสถานะของพระเจ้าผู้ทรงบัญชามวลมนุษย์ และทรงบัญชาแดนคนตาย และพระเจ้าผู้ทรงควบคุมความมีชีวิตและความตายของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงด้วย ในโลกฝ่ายวิญญาณนั้น ผู้ใดอีกหรือนอกจากพระเจ้า ที่จะกล้าออกคำสั่งเช่นนั้นแก่ซาตาน? และเหตุใดหรือ พระเจ้าจึงได้ทรงออกคำสั่งของพระองค์แก่ซาตานโดยพระองค์เอง? เพราะชีวิตของมนุษย์ รวมถึงชีวิตของโยบนั้น ถูกควบคุมโดยพระเจ้า พระเจ้าไม่ทรงอนุญาตให้ซาตานทำอันตรายหรือเอาชีวิตของโยบ และแม้กระทั่งเมื่อพระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานทดลองโยบ พระเจ้าก็ยังคงไม่ทรงลืมที่จะออกคำสั่งดังกล่าวเป็นพิเศษ และได้ทรงบัญชาซาตานอีกครั้งว่าจงอย่าเอาชีวิตของโยบ ซาตานไม่เคยกล้าที่จะฝ่าฝืนสิทธิอำนาจของพระเจ้า และยิ่งไปกว่านั้น มันยังรับฟังและเชื่อฟังคำสั่งและคำบัญชาเฉพาะของพระเจ้าอย่างระมัดระวังอยู่เสมอ ไม่เคยกล้าที่จะเยาะเย้ยท้าทายคำบัญชาและคำสั่งเหล่านั้น และแน่นอนว่ามันไม่กล้าที่จะปรับเปลี่ยนคำสั่งใดๆ ของพระเจ้าอย่างอิสระ เช่นนั้นเองคือขีดจำกัดทั้งหลายที่พระเจ้าได้ทรงกำหนดไว้สำหรับซาตาน และดังนั้น ซาตานจึงไม่เคยกล้าที่จะข้ามขีดจำกัดเหล่านั้น การนี้มิใช่พระอิทธิฤทธิ์แห่งสิทธิอำนาจของพระเจ้าหรอกหรือ? การนี้มิใช่คำพยานต่อสิทธิอำนาจของพระเจ้าหรอกหรือ? ซาตานมีการจับความเข้าใจที่ชัดเจนกว่ามวลมนุษย์มากในเรื่องวิธีประพฤติตนต่อพระเจ้า และวิธีมีทรรศนะต่อพระเจ้า และดังนั้น ในโลกฝ่ายวิญญาณ ซาตานจึงมองเห็นพระสถานะและพระอัตลักษณ์ของพระเจ้าอย่างชัดเจนยิ่ง และมีความซึ้งคุณค่าอันลึกซึ้งต่อพระอิทธิฤทธิ์แห่งสิทธิอำนาจของพระเจ้าและหลักธรรมที่อยู่เบื้องหลังการนำสิทธิอำนาจของพระองค์มาใช้ มันไม่กล้าที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไปเลย อีกทั้งไม่กล้าที่จะล่วงละเมิดสิ่งเหล่านั้นในหนทางใดเลย หรือที่จะทำสิ่งใดที่เป็นการฝ่าฝืนสิทธิอำนาจของพระเจ้า และมันไม่กล้าที่จะท้าทายพระพิโรธของพระเจ้าในหนทางใดเลย ถึงแม้ว่าซาตานจะชั่วและโอหังโดยกำเนิด แต่มันไม่เคยกล้าที่จะข้ามเขตคั่นและขีดจำกัดที่พระเจ้าได้ทรงกำหนดไว้ให้มัน เป็นเวลาหลายล้านปีมาแล้วที่มันยึดปฏิบัติตามเขตคั่นเหล่านี้อย่างเคร่งครัด มันได้ยึดปฏิบัติตามการทรงบัญชาและคำสั่งทุกประการที่พระเจ้าทรงมอบให้กับมัน และไม่เคยกล้าที่จะก้าวข้ามเครื่องหมายนั้นเลย ถึงแม้ว่าซาตานจะมุ่งร้าย แต่มันก็มีปัญญากว่ามวลมนุษย์ที่เสื่อมทรามอยู่มาก มันรู้จักพระอัตลักษณ์ของพระผู้สร้าง และรู้จักเขตคั่นของมันเอง จากการกระทำ "ที่นบนอบ" ของซาตานจะเห็นได้ว่า สิทธิอำนาจและฤทธานุภาพของพระเจ้านั้น เป็นประกาศิตจากสวรรค์ซึ่งซาตานไม่อาจฝ่าฝืนได้ และเห็นได้ว่า เป็นเพราะความทรงเอกลักษณ์และสิทธิอำนาจของพระเจ้าอย่างแน่ชัดนั่นเอง ทุกสรรพสิ่งจึงเปลี่ยนแปลงและแพร่กระจายไปอย่างเป็นระเบียบ มวลมนุษย์จึงสามารถดำรงชีวิตและทวีจำนวนขึ้นภายในครรลองที่พระเจ้าทรงสถาปนาขึ้น โดยไม่มีบุคคลหรือวัตถุใดสามารถทำความเสียหายให้กับคำสั่งนี้ได้ และไม่มีบุคคลหรือวัตถุใดสามารถเปลี่ยนแปลงธรรมบัญญัตินี้ได้—เพราะสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดล้วนมาจากพระหัตถ์ของพระผู้สร้าง และจากคำสั่งและสิทธิอำนาจของพระผู้สร้าง

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 1

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

วิดีโอประเภทอื่นๆ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger