พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 53

วันที่ 19 เดือน 02 ปี 2024

จงยอมรับการทดสอบของพระเจ้า จงเอาชนะการทดลองของซาตาน และจงยอมให้พระเจ้าได้รับการเป็นอยู่ทั้งหมดของเจ้า

ในช่วงระหว่างพระราชกิจแห่งการปฏิบัติตามการจัดเตรียมและการสนับสนุนของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ พระองค์ตรัสบอกมนุษย์เกี่ยวกับน้ำพระทัยและข้อพึงประสงค์ของพระองค์ด้วยความครบถ้วนบริบูรณ์ และทรงแสดงกิจการต่างๆ และพระอุปนิสัยของพระองค์ และสิ่งที่พระองค์ทรงมีและทรงเป็นให้มนุษย์เห็น วัตถุประสงค์คือเพื่อให้มนุษย์มีพร้อมด้วยวุฒิภาวะ และเพื่อเปิดโอกาสให้มนุษย์ได้รับความจริงต่างๆ จากพระเจ้าในขณะที่ติดตามพระองค์—ความจริงที่เป็นอาวุธที่พระเจ้าได้ทรงมอบให้มนุษย์เพื่อใช้ต่อสู้กับซาตาน เมื่อมีพร้อมดังนั้นแล้ว มนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับการทดสอบของพระเจ้า พระเจ้าทรงมีวิธีการและช่องทางมากมายสำหรับการทดสอบมนุษย์ แต่พวกเขาทุกคนพึงต้องมี "ความร่วมมือ" จากศัตรูของพระเจ้า นั่นก็คือ ซาตาน อีกนัยหนึ่งคือ เมื่อมนุษย์ได้รับมอบอาวุธที่จะใช้เพื่อทำการสู้รบกับซาตานแล้ว พระเจ้าก็ทรงส่งมอบมนุษย์ให้แก่ซาตานและทรงอนุญาตให้ซาตาน "ทดสอบ" วุฒิภาวะของมนุษย์ หากมนุษย์สามารถฝ่าออกมาจากรูปแบบการสู้รบของซาตานได้ หากเขาสามารถหนีรอดจากวงล้อมของซาตานและยังคงมีชีวิตอยู่ได้ เช่นนั้นแล้วมนุษย์ก็จะได้ผ่านการทดสอบไป แต่หากมนุษย์ล้มเหลวในการออกจากรูปแบบการสู้รบของซาตาน และนบนอบต่อซาตาน เช่นนั้นแล้ว เขาก็จะไม่ได้ผ่านการทดสอบ ไม่ว่าแง่มุมใดของมนุษย์ที่พระเจ้าทรงตรวจดู เกณฑ์สำหรับการตรวจสอบของพระองค์ก็คือการที่มนุษย์ตั้งมั่นอยู่ในคำพยานของเขาหรือไม่เมื่อถูกซาตานโจมตี และการที่เขาได้ละทิ้งพระเจ้าและยอมแพ้และนบนอบต่อซาตานหรือไม่ในขณะที่ถูกซาตานวางกับดัก อาจกล่าวได้ว่าการที่มนุษย์สามารถได้รับการช่วยให้รอดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการที่เขาสามารถเอาชนะและทำให้ซาตานพ่ายแพ้ได้หรือไม่ และการที่เขาสามารถได้รับอิสรภาพได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการที่เขาสามารถยกอาวุธที่พระเจ้าได้ทรงมอบให้เขาเพื่อเอาชนะพันธนาการของซาตานด้วยตัวเขาเอง ทำให้ซาตานละทิ้งความหวังและปล่อยเขาไปโดยสิ้นเชิงได้หรือไม่ หากซาตานละทิ้งความหวังและปล่อยใครบางคนไป นี่หมายความว่าซาตานจะไม่มีวันพยายามที่จะเอาบุคคลนี้ไปจากพระเจ้าอีก จะไม่มีวันกล่าวหาและแทรกแซงกับบุคคลนี้อีก จะไม่มีวันทรมานหรือโจมตีพวกเขาอย่างหยาบโลนอีก มีเพียงใครบางคนเช่นนี้เท่านั้นที่พระเจ้าจะทรงได้รับไว้อย่างแท้จริง นี่คือกระบวนการทั้งหมดทั้งมวลที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อได้รับผู้คน

คำตักเตือนและความรู้แจ้งที่คำพยานของโยบได้จัดเตรียมไว้ให้ชนรุ่นหลัง

ในเวลาเดียวกันกับการทำความเข้าใจกระบวนการที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อให้ได้รับใครบางคนมาโดยบริบูรณ์นั้น ผู้คนจะยังเข้าใจจุดมุ่งหมายและนัยสำคัญแห่งการที่พระเจ้าทรงมอบหมายโยบให้แก่ซาตานด้วยเช่นกัน ผู้คนจะไม่ถูกรบกวนจิตใจด้วยความทรมานของโยบอีกต่อไป และมีความซึ้งคุณค่าใหม่เกี่ยวกับนัยสำคัญของการนี้ พวกเขาไม่กังวลเกี่ยวกับการที่พวกเขาจะตกอยู่ภายใต้การทดลองแบบเดียวกันกับโยบด้วยตัวพวกเขาเองหรือไม่อีกต่อไป และไม่ต่อต้านหรือปฏิเสธการทดสอบของพระเจ้าที่จะมาถึงอีกต่อไป ความเชื่อและการเชื่อฟังของโยบ และคำพยานของเขาที่จะเอาชนะซาตานได้เป็นแหล่งกำเนิดของความช่วยเหลือและการให้กำลังใจอันใหญ่หลวงแก่ผู้คน พวกเขามองเห็นความหวังเพื่อความรอดของพวกเขาเองในตัวโยบ และมองเห็นว่าโดยผ่านทางความเชื่อ การเชื่อฟัง และการยำเกรงพระเจ้าแล้วนั้น เป็นไปได้ทั้งสิ้นที่จะทำให้ซาตานพ่ายแพ้ ที่จะเหนือชั้นกว่าซาตาน พวกเขามองเห็นว่าตราบเท่าที่พวกเขาโอนอ่อนต่ออธิปไตยและการจัดการเตรียมการของพระเจ้า และตราบเท่าที่พวกเขาครอบครองความตั้งใจแน่วแน่และความเชื่อที่จะไม่ละทิ้งพระเจ้าหลังจากได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป เช่นนั้นแล้ว พวกเขาก็สามารถนำความอับอายและความพ่ายแพ้มาให้แก่ซาตานได้ และพวกเขามองเห็นว่าพวกเขาจำเป็นเพียงแค่ต้องครอบครองความตั้งใจแน่วแน่และความเพียรพยายามที่จะตั้งมั่นในคำพยานของพวกเขาเท่านั้น—แม้ว่ามันจะหมายถึงการสูญเสียชีวิตของพวกเขาไป—เพื่อทำให้ซาตานขลาดกลัวและตีให้ถอยร่นอย่างรวดเร็ว คำพยานของโยบเป็นคำเตือนแก่ชนรุ่นหลัง และคำเตือนนี้บอกพวกเขาว่าหากพวกเขาไม่ทำให้ซาตานพ่ายแพ้ เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็จะไม่มีวันสามารถทำให้ตัวเองพ้นการกล่าวหาและการแทรกแซงของซาตานได้ อีกทั้งพวกเขาจะไม่สามารถหนีรอดจากการล่วงละเมิดและการโจมตีของซาตานตลอดไป คำพยานของโยบได้ให้ความรู้แจ้งแก่ชนรุ่นหลัง ความรู้แจ้งนี้สอนผู้คนว่ามีเพียงเมื่อพวกเขาดีพร้อมและเที่ยงธรรมเท่านั้นพวกเขาจึงจะสามารถยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่วได้ มันสอนพวกเขาว่ามีเพียงเมื่อพวกเขายำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่วเท่านั้นพวกเขาจึงสามารถเป็นคำพยานที่แข็งแกร่งและดังกึกก้องต่อพระเจ้าได้ มีเพียงเมื่อพวกเขาเป็นคำพยานที่แข็งแกร่งและดังกึกก้องต่อพระเจ้าเท่านั้นพวกเขาจึงจะสามารถไม่มีวันถูกซาตานควบคุมและใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การทรงนำและการคุ้มครองปกป้องของพระเจ้าได้—เมื่อนั้นเท่านั้นพวกเขาจึงจะได้รับการช่วยให้รอดอย่างแท้จริง ทุกคนที่ไล่ตามเสาะหาความรอดควรจะเอาอย่างบุคลิกภาพของโยบและการไล่ตามเสาะหาแห่งชีวิตของเขา สิ่งที่โยบใช้ในการดำรงชีวิตในช่วงระหว่างทั้งชีวิตของเขาและการประพฤติของเขาในช่วงระหว่างการทดสอบของเขานั้นเป็นสมบัติอันล้ำค่าสำหรับบรรดาคนเหล่านั้นทั้งหมดที่ไล่ตามเสาะหาหนทางแห่งความยำเกรงพระเจ้าและการหลบเลี่ยงความชั่ว

คำพยานของโยบนำความสบายพระทัยมาสู่พระเจ้า

หากเราบอกพวกเจ้าในตอนนี้ว่าโยบเป็นคนดีงาม พวกเจ้าอาจไม่สามารถซึ้งคุณค่าความหมายที่อยู่ภายในคำพูดเหล่านี้ และอาจไม่สามารถจับความเข้าใจความรู้สึกเบื้องหลังเหตุผลที่เราได้พูดสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดไป แต่จงรอจนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อพวกเจ้าได้รับประสบการณ์กับการทดสอบแบบเดียวกันหรือคล้ายกันกับการทดสอบทั้งหลายของโยบ เมื่อพวกเจ้าได้ก้าวผ่านความทุกข์ยาก เมื่อพวกเจ้าได้รับประสบการณ์กับการทดสอบต่างๆ ที่พระเจ้าได้ทรงจัดการเตรียมการไว้ให้พวกเจ้าโดยพระองค์เอง เมื่อเจ้ามอบทุกอย่างของเจ้า และทนฝ่าการเหยียดหยามและความยากลำบากเพื่อที่จะเหนือกว่าซาตานและเป็นคำพยานต่อพระเจ้าท่ามกลางการทดลองทั้งหลาย—เมื่อนั้นเจ้าจะสามารถซึ้งคุณค่าความหมายของคำพูดที่เราพูดเหล่านี้ ในเวลานั้น เจ้าจะรู้สึกว่าเจ้านั้นด้อยกว่าโยบอย่างห่างไกล เจ้าจะรู้สึกว่าโยบนั้นดีงามเพียงใด และว่าเขานั้นมีค่าควรแก่การเอาอย่าง เมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าจะตระหนักว่าคำพูดชั้นเยี่ยมที่โยบได้พูดไปเหล่านี้มีความสำคัญเพียงใดสำหรับผู้ที่เสื่อมทรามและผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ในเวลาเหล่านี้ และเจ้าจะตระหนักว่ามันยากเพียงใดสำหรับผู้คนในปัจจุบันที่จะสัมฤทธิ์สิ่งที่โยบได้สัมฤทธิ์ผล เมื่อเจ้ารู้สึกว่ามันยาก เจ้าจะซึ้งคุณค่าว่าพระทัยของพระเจ้าทรงกังวลและทรงห่วงใยเพียงใด เจ้าจะซึ้งคุณค่าว่าพระเจ้าได้ทรงจ่ายราคาสูงเพียงใดเพื่อที่จะได้รับผู้คนเช่นนั้นมา และสิ่งที่พระเจ้าทรงทำและทรงสละเพื่อมวลมนุษย์นั้นมีค่าเพียงใด บัดนี้ที่พวกเจ้าได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเจ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้องแม่นยำและการประเมินที่ถูกต้องเกี่ยวกับโยบหรือไม่? ในสายตาของพวกเจ้า โยบเป็นคนที่ดีพร้อมและเที่ยงธรรมที่แท้จริงผู้ซึ่งยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่วหรือไม่? เราเชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่จะพูดอย่างแน่นอนที่สุดว่าใช่ เพราะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งที่โยบได้กระทำและได้เปิดเผยไปนั้นไม่อาจปฏิเสธได้โดยมนุษย์คนใดหรือซาตาน สิ่งเหล่านั้นเป็นข้อพิสูจน์ที่ทรงพลังมากที่สุดถึงชัยชนะของโยบที่มีเหนือซาตาน ข้อพิสูจน์นี้ถูกสร้างขึ้นในตัวโยบ และเป็นคำพยานแรกที่พระเจ้าทรงได้รับ ด้วยเหตุนี้ เมื่อโยบได้ชนะในการทดลองของซาตานและได้เป็นคำพยานต่อพระเจ้า พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นความหวังในตัวโยบ และพระทัยของพระองค์ก็ได้รับการทำให้สบายโดยโยบ นับตั้งแต่เวลาแห่งการทรงสร้างจนกระทั่งถึงเวลาของโยบ นี่คือครั้งแรกที่พระเจ้าทรงได้รับประสบการณ์ว่าความสบายพระทัยเป็นอย่างไร และอะไรคือความหมายของการสบายพระทัยโดยมนุษย์ มันเป็นครั้งแรกที่พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็น และทรงได้รับคำพยานที่แท้จริงที่มีขึ้นเพื่อพระองค์

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 2

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger