พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเปิดโปงความเสื่อมทรามของมวลมนุษย์ | บทตัดตอน 328

วันที่ 08 เดือน 10 ปี 2020

จงมองเข้าไปในตัวของพวกเจ้าเองเพื่อดูว่าเจ้าปฏิบัติความชอบธรรมในทุกสิ่งที่เจ้าทำหรือไม่ และการกระทำทุกอย่างของเจ้าได้รับการเฝ้าดูจากพระเจ้าหรือไม่ นี่คือหลักการซึ่งบรรดาผู้ที่เชื่อในพระเจ้าใช้ในการปฏิบัติกิจธุระต่างๆ ของพวกเขา เจ้าจะได้รับการเรียกขานว่ามีความชอบธรรมเพราะพวกเจ้าสามารถทำให้พระเจ้าพึงพอพระทัยได้ และเพราะเจ้ายอมรับการดูแลและการปกป้องจากพระเจ้า ในสายพระเนตรของพระเจ้า ทุกคนที่ยอมรับการดูแล การปกป้อง และความเพียบพร้อมจากพระเจ้า และผู้ที่พระองค์ได้ทรงรับไว้นั้น มีความชอบธรรม และพระองค์ทรงถือว่าพวกเขาทั้งหมดมีค่า ยิ่งเจ้ายอมรับพระวจนะปัจจุบันของพระเจ้ามากขึ้นเท่าไร เจ้าก็จะยิ่งสามารถได้รับและเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น และดังนั้นแล้ว เจ้าก็จะยิ่งสามารถใช้ชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้าและสนองต่อข้อพึงประสงค์ของพระองค์ได้มากขึ้นเท่านั้น นี่คือพระบัญชาของพระเจ้าสำหรับพวกเจ้า และมันเป็นสิ่งที่พวกเจ้าทั้งหมดควรที่จะสามารถสัมฤทธิ์ผลได้ หากเจ้าใช้มโนคติอันหลงผิดของเจ้าเองเพื่อวัดและจำกัดเขตพระเจ้า ราวกับว่าพระเจ้าทรงเป็นรูปปั้นดินเหนียวที่ไม่เปลี่ยนแปลง และหากเจ้าจำกัดเขตพระเจ้า ให้อยู่ภายในขอบเขตของพระคัมภีร์และจำกัดวงพระองค์ไว้ภายในวงเขตงานที่จำกัดอย่างสิ้นเชิง เช่นนั้นแล้วนี่ก็พิสูจน์ว่าพวกเจ้าได้กล่าวโทษพระเจ้า เพราะพวกยิวในยุคพันธสัญญาเดิมรับเอาพระเจ้าเป็นรูปเคารพในรูปสัณฐานตายตัวที่พวกเขายึดถือไว้ในหัวใจของพวกเขา ราวกับว่าพระเจ้าทรงรับการเรียกขานได้ว่าพระเมสสิยาห์เท่านั้น และพระองค์ที่ทรงได้รับการเรียกขานว่าพระเมสสิยาห์เท่านั้นที่อาจเป็นพระเจ้าได้ และเพราะมนุษยชาติได้รับใช้และนมัสการพระเจ้าราวกับว่าพระองค์ทรงเป็นรูปปั้นดินเหนียว (ที่ไร้ชีวิต) พวกเขาจึงได้ตอกตรึงพระเยซูในเวลานั้นไว้บนกางเขน ตัดสินโทษพระองค์ด้วยการประหารชีวิต—พระเยซูผู้ไร้ความผิดจึงได้รับโทษประหารด้วยเหตุดังนี้ พระเจ้าทรงบริสุทธิ์ต่อการกระทำผิดใดๆ กระนั้นมนุษย์ก็ยังปฏิเสธที่จะละเว้นไม่ทำร้ายพระองค์ และยืนกรานที่จะตัดสินโทษพระองค์ด้วยการประหารชีวิต และดังนั้นพระเยซูจึงทรงถูกตรึงกางเขน มนุษย์เชื่อเสมอว่าพระเจ้าทรงไม่เปลี่ยนแปลง และนิยามพระองค์บนพื้นฐานของหนังสือเล่มเดียว นั่นคือพระคัมภีร์ ประหนึ่งว่ามนุษย์มีความเข้าใจบริบูรณ์ในการบริหารจัดการของพระเจ้า ประหนึ่งว่ามนุษย์กำทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าทรงทำไว้ในฝ่ามือของเขา ผู้คนนั้นไร้สาระอย่างที่สุด โอหังอย่างที่สุด และพวกเขาทั้งหมดมีพรสวรรค์ในการพูดเกินจริง ไม่ว่าความรู้ในเรื่องพระเจ้าของเจ้าจะมากมายเพียงใด เรายังคงพูดว่าเจ้าไม่รู้จักพระเจ้า พูดว่าเจ้าเป็นใครบางคนที่ต่อต้านพระเจ้ามากที่สุด และพูดว่าเจ้าได้กล่าวโทษพระเจ้า เพราะเจ้าไม่มีความสามารถอย่างที่สุดในการเชื่อฟังพระราชกิจของพระเจ้าและเดินบนเส้นทางแห่งการถูกทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า ทำไมพระเจ้าทรงไม่เคยพึงพอพระทัยกับการกระทำต่างๆ ของมนุษย์เล่า? เพราะมนุษย์ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะเขามีมโนคติอันหลงผิดมากเกินไป และเพราะความรู้ของเขาในเรื่องพระเจ้าไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงแต่อย่างใดเลย แต่กลับทวนซ้ำอรรถบทเดิมอย่างน่าเบื่อหน่ายโดยปราศจากความเปลี่ยนแปลง และใช้วิธีเข้าหาแบบเดิมกับทุกสถานการณ์ และดังนั้น หลังจากที่ได้ทรงเสด็จมายังแผ่นดินโลกในวันนี้ พระเจ้าจึงทรงถูกมนุษย์ตอกตรึงกับกางเขนอีกครั้ง มนุษยชาติช่างโหดร้าย! การรู้เห็นเป็นใจและเล่ห์เพทุบาย การคว้ากระชากและฉกฉวยสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากคนอื่น การแก่งแย่งชื่อเสียงและความมั่งคั่ง การเข่นฆ่ากันและกัน—เมื่อไหร่มันจะสิ้นสุดเสียที? ถึงแม้ว่าจะมีพระวจนะนับหลายแสนคำที่พระเจ้าทรงตรัส ไม่มีใครที่คิดได้สักคน ผู้คนปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของครอบครัว ลูกชายและลูกสาวของตน เพื่ออาชีพการงาน ความสำเร็จที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้ในภายภาคหน้า ตำแหน่งหน้าที่ ความเหลิงในลาภยศ และเงินทองของตน เพื่ออาหาร เสื้อผ้า และเนื้อหนัง แต่มีใครสักคนหรือไม่ที่มีการกระทำต่างๆ ซึ่งเป็นไปเพื่อพระเจ้าอย่างแท้จริง? แม้แต่ในท่ามกลางผู้ที่ปฏิบัติเพื่อพระเจ้า ก็มีเพียงไม่กี่คนนักที่รู้จักพระเจ้า มีผู้คนสักกี่คนที่ไม่ได้ปฏิบัติบนผลประโยชน์ของตนเอง? มีสักกี่คนที่ไม่กดขี่หรือกีดกันบุคคลอื่นๆ เพื่อที่จะปกป้องตำแหน่งหน้าที่ของตนเอง? และดังนั้น พระเจ้าจึงทรงถูกตัดสินประหารชีวิตโดยพลการเกินจะนับครั้งได้ และบรรดาผู้พิพากษาป่าเถื่อนจำนวนนับไม่ถ้วนได้กล่าวโทษ พระเจ้าและได้ตอกตรึงพระองค์กับกางเขนอีกครั้ง จะมีสักกี่คนที่สามารถเรียกได้ว่าชอบธรรมเพราะการที่พวกเขาปฏิบัติเพื่อพระเจ้าอย่างแท้จริง?

เป็นการง่ายอย่างนั้นเชียวหรือที่จะถูกทำให้มีความเพียบพร้อมเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าในฐานะวิสุทธิชนหรือคนชอบธรรม? มันเป็นถ้อยแถลงที่แท้จริงว่า "ไม่มีผู้ชอบธรรมบนแผ่นดินโลกนี้ ผู้ชอบธรรมไม่ได้อยู่ในโลกนี้" เมื่อพวกเจ้ามาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า จงพิจารณาสิ่งที่พวกเจ้ากำลังสวมใส่ จงพิจารณาทุกถ้อยคำและการกระทำของพวกเจ้า ทุกความคิดและแนวคิดของพวกเจ้า และแม้กระทั่งบรรดาความฝันที่พวกเจ้าฝันอยู่ทุกวัน—สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าเองทั้งสิ้น นี่ไม่ใช่รูปการณ์แวดล้อมที่แท้จริงหรอกหรือ? "ความชอบธรรม" ไม่ได้หมายถึงการให้ทานแก่ผู้อื่น มันไม่ได้หมายถึงการรักเพื่อนบ้านของเจ้าเสมือนตัวเจ้าเอง และมันไม่ได้หมายถึงการละเว้นจากการทะเลาะเบาะแว้งและข้อโต้แย้งหรือการจี้ปล้นและการลักขโมย ความชอบธรรมหมายถึง การรับเอาพระบัญชาของพระเจ้าดุจหน้าที่ของเจ้า และการเชื่อฟังการจัดวางเรียบเรียงและการจัดการเตรียมการของพระเจ้าเป็นดุจการทรงเรียกซึ่งถูกส่งมาจากสวรรค์ โดยไม่คำนึงถึงเวลาหรือสถานที่ เสมือนทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้ถูกกระทำโดยองค์พระเยซูเจ้า นี่คือความชอบธรรมซึ่งพระเจ้าได้ตรัสไว้ โลทผู้นั้นอาจถูกเรียกได้ว่าชอบธรรมก็เป็นเพราะเขาได้ช่วยทูตสวรรค์สองตนที่พระเจ้าทรงส่งมาโดยไม่ได้พิจารณาส่วนได้ส่วนเสียของเขาเอง อาจกล่าวได้เพียงแค่ว่าสิ่งที่เขาได้ทำในเวลานั้นอาจเรียกได้ว่าชอบธรรม แต่ไม่อาจเรียกเขาว่าเป็นคนชอบธรรมได้ มันเป็นเพียงเพราะว่าโลทได้เห็นพระเจ้าแล้ว เขาจึงได้มอบลูกสาวสองคนของเขาเพื่อแลกกับทูตสวรรค์ แต่พฤติกรรมในอดีตของเขานั้นไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นตัวแทนของความชอบธรรม และดังนั้นเราจึงกล่าวว่า "ไม่มีผู้ชอบธรรมบนแผ่นดินโลกนี้" แม้กระทั่งในบรรดาผู้ที่อยู่ในกระแสแห่งการฟื้นคืน ก็ไม่มีใครที่สามารถเรียกได้ว่าชอบธรรม ไม่สำคัญว่าการกระทำต่างๆ ของเจ้าจะดีเพียงใด ไม่สำคัญว่าเจ้าจะดูเหมือนว่าถวายพระเกียรติแด่พระนามของพระเจ้าอีกทั้งไม่มีการชกต่อยและสาปแช่งผู้อื่น และไม่มีการจี้ปล้นและไม่ปล้นสะดมจากผู้อื่น เจ้าก็ยังคงไม่อาจถูกเรียกว่าชอบธรรมได้ เพราะนี่คือสิ่งที่บุคคลธรรมดาสามารถมีได้ สิ่งสำคัญในขณะนี้ก็คือว่าเจ้าไม่รู้จักพระเจ้า อาจกล่าวได้เพียงแค่ว่า ณ ปัจจุบันนี้ เจ้ามีความเป็นมนุษย์ที่ปกติอยู่เล็กน้อย แต่ไม่มีองค์ประกอบของความชอบธรรมที่พระเจ้าได้ตรัสถึง และดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดเลยที่เจ้าทำสามารถพิสูจน์ได้ว่าเจ้ารู้จักพระเจ้า

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, คนชั่วจะถูกลงโทษอย่างแน่นอน

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger