พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเข้าสู่ชีวิต | บทตัดตอน 560

วันที่ 30 เดือน 09 ปี 2021

สิ่งใดหรือที่ประกอบกันขึ้นเป็นธรรมชาติของบุคคล? เจ้าเพียงรู้จักความเสื่อมทราม ความไม่เชื่อฟัง ข้อบกพร่อง ข้อเสียหาย มโนคติที่หลงผิด และเจตนาทั้งหลายของมนุษย์ และไร้ความสามารถที่จะค้นพบสิ่งทั้งหลายภายในธรรมชาติของมนุษย์ เจ้าเพียงรู้ชั้นผิวส่วนนอกเท่านั้น โดยปราศจากความสามารถที่จะค้นพบต้นกำเนิดของมัน และนี่ไม่ประกอบขึ้นเป็นความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์เลย บ้างก็ถึงกับคิดถึงสิ่งผิวเผินเหล่านี้ว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ โดยกล่าวว่า "ดูนะ ฉันเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ ฉันระลึกรู้ความโอหังของตัวฉัน นั่นไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์หรอกหรือ?" ความโอหังเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติของมนุษย์ นั่นแท้จริงมาก อย่างไรก็ตาม นั่นไม่เพียงพอให้รับรู้ได้ในความหมายเชิงคำสอน การรู้จักธรรมชาติของคนเราเองคืออะไรหรือ? จะสามารถรู้จักการนั้นได้อย่างไร? การนั้นถูกรู้จักจากแง่มุมใด? ยิ่งไปกว่านั้น ธรรมชาติของคนเราควรถูกให้ทรรศนะอย่างเฉพาะเจาะจงโดยผ่านทางสิ่งทั้งหลายที่คนเราเปิดเผยอย่างไร? ก่อนอื่น เจ้าสามารถมองเห็นธรรมชาติของมนุษย์โดยผ่านทางความสนใจทั้งหลายของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ผู้คนบางคนรักการเต้นรำโดยเฉพาะ บ้างก็รักพวกนักร้องหรือดาราภาพยนตร์เป็นพิเศษ และบ้างก็ชื่นชูผู้คนที่มีชื่อเสียงบางคนโดยเฉพาะ จากการมองที่ความสนใจเหล่านี้ ธรรมชาติของผู้คนเหล่านี้คืออะไร? ตัวอย่างเช่น บ้างก็อาจจะชื่นชูนักร้องเฉพาะบางคน กระทั่งถึงจุดที่พวกเขาย้ำคิดอยู่กับทุกการเคลื่อนไหว ทุกรอยยิ้ม และทุกคำพูดของนักร้องผู้นั้น พวกเขาติดพันนักร้องผู้นั้น และแม้แต่ถ่ายรูปทุกสิ่งทุกอย่างที่นักร้องผู้นั้นสวมใส่และสนิทสนมกับมัน ความชื่นชูระดับนี้แสดงให้เห็นอะไรที่เกี่ยวกับธรรมชาตินี้ของมนุษย์หรือ? นั่นแสดงให้เห็นว่า บุคคลดังกล่าวมีเพียงสิ่งเหล่านั้นในหัวใจของเขาเท่านั้น และไม่มีพระเจ้า สิ่งสารพัดทั้งหมดที่บุคคลนี้คิด รัก แสวงหานั้นเป็นของซาตาน สิ่งเหล่านั้นยึดครองหัวใจของบุคคลนี้ ซึ่งถูกยกให้กับสิ่งเหล่านี้ อะไรหรือคือปัญหาตรงนี้? หากบางสิ่งถูกรักอย่างสุดขั้ว เช่นนั้นแล้ว สิ่งนั้นสามารถกลายมาเป็นชีวิตของใครบางคนและยึดครองหัวใจของเขาได้ อันเป็นการพิสูจน์อย่างเต็มที่ว่า บุคคลนั้นเป็นผู้เคารพบูชาบุคคลต้นแบบคนหนึ่งผู้ซึ่งไม่ต้องการพระเจ้า และกลับรักมารแทน เพราะฉะนั้น พวกเราสามารถสรุปได้ว่า ธรรมชาติของบุคคลเช่นนั้นเป็นธรรมชาติที่รักและเคารพบูชามาร ไม่รักความจริง และไม่ต้องการพระเจ้า นี่ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องในการให้ทรรศนะต่อธรรมชาติของใครบางคนหรือ? นี่คือหนทางที่ถูกต้องอย่างครบบริบูรณ์ นี่คือวิธีที่ธรรมชาติของมนุษย์ถูกชำแหละ ตัวอย่างเช่น ผู้คนบางคนชื่นชูเปาโลมากเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาชอบที่จะออกไปข้างนอกและกล่าวสุนทรพจน์และทำงาน พวกเขาชอบที่จะเข้าร่วมการชุมนุมและเทศนา พวกเขาชอบให้ผู้คนฟังพวกเขา เคารพบูชาพวกเขา และกังวลสนใจพวกเขาเป็นหลัก พวกเขาชอบที่จะมีสถานะในจิตใจของผู้อื่น และพวกเขาซาบซึ้งเมื่อผู้อื่นให้คุณค่าภาพลักษณ์ที่พวกเขานำเสนอ พวกเราลองมาวิเคราะห์ธรรมชาติของพวกเขาจากพฤติกรรมเหล่านี้กันว่า สิ่งใดหรือที่เป็นธรรมชาติของพวกเขา? หากพวกเขาประพฤติเช่นนี้จริง เช่นนั้นแล้วมันก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาโอหังและทะนงตน พวกเขาไม่นมัสการพระเจ้าแต่อย่างใดเลย พวกเขาแสวงหาสถานะที่สูงส่งกว่าและปรารถนาที่จะมีสิทธิอำนาจเหนือผู้อื่น ที่จะครองพวกเขา และที่จะมีสถานะในจิตใจของพวกเขา นี่คือภาพลักษณ์อมตะของซาตาน แง่มุมที่โดดเด่นของธรรมชาติของพวกเขาก็คือความโอหังและความทะนงตน ความไม่เต็มใจที่จะนมัสการพระเจ้า และความปรารถนาที่จะได้รับการเคารพบูชาจากผู้อื่น พฤติกรรมเช่นนั้นสามารถให้ทรรศนะที่ชัดเจนมากแก่เจ้าในเรื่องธรรมชาติของพวกเขา

—พระวจนะฯ เล่ม 3 บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย, วิธีที่จะรู้จักธรรมชาติของมนุษย์

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger