พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเข้าสู่ชีวิต | บทตัดตอน 503

วันที่ 21 เดือน 09 ปี 2020

ทันทีที่พระเจ้าทรงกลายเป็นชีวิตภายในผู้คน ผู้คนกลายเป็นไร้ความสามารถที่จะทิ้งพระเจ้าได้ นี่ไม่ใช่กิจการของพระเจ้าหรอกหรือ? ไม่มีคำพยานที่ยิ่งใหญ่กว่านี้แล้ว! พระเจ้าได้ทรงพระราชกิจจนถึงจุดหนึ่ง พระองค์ได้ตรัสเพื่อให้ผู้คนทำงานปรนนิบัติ ถูกตีสอน หรือตาย และผู้คนก็ยังไม่ได้ถอยออกไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้ถูกพิชิตโดยพระเจ้าแล้ว ผู้คนผู้ซึ่งมีความจริงคือบรรดาผู้ที่ ในประสบการณ์จริงของพวกเขา สามารถตั้งมั่นในคำพยานของพวกเขา ตั้งมั่นในฐานะตำแหน่งของพวกเขา ยืนเคียงข้างพระเจ้า โดยปราศจากการล่าถอยตลอดกาล และผู้ซึ่งสามารถมีสัมพันธภาพปกติกับผู้คนผู้ซึ่งรักพระเจ้า ผู้ซึ่ง เมื่อสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นกับพวกเขา สามารถเชื่อฟังพระเจ้าได้อย่างครบบริบูรณ์ และสามารถเชื่อฟังพระเจ้าได้จนสิ้นชีพ การฝึกฝนปฏิบัติและวิวรณ์ของเจ้าในชีวิตจริงคือคำพยานของพระเจ้า สิ่งเหล่านี้คือการดำเนินชีวิตของมนุษย์และคำพยานของพระเจ้า และนี่คือการชื่นชมความรักของพระเจ้าอย่างแท้จริง เมื่อเจ้าได้รับประสบการณ์จนถึงจุดนี้แล้ว ผลกระทบอันสมควรจะได้ถูกทำให้สัมฤทธิ์แล้ว เจ้าครองการดำเนินชีวิตที่แท้จริงและทุกการกระทำของเจ้าถูกมองด้วยความเลื่อมใสจากผู้อื่น เสื้อผ้าอาภรณ์และการปรากฏภายนอกของเจ้านั้นเป็นปกติธรรมดา แต่เจ้าดำเนินชีวิตที่มีความศรัทธาอย่างที่สุด และเมื่อเจ้าสื่อสารกับพระวจนะของพระเจ้า เจ้าได้รับการทรงนำและได้รับการทำให้รู้แจ้งโดยพระองค์ เจ้าสามารถกล่าวน้ำพระทัยของพระเจ้าได้โดยผ่านทางวาจาของเจ้า สื่อสารความเป็นจริง และเจ้าเข้าใจมากมายเกี่ยวกับการรับใช้ในวิญญาณ เจ้าตรงไปตรงมาเมื่อเจ้าพูด เจ้ามีสมบัติผู้ดีและเที่ยงธรรม ไม่เผชิญหน้าด้วยความรุนแรงและมีมารยาท สามารถเชื่อฟังการจัดการเตรียมการของพระเจ้าได้และตั้งมั่นในคำพยานของเจ้าเมื่อสิ่งต่างๆ ตกมาถึงเจ้า และเจ้าใจเย็นและสำรวมไม่ว่าเจ้ากำลังจัดการกับอะไรอยู่ บุคคลประเภทนี้ได้เห็นความรักของพระเจ้าแล้วจริงๆ บางคนยังคงเยาว์วัยอยู่ แต่พวกเขาปฏิบัติตนเหมือนบางคนในวัยกลางคน พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ ครองความจริง และได้รับความเลื่อมใสจากผู้อื่น—และเหล่านี้คือผู้คนซึ่งมีคำพยานและเป็นการสำแดงของพระเจ้า กล่าวคือ เมื่อพวกเขาได้รับประสบการณ์จนถึงจุดหนึ่ง พวกเขาจะมีความรู้ความเข้าใจเชิงลึกต่อพระเจ้าอยู่ภายใน และอุปนิสัยภายนอกของพวกเขาก็จะมั่นคงด้วยเช่นกัน ผู้คนจำนวนมากไม่นำความจริงไปฝึกฝนปฏิบัติและไม่ตั้งมั่นในคำพยานของพวกเขา ในผู้คนเช่นนั้นไม่มีความรักสำหรับพระเจ้า หรือคำพยานต่อพระเจ้าเลย และเหล่านี้คือผู้คนซึ่งพระเจ้าทรงเกลียดมากที่สุด พวกเขาอ่านพระวจนะของพระเจ้า แต่สิ่งที่พวกเขาใช้ในการดำเนินชีวิตคือซาตาน และนี่เป็นการลดพระเกียรติของพระเจ้า สบประมาทพระเจ้า และหมิ่นประมาทพระเจ้า ในผู้คนเช่นนี้ไม่มีสัญญาณของความรักสำหรับพระเจ้า พวกเขาไม่มีพระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เลยโดยสิ้นเชิง ดังนั้น วาจาและการกระทำต่างๆ ของผู้คนจึงเป็นตัวแทนของซาตาน หากหัวใจของเจ้าสงบเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าเสมอ และเจ้าใส่ใจต่อผู้คนและสิ่งต่างๆ รอบตัวเจ้าเสมอ และสิ่งที่กำลังเป็นไปรอบตัวเจ้า และหากเจ้าใส่ใจในพระภาระของพระเจ้า และมีหัวใจที่เคารพพระเจ้าเสมอ พระเจ้าก็ย่อมจะทรงให้ความรู้แจ้งแก่เจ้าภายในบ่อยๆ ในคริสตจักรมีผู้คนที่เป็น "บรรดาผู้ดูแล" กล่าวคือ พวกเขาตั้งท่าเฝ้าดูความล้มเหลวต่างๆ ของผู้อื่นและแล้วก็เลียนแบบและเอาอย่างความล้มเหลวเหล่านั้น พวกเขาไม่สามารถแยกแยะได้ พวกเขาไม่ได้เกลียดชังบาปและไม่ได้เกลียดหรือรู้สึกขยะแขยงสิ่งต่างๆ ของซาตาน ผู้คนเช่นนั้นเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ของซาตาน และในท้ายที่สุดพวกเขาจะถูกพระเจ้าละทิ้งจนถึงที่สุด หัวใจของเจ้าควรแสดงความเคารพเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าตลอดไป เจ้าควรดำเนินสายกลางในคำพูดและการกระทำต่าง ทั้งหลายของเจ้าและอย่าได้มีวันปรารถนาที่จะต่อต้านหรือก่อกวนพระเจ้าเป็นอันขาด เจ้าไม่ควรตั้งใจให้พระราชกิจของพระเจ้าในตัวเจ้าได้เป็นไปโดยมิได้ประโยชน์อันใดเลยเป็นอันขาด หรือยอมให้ความยากลำบากทั้งหมดที่เจ้าได้ทนฝ่าและทั้งหมดซึ่งเจ้าได้นำไปฝึกฝนปฏิบัติต้องสลายไปเปล่าๆ เจ้าจะต้องเต็มใจที่จะทำงานหนักขึ้นและที่จะรักพระเจ้ามากขึ้นบนเส้นทางข้างหน้า เหล่านี้คือผู้คนผู้ซึ่งมีนิมิตเป็นรากฐานของพวกเขา เหล่านี้คือผู้คนผู้ซึ่งแสวงหาความก้าวหน้า

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, บรรดาผู้ที่รักพระเจ้าจะดำเนินชีวิตภายในความสว่างแห่งพระองค์ตลอดกาล

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger