พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเข้าสู่ชีวิต | บทตัดตอน 499

วันที่ 16 เดือน 05 ปี 2021

ปัจจุบัน มีผู้คนมากมายที่อยู่ท่ามกลางการทดสอบและไม่เข้าใจพระราชกิจของพระเจ้า แต่เราบอกเจ้าเลยว่า หากเจ้าไม่เข้าใจพระราชกิจ เช่นนั้นแล้ว เจ้าก็ไม่น่าจะทำการตัดสินเกี่ยวกับมันเสียดีกว่า บางทีอาจมีสักวันเมื่อความจริงจะเป็นที่ประจักษ์ในความครบถ้วนบริบูรณ์ของมัน และเมื่อนั้นเจ้าจะเข้าใจ การไม่ทำการตัดสินจะเป็นประโยชน์สำหรับเจ้า กระนั้นเจ้าก็ไม่สามารถแค่รออย่างนิ่งเฉยได้ เจ้าต้องพยายามที่จะเข้าสู่อย่างแข็งขัน เมื่อนั้นเท่านั้นเจ้าจึงจะเป็นผู้ซึ่งเข้าสู่จริงๆ ผู้คนกำลังพัฒนามโนคติที่หลงผิดเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริงอยู่เสมอเพราะการเป็นกบฏของพวกเขา การนี้ทำให้มีความจำเป็นสำหรับผู้คนทั้งปวงที่จะต้องเรียนรู้วิธีที่จะนบนอบ เพราะพระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริงนั้นคือการทดสอบอันใหญ่หลวงสำหรับมวลมนุษย์ หากเจ้าไม่สามารถตั้งมั่นได้แล้วไซร้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นอันจบสิ้นกัน หากเจ้าไม่มีความเข้าใจถึงการทรงภาคชีวิตจริงของพระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริง เช่นนั้นแล้วเจ้าก็จะไม่สามารถได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าได้ ขั้นตอนสำคัญยิ่งยวดในการที่ผู้คนจะสามารถได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมได้หรือไม่นั้นก็คือการที่พวกเขาเข้าใจการทรงภาคชีวิตจริงของพระเจ้า การทรงภาคชีวิตจริงของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ที่เสด็จมายังแผ่นดินโลกก็คือการทดสอบหนึ่งสำหรับบุคคลทุกคน หากเจ้ามีความสามารถที่จะตั้งมั่นในด้านนี้ได้ เช่นนั้นแล้วเจ้าก็จะเป็นใครบางคนที่รู้จักพระเจ้า และเจ้าจะเป็นใครบางคนที่รักพระองค์อย่างแท้จริง หากเจ้าไม่สามารถตั้งมั่นในด้านนี้ และเจ้าเพียงเชื่อในพระวิญญาณและไม่สามารถเชื่อในการทรงภาคชีวิตจริงของพระเจ้าได้ เช่นนั้นแล้วก็ไม่ว่าความเชื่อของเจ้าในพระเจ้าจะยิ่งใหญ่เพียงใด มันย่อมจะไร้ประโยชน์ หากเจ้าไม่สามารถเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงปรากฏแก่ตาได้ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะสามารถเชื่อในพระวิญญาณของพระเจ้าได้หรือ? เจ้ามิใช่แค่กำลังพยายามหลอกพระเจ้าหรอกหรือ? เจ้าไม่นบนอบเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าผู้ทรงปรากฏแก่ตาและจับต้องได้ ดังนั้น เจ้าจะสามารถนบนอบเฉพาะพระพักตร์พระวิญญาณได้หรือ? พระวิญญาณนั้นไม่ทรงปรากฏแก่ตาและไม่อาจจับต้องได้ ดังนั้น เมื่อเจ้าพูดว่าเจ้านบนอบต่อพระวิญญาณของพระเจ้า เจ้ามิใช่กำลังพูดเรื่องเหลวไหลอยู่หรอกหรือ? กุญแจสำคัญในการรักษาพระบัญญัติก็คือการมีความเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริง ทันทีที่เจ้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริง เจ้าก็จะสามารถรักษาพระบัญญัติได้ มีสองส่วนประกอบในการรักษาพระบัญญัติเหล่านั้น หนึ่งคือการยึดมั่นในแก่นแท้ของพระวิญญาณของพระองค์ และการมีความสามารถที่จะยอมรับการตรวจสอบจากพระวิญญาณเฉพาะพระพักตร์พระวิญญาณได้ ส่วนประกอบอีกอย่างหนึ่งคือการสามารถที่จะมีความเข้าใจถ่องแท้เกี่ยวกับเนื้อหนังซึ่งจุติมาเป็นมนุษย์ และการสัมฤทธิ์การนบนอบที่จริงแท้ ไม่ว่าจะต่อหน้าเนื้อหนังหรือเฉพาะพระพักตร์พระวิญญาณ คนเราต้องเก็บงำความนบนอบและความเคารพต่อพระเจ้าไว้เสมอ มีเพียงผู้ที่เป็นเช่นนี้เท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม หากเจ้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับการทรงภาคชีวิตจริงของพระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริง—กล่าวคือ หากเจ้าได้ตั้งมั่นในการทดสอบแล้ว—เช่นนั้นแล้วก็จะไม่มีสิ่งใดมากเกินไปสำหรับเจ้า

ผู้คนบางคนกล่าวว่า "พระบัญญัตินั้นง่ายที่จะรักษา เจ้าแค่จำเป็นต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาและอย่างมีใจศรัทธาเมื่ออยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า และไม่ออกท่าออกทางบุ้ยใบ้อันใด นี่คือสิ่งที่เป็นการรักษาพระบัญญัติ" นั่นถูกหรือไม่? ดังนั้น หากเจ้าทำสองสามสิ่งลับหลังพระเจ้าที่เป็นการต้านทานพระองค์ นั่นนับว่าเป็นการรักษาพระบัญญัติหรือไม่? เจ้าต้องมีความเข้าใจที่ถ้วนทั่วในเรื่องของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพระบัญญัติ นั่นสัมพันธ์กับการที่ว่าเจ้ามีความเข้าใจที่เป็นจริงเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริงหรือไม่ หากเจ้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับการทรงภาคชีวิตจริงและไม่สะดุดล้มลงในช่วงระหว่างการทดสอบนี้ เช่นนั้นแล้วเจ้าก็สามารถถูกนับได้ว่ามีคำพยานที่แข็งแกร่ง การเป็นพยานที่ดังกึกก้องให้แก่พระเจ้านั้นโดยพื้นฐานแล้วสัมพันธ์กับการที่เจ้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริงหรือไม่ และกับการที่เจ้ามีความสามารถที่จะนบนอบต่อหน้าบุคคลนี้ได้หรือไม่ ผู้ซึ่งไม่ใช่แค่ธรรมดาสามัญเท่านั้น แต่ปกติด้วย และนบนอบจนกระทั่งถึงแก่ความตาย หากเจ้าเป็นพยานอย่างแท้จริงต่อพระเจ้าด้วยหนทางแห่งการนบนอบนี้ นั่นหมายความว่าเจ้าได้ถูกพระเจ้ารับไว้แล้ว หากเจ้าสามารถนบนอบจนกระทั่งถึงแก่ความตายและปราศจากการร้องทุกข์ ไม่ทำการตัดสิน ไม่ใส่ร้าย ไม่มีมโนคติที่หลงผิดอันใด และไม่มีสิ่งจูงใจแอบแฝงอันใดเฉพาะพระพักตร์พระองค์ เช่นนั้นแล้ว พระเจ้าก็จะทรงได้มาซึ่งพระสิริในหนทางนี้ การนบนอบต่อหน้าบุคคลปกติธรรมดาคนหนึ่งผู้ซึ่งถูกมนุษย์ดูแคลน และการมีความสามารถที่จะนบนอบไปจนกระทั่งหมดลมหายใจโดยไม่มีมโนคติที่หลงผิดใดๆ—นี่ละคือคำพยานจริงแท้ ความเป็นจริงที่พระเจ้าทรงพึงประสงค์ให้ผู้คนเข้าสู่นั้นก็คือการที่เจ้าสามารถเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์ นำพระวจนะเหล่านั้นไปปฏิบัติ กราบไหว้เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริงและรู้จักความเสื่อมทรามของเจ้าเอง เปิดใจของเจ้าเฉพาะพระพักตร์พระองค์ และในท้ายที่สุดก็ได้ถูกพระองค์รับไว้โดยผ่านทางพระวจนะเหล่านี้ของพระองค์ พระเจ้าได้รับพระสิริเมื่อถ้อยดำรัสเหล่านี้พิชิตเจ้าและทำให้เจ้าเชื่อฟังพระองค์อย่างเต็มที่ โดยผ่านการนี้พระองค์ทรงทำให้ซาตานอับอายและทำให้พระราชกิจของพระองค์ครบบริบูรณ์ เมื่อเจ้าไม่มีมโนคติที่หลงผิดอันใดเกี่ยวกับการทรงภาคชีวิตจริงของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์—กล่าวคือ เมื่อเจ้าได้ตั้งมั่นในการทดสอบนี้—เช่นนั้นแล้ว เจ้าก็ได้เป็นพยานในการนี้เป็นอย่างดีแล้ว เมื่อมาถึงวันซึ่งเจ้ามีความเข้าใจเต็มเปี่ยมเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงภาคชีวิตจริงและสามารถนบนอบจนกระทั่งถึงแก่ความตายเหมือนที่เปโตรเคยทำ เช่นนั้นแล้ว เจ้าก็จะได้รับการรับไว้และได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า สิ่งใดก็ตามที่พระเจ้าทรงทำซึ่งไม่อยู่ในแนวเดียวกับมโนคติที่หลงผิดของเจ้าก็คือการทดสอบสำหรับเจ้า หากพระราชกิจของพระเจ้าอยู่ในแนวเดียวกับมโนคติที่หลงผิดของเจ้า เจ้าก็คงจะไม่จำเป็นต้องทนทุกข์หรือได้รับการถลุง เป็นเพราะพระราชกิจของพระเจ้านั้นสัมพันธ์กับชีวิตจริงยิ่งนักและไม่อยู่ในแนวเดียวกับมโนคติที่หลงผิดของเจ้านั่นเอง เจ้าจึงจำเป็นต้องปล่อยมือจากมโนคติที่หลงผิดเช่นนั้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นการทดสอบสำหรับเจ้า เป็นเพราะการทรงภาคชีวิตจริงของพระเจ้านั่นเอง ผู้คนทั้งปวงจึงอยู่ในท่ามกลางการทดสอบ พระราชกิจของพระองค์สัมพันธ์กับชีวิตจริง ไม่ใช่เหนือธรรมชาติ เจ้าจะได้รับการรับไว้โดยพระองค์ด้วยการเข้าใจพระวจนะที่สัมพันธ์กับชีวิตจริงของพระองค์และถ้อยดำรัสที่สัมพันธ์กับชีวิตจริงของพระองค์อย่างเต็มที่โดยไม่มีมโนคติที่หลงผิดอันใด และการมีความสามารถที่จะรักพระองค์อย่างแท้จริงในขณะที่พระราชกิจของพระองค์สัมพันธ์กับชีวิตจริงมากยิ่งขึ้นทุกที กลุ่มผู้คนที่พระเจ้าจะทรงรับไว้นั้นคือบรรดาผู้ที่รู้จักพระเจ้า นั่นคือบรรดาผู้ที่รู้จักการทรงภาคชีวิตจริงของพระองค์ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาคือบรรดาผู้ที่สามารถนบนอบต่อพระราชกิจที่สัมพันธ์กับชีวิตจริงของพระเจ้าได้

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, บรรดาผู้ที่รักพระเจ้าจะดำเนินชีวิตภายในความสว่างแห่งพระองค์ตลอดกาล

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger